กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเดอ มงฟอร์ต(DE MONTFORT UNIVERSITY) มอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทจำนวน 7 ทุน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3ให้กับคนรุ่นใหม่อายุไม่เกิน 35 ปี มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรปริญญาตรี (GPA) ไม่น้อยกว่า 3.50 ได้ไปเรียนต่อที่เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดยเป็นทุนการศึกษาแบบให้เปล่า 100% ไม่ต้องใช้ทุนคืน พร้อมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นผู้สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ – 28 พฤศจิกายน 2562
เพื่อผลักดันให้นโยบายด้าน “การศึกษา” ที่เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาศักยภาพ มอบโอกาสให้คนไทยได้พัฒนาศักยภาพทางการศึกษาให้เทียบเท่าระดับสากลกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ จึงร่วมกับ มหาวิทยาลัยเดอ มงฟอร์ต
(DE MONTFORT UNIVERSITY) เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษสถาบันการศึกษาที่มีสาขาวิชาหลากหลาย พร้อมมอบประสบการณ์แห่งการเรียนรู้ที่มีมากว่า 147 ปี โดยจะมอบทุนการศึกษาระดับปริญญาโทในปีการศึกษา 2563-2564 ให้กับผู้สนใจ และมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์การคัดเลือกเป็นระยะเวลา16 เดือน จำนวน7 ทุน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งทุนการศึกษาดังกล่าว เป็นแบบให้เปล่า 100% ไม่ต้องใช้ทุนคืน ครอบคลุมค่าใช้จ่าย ได้แก่ ตั๋วเครื่องบินไป – กลับ, วีซ่า ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จำเป็นรายเดือน โดยผู้ที่ได้รับทุนสามารถเลือกเรียนในหลักสูตรที่ตนเองสนใจ
นายเจตริน โชคชัยเพิ่มพูนผลหนึ่งในผู้ได้รับทุนศึกษาต่อปริญญาโท ที่ De Montfort University เล่าว่า การจะเรียนต่อปริญญาโท 1 ปี ที่อังกฤษนั้นต้องเตรียมเงินราวๆ 1-2 ล้านบาท แต่โชคดีที่ได้รับทุนเต็มจำนวนแบบให้เปล่า จากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ทำให้ได้เรียนต่อที่ประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีเยี่ยม ได้พัฒนาและฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษ ในแบบ Native British Englishโดยในสัปดาห์แรกจะเป็น Induction Week คือ เป็นช่วงเวลาให้นักเรียนใหม่ได้ปรับตัว เรียนรู้การเรียนการสอนในแบบของที่นี่ หลักๆ ก็จะเป็นกฎกติกาต่างๆ วิธีการเช็คชื่อเข้าเรียน การส่งงาน ดูตารางเรียน การใช้ห้องสมุด หรืออุปกรณ์ IT ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีคลาสเรียนภาษาอังกฤษฟรี สำหรับนักเรียนต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เพื่อช่วยเสริมทักษะในการเรียนสามารถเลือกลงทะเบียนและเข้าเรียนตามทักษะที่ต้องการได้ส่วนสัปดาห์ที่สองเป็นการเรียนการสอนในห้องเรียน จะเริ่มเข้าสู่เนื้อหาของวิชาหลักๆ ซึ่งก่อนจะถึงวิชาเรียน จะต้องอ่านหนังสือไปก่อนเพื่อไปพูดคุยแสดงความคิดเห็นกับเพื่อนในห้อง ต้องอ่านแบบคิดวิเคราะห์ และหาตัวอย่างอื่นๆ นอกเหนือจากหนังสือ รวมถึงมีการคุยกับอาจารย์ผู้สอน ถือว่าต้องปรับตัวค่อนข้างมากในส่วนนี้ ใช้ทักษะการอ่านจับใจความ และคิดวิเคราะห์ ลักษณะการเรียนในห้องเรียน ฟังแล้วต้องคิดตาม ตั้งคำถาม ถกประเด็นกันในห้องเรียนและ สัปดาห์ที่สามเป็นสัปดาห์ที่เริ่มมีการทำงานเป็นกลุ่ม ฝึกการทำงานจริง คละนักศึกษาแต่ละเชื้อชาติให้มีวัฒนธรรมที่หลากหลายในกลุ่ม ถือเป็นการเรียนการสอนที่สนุกมากเป็นการพัฒนาทักษะที่จำเป็นแทบทุกด้าน
ทั้งนี้ คุณสมบัติของผู้สนใจสมัครรับทุนการศึกษาคือมีสัญชาติไทย, อายุไม่เกิน 35 ปี, ไม่เคยได้รับทุนการศึกษาจากบริษัทอื่น, มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรปริญญาตรี (GPA) ไม่น้อยกว่า 3.50, มีผลคะแนนสอบ IELTSไม่ต่ำกว่า6.5, ผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวข้องหรือจบการศึกษาในสาขาที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ สุดท้ายเขียนข้อความภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการสมัครขอรับทุนการศึกษาความยาว 500 คำ โดยทางมหาวิทยาลัยเดอ มงฟอร์ต จะเป็นผู้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับทุนการศึกษาในเดือนธันวาคม 2562
มหาวิทยาลัยเดอ มงฟอร์ต เป็นสถาบันการศึกษาที่พร้อมจะสนับสนุนความสามารถและศักยภาพของนักศึกษา อีกทั้งมีคุณลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ เปิดสอนมาแล้วกว่า 147 ปี เป็นมหาวิทยาลัยที่ได้รับรางวัล Gold ในเรื่องคุณภาพการเรียนการสอนที่โดดเด่นจาก TEF (Teacher Excellence Framework) และยังเป็นสถาบันการศึกษา ของประเทศอังกฤษที่ติดอันดับ Top 50 ของโลก ในด้าน Sustainability จากการจัดลำดับของ Time Higher Education รวมถึงได้รับรางวัล University of the year for Social Inclusion เป็นมหาวิทยาลัยแรก จาก The Sunday Times Good University Guide 2019 และเป็นมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางการศึกษา ที่เต็มไปด้วยความสวยงามและความสะดวกสบายของสาธารณูปโภครวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ
ผู้สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ –28 พฤศจิกายน นี้ โดยสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ http://www.dmu.ac.uk/documents/international-documents/dmu-international-application-form.pdf และส่งใบสมัครที่ Mr.DanielWinney(อีเมลล์Daniel.winney@dmu.ac.uk) หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ raveetiva.nongnuch@dmu.ac.uk