iSAB ชูปรัชญา “ฝึกสติ รับวิกฤต” แนวทางแก้ปัญหาในยุคปัจจุบัน

การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันต้องมีทั้งกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่นอกจากการบริหารงานในทางโลกแล้ว หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่า หลักธรรมคำสอนที่เคยได้ยินมาก็สามารถนำพาธุรกิจให้ไปสู่จุดสูงสุดได้ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ “สถาบันยุทธศาสตร์ธุรกิจเชิงบวก” หรือ iSAB ให้ความสนใจและเห็นความสำคัญ จึงได้นิมนต์ สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี มาเป็นวิทยากรพิเศษของหลักสูตร “THE MASTER” โดยบรรยายในหัวข้อ “ฝึกสติ รับวิกฤต”

สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ได้บรรยายถึงหลักการดำเนินธุรกิจในเวทีโลกปัจจุบันไว้ว่า “พันธกิจของทุกคนที่จะเดินหน้าประกอบอาชีพของตนเองให้เป็นอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ สามารถอยู่ได้บนเวทีโลกได้ในปัจจุบัน ต้องมีปรัชญา 4 คำนี้ ซึ่งมาจาก Uranus Theory ได้แก่ 1) Change 2) Innovation 3) Idealism และ 4) Freedom สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญบนเวทีโลกในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการศึกษา 4 คำนี้จะมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของทุกคน เมื่อโลกหมุนไปประเทศไทยก็ต้องหมุนตาม รวมถึงธุรกิจของเราด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยสิ่งที่มีอุปการะเป็นอย่างมากของชีวิตมนุษย์มีอยู่สองอย่าง ได้แก่ สติ หมายถึง ความระลึกได้ และ สัมปชัญญะ หมายถึง รู้สึกตัวได้ในขณะที่พูดและกระทำ ซึ่งอันดับแรกเราต้องมีสติในการดำเนินชีวิตให้เท่าทันกับเวทีโลก ถ้าตัวเราขาดสติ การพูดและการกระทำก็จะออกมาไม่ดี ทุกคนที่หวังความเจริญก้าวหน้าจึงต้องตั้งสติเป็นอย่างแรก แล้วจึงไปข้อที่สองคือสัมปชัญญะ เราต้องรู้ตัวว่าพูดและทำอะไร ซึ่งสิ่งที่สำคัญของชีวิตคือผิดแล้วรู้ตัวว่าผิด สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ เมื่อรู้ว่าผิดหรือบกพร่องแล้วก็ตั้งสติ คิดให้รอบด้านครบทุกมิติเพื่อแก้ไขได้ ทั้งสองสิ่งนี้เป็นขั้นพื้นฐานที่จะครองชีวิตหน้าที่การงานให้บรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นปัญหาหรือวิกฤตที่เกิดขึ้นจึงมาจากการที่เราไม่ยอมรับใน 4 คำนี้ ทำให้ธุรกิจของเราล้าหลัง ไม่ประสบผลสำเร็จในโลกปัจจุบัน และหากเราไม่ยอมเปลี่ยนแปลง คู่แข่งก็จะเดินนำหน้าเราไปในที่สุด

นอกจากนี้ยังมีหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ คือ อริยสัจ 4ซึ่งมีแนวทางที่สอดคล้องกับปรัชญาดังกล่าวทั้ง 4 ข้อและสามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจได้ โดยอริยสัจ 4 ประกอบไปด้วย ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สามารถเปรียบเทียบได้คือ 1) ทุกข์ คือสภาพที่ทนได้ยาก เราจึงต้องการกำจัดความทุกข์ต่าง ๆ ด้วย Change เช่นเดียวกับการทำงานที่เราต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความสำเร็จ ดังนั้นการประสบความสำเร็จจึงเป็นความสุขแท้ 2) สมุทัย คือการหาสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ในปัจจุบันหน้าที่การงานและชีวิตประจำวันของเราอยู่กับ Innovation ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้ค้นพบสาเหตุของปัญหาและเป็นตัวช่วยทำให้การทำงานของเราบรรลุเป้าหมายได้ 3) นิโรธ คือ การดับทุกข์ เปรียบเทียบได้กับ Idealism ที่เราต้องทำมาสเตอร์แพลนเพื่อวางแผนให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย และ 4) มรรค คือ แนวทางปฏิบัติที่นำไปสู่การดับทุกข์ เมื่อเราสามารถทำตามมาสเตอร์แพลนที่วางไว้ได้สำเร็จ เราจึงจะมีชัยชนะ ซึ่งเปรียบได้กับ Freedom โดยเราจะมีเสรีภาพในความก้าวหน้าที่จะก้าวในระดับต่อไป เมื่อนำแนวทางดังกล่าวมาปรับใช้ในการบริหารองค์กรก็จะผ่านพ้นวิกฤติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้”

ในการบรรยายครั้งนี้ทำให้ผู้มาอบรมในหลักสูตร THE MASTER ได้ข้อคิดในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงแนวทางการบริหารองค์กรในหลายด้าน โดยผู้ฟังบรรยายเกิดความประทับใจในคำสอนของท่านสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในองค์กรของตนเองได้

คุณณัฐพล เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความประทับใจในหลักสูตร THE MASTER และการฟังบรรยายในครั้งนี้ว่า “ด้วยชื่อเสียงของหลักสูตร คนที่เคยมาเรียนก็ได้บอกต่อกับเราว่าเป็นหลักสูตรที่ดี และเนื้อหาที่บรรยายใช้ได้จริง ซึ่งก็ได้ทราบว่าทางสถาบันและคุณบุญชัย โชควัฒนา มีความตั้งใจจริงที่จะทำหลักสูตรนี้ การที่เราเป็นผู้บริหารแล้วเราได้มาเปิดโลกทัศน์ มาฟังผู้ที่ประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจถือว่าเป็นการเรียนลัด เพราะผู้บรรยายแต่ละท่านก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจหลากหลายด้าน ดังเช่นวันนี้ที่ได้มาฟังท่านสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีบรรยายให้เราฟัง ก็ถือเป็นอีกมุมหนึ่งที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในการทำงานหรือการพัฒนาองค์กร เพราะคำว่าธรรมะ จริง ๆ แล้วก็คือเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง ผมมีความประทับใจที่ท่านนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าในเรื่องอริยสัจ 4 มาอธิบายด้วยคำพูดง่าย ๆ และได้เปรียบเทียบกับภาษาอังกฤษ 4 คำ คือ Change Innovation Idealism และ Freedom ซึ่งจริง ๆ แล้วสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ค้นพบมาเมื่อ 2,000 กว่าปีที่แล้ว โลกปัจจุบันเพิ่งมาค้นพบกัน เราอาจเคยได้ยินทฤษฎี VUCA มาจาก Volatility, Uncertainty, Complexity และ Ambiguity ซึ่งถ้าดูแก่นแท้ของความหมายแล้วเป็นสิ่งเดียวกันกับที่ท่านพูดในเรื่องของ 4 คำนี้ และสอดคล้องกับอริยสัจ 4 ของพระพุทธเจ้า สำหรับบริษัทต่าง ๆ ที่กำลังมองหาหลักสูตรที่จะพัฒนาศักยภาพผู้บริหาร ลองพิจารณาหลักสูตรนี้ เพราะเป็นหลักสูตรที่ดีมากหลักสูตรหนึ่งในประเทศไทย”

อีกหนึ่งท่านที่ชื่นชอบในคำสอนของสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี คุณเพ็ญจันทร์ ล้อสีทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอ.ที.ฟู้ดส์ อินดัสทรีส์ จำกัด กล่าวว่า “หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่รวมผู้บริหาร และวิทยากรก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ โอกาสที่จะได้เข้ามาฟังวิทยากรผู้มีประสบการณ์ในการทำธุกิจเก่ง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรของผู้นำ เป็นภาพรวมขององค์กร เราสามารถกำหนดทิศทางขององค์กรได้ว่าจะเดินไปทางไหน หลังจากที่ได้ฟังสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนีในครั้งนี้ ในมุมของธุรกิจก็ถือว่าเป็นหลักการที่ดี เช่นคำสอนที่ท่านได้สอนในวันนี้คือเรื่องของสติ เมื่อสติมาสตางค์ก็อยู่ ถ้าสติไม่อยู่ก็สตางค์ไม่มี สิ่งที่ท่านสอนก็ได้มองออกมาใน 3 มุม คือ บริษัท สังคมที่เราอยู่ และในระดับประเทศ เพราะฉะนั้นสิ่งที่ท่านพูดวันนี้จึงเป็นประโยชน์ อยู่ที่ว่าเรายืนอยู่ในมุมไหน ถ้าเรานำ 4 คำของท่านมาประยุกต์ใช้ในองค์กรเราก็จะนำพาองค์กรไปอย่างยั่งยืนได้”

สำหรับหลักสูตร THE MASTER รุ่นที่ 5 ได้รับการตอบรับจากผู้บริหารระดับสูงขององค์กรระดับประเทศ มาเข้าร่วมอบรมกว่า 100 ท่าน ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ www.isabthailand.com, Line ID : watsana2020 หรือโทร. 06 3474 0300, 08 5488 4743