บาร์บีคิวพลาซ่า ร่วมกับแคมเปญ Limited Education เปิดประเด็นให้คนสนใจปัญหาเรื่องการเข้าถึงการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย ที่พบว่ายังมีหลายคนที่ยังอ่านไม่ออกและเขียนไม่ได้ ผ่านลูกเล่นของการสะกดผิดและฟ้อนท์ที่น่ารักแทนการเขียนของเด็กๆ โดยเปลี่ยนป้ายหน้าร้านใหม่ในรูปแบบของการเขียนเป็นคำไทยที่สะกดผิด เป็น “บาบีคิ้วพาซ่า” ที่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า สาขาเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 เป็นเวลา 1 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1-8 กันยายน 2562 นอกจากนี้ ยังมีเมนูพิเศษที่ใช้คอนเซ็ปต์การสะกดผิดเพื่อให้สอดรับกับตัวโครงการดังกล่าวด้วย
จากข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการ ปี 2558 มีเด็กไทยกว่า 270,000 คน ที่ยังเขียนหนังสือไม่ได้ และมีเด็กกว่า 140,000 คน ที่อ่านหนังสือไม่ออก ดังนั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยสนใจและให้ความสำคัญกับปัญหาด้านการศึกษาของเยาวชนมากขึ้น กอปรกับแบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า เล็งเห็นว่าโครงการดังกล่าว มีแนวคิดที่ดีและน่าสนับสนุน จึงตัดสินใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาเรื่องการศึกษาผ่านโครงการดังกล่าวนี้
คุณบุณย์ญานุช บุญบำรุงทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แบรนด์บาร์บีคิวพลาซ่า บริษัท ฟู้ดแพชชั่น จำกัด กล่าวถึงแคมเปญ Bar B Q PLAZA X Limited Education ว่า “เรามักพูดกันบ่อยๆ ว่า เด็กคืออนาคตของชาติ และการสร้างเด็กเพื่อจะเป็นอนาคตของชาติได้ดีที่สุดก็คือ การศึกษา แต่เราก็พบว่ายังมีช่องว่างทางการศึกษาของไทยค่อนข้างมากทีเดียว ที่สำคัญ ยังมีเด็กอีกจำนวนมากที่ยังขาดโอกาสเข้าถึงการศึกษาที่จำเป็น ทำให้มีผลต่อการอ่านออกเขียนได้ของเด็ก สำหรับบาร์บีคิวพลาซ่า ในฐานะที่เราเป็นแบรนด์ของคนไทย ที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยมาโดยตลอด ทั้งการสนับสนุนด้านทุนการศึกษาสำหรับบุตรหลานของพนักงาน เปิดโอกาสให้กับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ ได้ร่วมฝึกประสบการณ์วิชาชีพภายในองค์กร และยังได้จัดตั้ง “ศูนย์การเรียนฟู้ดแพชชั่น” เพื่อยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้กับพนักงานในองค์กรได้ศึกษาต่อในระดับ ปวช. สาขาธุรกิจค้าปลีก ด้านงานธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคาร โดยได้การรับรองวุฒิการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการ สิ่งเหล่านี้ ได้ตอกย้ำถึงเป้าหมายของแบรนด์ที่จะเดินหน้าให้การสนับสนุนด้านการศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนไทยอย่างต่อเนื่อง และนี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่เราเข้าร่วมในโครงการดีๆ โครงการนี้”
“อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากความเป็นแคมเปญที่ดีสนับสนุนด้านการศึกษาแล้ว อีกสิ่งที่ส่วนตัวมองก็คือแคมเปญนี้เป็นแคมเปญที่มีความน่ารัก มีเส้นของความครีเอทีฟอยู่ด้วย รวมทั้งเป็นแคมเปญที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่อยากเป็นร้านอาหารที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน โดยเฉพาะการนำเอาลายมือเด็กๆ มาใช้ ซึ่งมีความน่ารักมีความใสซื่อบริสุทธิ์ แต่ก็สะท้อนถึงเรื่องจริงที่น่าสะเทือนใจว่ายังมีเด็กหลายคนที่ยังเขียนไม่ได้ เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญที่พูดเรื่องปัญหาสังคมได้อย่างสร้างสรรค์และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้พร้อมกัน ซึ่งสิ่งนี้สอดคล้องกับแนวคิดของเราอยู่แล้ว” คุณบุณย์ญานุช กล่าวเสริม
ส่วนเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจในการเปลี่ยนป้ายหน้าร้านที่สร้างความสงสัยให้เกิดขึ้นนั้น คุณบุณย์ญานุช เล่าว่า เราอยากให้แคมเปญนี้เข้าถึงลูกค้าและผู้บริโภคมากที่สุด ซึ่งเรามองว่า ร้านของเราเป็นเหมือนสิ่งที่เชื่อมโยงระหว่างแบรนด์และลูกค้า ดังนั้น จึงเลือกใช้ร้านเป็นพื้นที่ในการสื่อสาร ในขณะที่การเลือกปรับชื่อป้ายหน้าร้านใหม่ ที่ผ่านมานั้น คนทำ แบรนด์ส่วนใหญ่มักจะหวงแหนชื่อร้าน ชื่อแบรนด์ และโลโก้ อย่างมากและอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แตะต้องไม่ได้เลย ดังนั้น เมื่อเราคิดว่าจะต้องทำอะไรเพื่อสร้างการรับรู้ของแคมเปญให้ได้มากที่สุดกับคนในวงกว้าง จึงตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตรงจุดที่สำคัญที่สุด ซึ่งการทำงานแบบนี้คือการทำงานแบบที่เรียกว่า ‘ไม่มีกรอบ’ ของบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็นและทำสิ่งที่อยู่นอกเหนือกรอบ รวมทั้งคนที่เป็นผู้นำก็ต้องพร้อมที่จะเปิดใจรับฟังไอเดียได้ทุกรูปแบบทำให้เกิดความกล้าที่จะเสนอไอเดียแปลกใหม่อย่างที่ไม่มีใครกล้าทำตรงจุดนี้มาก่อน เราจึงเลือกการเปลี่ยนชื่อหน้าร้านใหม่จากคำว่า “Bar B Q Plaza” มาเป็น “บาบีคิ้วพาซ่า” แทน
“เรารู้ว่าการเปลี่ยนป้ายชื่อในลักษณะดังกล่าว จะทำให้เกิดเป็นบทสนทนาเรื่องการสะกดผิดของเด็กที่ไม่รู้หนังสือในวงกว้าง โดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ และนั่นก็จะทำให้คนหันมาสนใจและตระหนักถึงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นหากเด็กไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เพียงพอ และนี่คือที่มาว่าทำไมเราถึงเปลี่ยนป้ายชื่อ แต่ก็เพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ คือ 1 อาทิตย์ เท่านั้น โดยดำเนินการเปลี่ยนป้ายเริ่มในวันที่ 1 กันยายน และเสร็จสิ้นในวันที่ 8 กันยายน ซึ่งถือเป็น “วันการรู้หนังสือสากล” จัดตั้งขึ้นโดย องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)เพื่อเรียกร้องให้ทุกคนในสังคมตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาความไม่รู้หนังสือของประชากรในประเทศ
ส่วนเป้าหมายที่อยากจะเห็นความสำเร็จของแคมเปญนี้ คุณบุณย์ญานุช กล่าวว่า นอกเหนือจากเป้าหมายในการสร้างการรับรู้ให้กับสังคมเรื่องการขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาของเด็กไทยแล้ว บาร์บีคิวพลาซ่า ในฐานะผู้เข้าร่วมโครงการ ก็อยากมีส่วนช่วยให้คนได้รู้จักโครงการ Limited Education ด้วยว่าที่มาที่ไปอย่างไร มีวิธีการหรือรูปแบบในการนำเสนอปัญหาด้านโอกาสทางการศึกษาผ่านการสะกดผิดอย่างไร ความตั้งใจของโครงการเป็นอย่างไร เพื่อที่ว่าในปีต่อๆ ไป คนจะให้การสนับสนุนและสานต่อโครงการเพื่อเกิดประโยชน์แก่เด็กไทยในวงที่กว้างขึ้น และครั้งนี้ สำหรับ บาร์บีคิวพลาซ่า นอกจากจะช่วยเรื่องการสร้างการรับรู้ของแคมเปญแล้ว ยังจะนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่ได้จากการขาย 3 เมนูของหวาน ได้แก่ ไอศกรีมบัวลอยไข่เค็ม เยลลี่กาแฟ และชาเย็นโฟลตและสินค้าพรีเมี่ยม กระเป๋า บาร์บีกอน เพื่อร่วมมอบเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ ที่ขาดโอกาสด้านการศึกษาอีกด้วย
สำหรับรูปแบบการสนับสนุนแคมเปญดังกล่าว ถูกคิดขึ้นบนหลักการที่ครอบคลุมทั้งในแง่มุมของลูกค้า ธุรกิจ และสังคม
- “ลูกค้า” ต้องวิน เมื่อลูกค้าเข้าร้านได้รับประโยชน์ในการสั่งอาหารที่ได้ทานตามต้องการแล้ว แต่มากกว่านั้นลูกค้ายังมีส่วนช่วยสนับสนุนเด็กที่ขาดโอกาสทางการศึกษาผ่านการทานอาหารในเมนูมูลค่าแค่หลักสิบ แต่ก็ได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับการได้ร่วมทำบุญด้วย
- “ธุรกิจ” ร้านได้โอกาสนำเสนอเมนูที่ลูกค้าอาจจะไม่เคยได้มาลอง ได้แก่ ของหวานในร้าน อีกทั้งยังได้นำเอากระเป๋าบาร์บีกอน มาให้คนที่ชอบได้เป็นเจ้าของในราคาพิเศษและร่วมทำบุญไปพร้อมๆ กันด้วย
- “สังคม” คือการที่นำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งจากการขายเมนูขนมหวานและกระเป๋าบาร์บีกอน ไปมอบเป็นทุนในการสนับสนุนโครงการ Limited Education เพื่อนำเงินไปสนับสนุนการศึกษาสำหรับเด็กต่อไป
“แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราอยากสร้างให้แคมเปญนี้ได้กระตุ้นความคิดของผู้คน โดยไม่จำเป็นต้องมาเป็นลูกค้าในร้านหรือจะต้องมาร่วมกับโครงการนี้เพียงอย่างดี แค่เห็นป้ายหน้าร้านแล้วรู้สึกว่าอยากจะไปช่วยเด็กและเยาวชนก็สามารถออกไปต่อยอดทำในมุมอื่นๆ ตามสะดวกก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นจากตัวคุณเองหรือว่าในนามองค์กร หรือแม้แต่ผู้ประกอบการ พาร์ทเนอร์ด้านธุรกิจต่างๆ หากเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีก็อยากชักชวนให้ช่วยกันทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดถ้าเราช่วยกันมั่นใจว่าท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ได้กลับมาก็คือผลประโยชน์ของประเทศชาติและเยาวชนของชาติในอนาคตนั่นเอง” คุณบุณย์ญานุช กล่าวทิ้งท้าย พร้อมกับเสริมว่า และไม่เพียงแค่แคมเปญนี้เท่านั้นแต่เร็วๆ นี้ บาร์บีคิวพลาซ่ายังมีแคมเปญส่งเสริมด้านการศึกษาอื่นๆ อีกซึ่งอยากให้รอติดตามต่อไป
สำหรับโครงการ Bar B Q PLAZA X Limited Education เกิดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “ยิ่งชอป ยิ่งลด” (ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา) โดยแคมเปญดังกล่าวจะมีไปตั้งแต่เมื่อวันที่1 ถึง 30 กันยายนนี้ โดยจะนำรายได้จากการขายขนมหวาน 3 เมนู และกระเป๋าบาร์บีกอน ร่วมสมทบทุนในโครงการดังกล่าว #พี่มังก้อนช่วยน้อง #LimitedEducation ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/barbqplazathailand