แอลจีโชว์ความล้ำแห่งนวัตกรรมเครื่องซักผ้า เปิดตัวรุ่นใหม่พร้อม AI เสริมประสิทธิภาพการซักล้ำลึก อ่อนโยน รวดเร็วในถังเดียวด้วยเทคโนโลยี AI DD™

นับเป็นแบรนด์แรกๆ ที่นำนวัตกรรม AI เข้ามาสู่เครื่องใช้ใฟฟ้าภายในบ้าน เพื่อตอบรับการใช้ชีวิตของคนในยุคดิจิตอล สอดคล้องกับสโลแกนที่ว่านวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ล่าสุด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างเทรนด์ของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

อีกครั้ง กับเครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่นใหม่พร้อมเทคโนโลยี AI DD™ ซึ่งเป็นการผสานการใช้เทคโนโลยี AI กับมอเตอร์เอกสิทธิ์เฉพาะของแอลจี Inverter Direct DriveTM ที่นอกจากจะทำความสะอาดผ้าได้ล้ำลึกและอ่อนโยน ยังนำความล้ำหน้าของเทคโนโลยีมาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลด้านพฤติกรรมการใช้งานผ่านบิ๊กดาต้า เพื่อนำเสนอรูปแบบการหมุนของถังซักที่เหมาะสมที่สุดกับน้ำหนักและเนื้อผ้าแต่ละชนิด นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่น TurboWashTM 360 ช่วยทำความสะอาดผ้าได้อย่างทั่วถึง โดยใช้เวลาลดลง 34 เปอร์เซ็นต์ และลดการใช้พลังงาน 39 เปอร์เซ็นต์[1] โดยที่ยังคงประสิทธิภาพการซักเท่าเดิม รวมถึงฟังก์ชั่น Steam+TM ที่มีคุณสมบัติสำคัญในการขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.9%[2] และลดรอยยับของผ้าได้ถึง 30%[3] ประหยัดเวลาในการรีดผ้ามากขึ้น มาพร้อมกับความจุของถังซักที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ขนาดของเครื่องซักผ้ายังคงเดิม เพิ่มความสามารถในการซักและประหยัดพื้นที่การใช้งาน โดยเฉพาะบ้านที่มีพื้นที่จำกัด คอนโดมิเนียม หรืออพาร์ทเมนต์

ด้วย เทคโนโลยี AI DD™ เครื่องซักผ้าแอลจีรุ่นใหม่จะวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้าด้านพฤติกรรมการใช้งาน โดยสามารถชั่งน้ำหนักผ้าและวิเคราะห์ประเภทของผ้าในแต่ละถังซักได้ เพื่อนำเสนอรูปแบบการหมุนของถังซักที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผ้าที่แตกต่างกันในแต่ละถังซัก เพิ่มระดับการถนอมเนื้อผ้ามากขึ้นกว่าระบบเดิมถึง 18 เปอร์เซ็นต์[4] ในขณะที่ฟังก์ชั่น TurboWashTM 360 สามารถซักผ้าเสร็จภายในเวลาเพียง 39 นาที แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำความสะอาดผ้าเท่าเดิม ด้วย 3D Multi Spray ที่ทำให้ผ้าสะอาดเร็วยิ่งขึ้นผ่านการทำงานของสเปรย์น้ำ 4 ทิศทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการซักและชะล้างที่รวดเร็วยิ่งขึ้น

เครื่องซักผ้าแอลจีรุ่นใหม่นี้มาพร้อมฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น ThinQ™ ที่ช่วยให้การควบคุม ตรวจสอบ และดูแลรักษาเครื่องซักผ้าแอลจีง่ายดายยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบอาการผิดปกติและจัดการกับปัญหาเบื้องต้นผ่านฟังก์ชั่น Smart DiagnosisTM หรือจะดาวน์โหลดโปรแกรมการซักผ้าใหม่ได้เพิ่มเติมตามความต้องการ ตรวจสอบการใช้พลังงาน รวมถึงจัดการและตั้งค่าวงจรการซักผ้าได้อย่างง่ายดาย ทุกที่ทุกเวลา

เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่นใหม่ของแอลจีที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI DD™ มีให้เลือกทั้งระบบซักอบ ความจุซัก 10.5 อบ 7 กก. หรือความจุซัก 9 อบ 6 กก. และระบบซักความจุ 10.5 กก. และ 9 กก. ราคาตั้งแต่ 27,900 บาท ถึง 45,900 บาท พร้อมจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ ณ ร้านค้าชั้นนำทั่วไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2878-5757 หรือ www.lg.com/th

เกี่ยวกับ แอลจี อีเลคทรอนิคส์ ในประเทศไทย

บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ ประเทศไทย (จำกัด) หนึ่งในผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใต้แบรนด์ แอลจี โดยมีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวขึ้นสู่ความเป็นแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยที่จะเติมเต็มชีวิตของผู้บริโภคชาวไทยด้วยนวัตกรรมระดับโลกโดยในประเทศไทยนั้น ประกอบไปด้วย 3 หน่วยธุรกิจสำคัญ ได้แก่ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์  ธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ธุรกิจเครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นด้านพลังงานแอลจีเป็นผู้นำด้านการผลิตทีวีจอแบน อุปกรณ์ภาพและเสียง เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้าและตู้เย็นที่มีคุณภาพระดับโลก นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ เทคโนโลยีและคุณภาพที่วางใจได้แล้ว แอลจียังมุ่งมั่นในการสร้างแบรนด์ผ่านกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบที่น่าสนใจและหลากหลายเพื่อให้สอดคล้องกับสโลแกน “Life’s Good”

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแอลจีได้ที่ www.LGnewsroom.com และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอลจี ประเทศไทย ได้ที่ www.lg.com/th

[1] ทดสอบโดยอินเตอร์เทค ในเดือนมีนาคม 2562 ตาม IEC 60456 : edition 5.0 โดยใช้ถังซักมาตรฐานความจุ กิโลกรัมของ IEC (ครึ่งถัง) เปรียบเทียบระหว่างฟังก์ชั่น TurboWash39 (ของเครื่องซักผ้าแอลจีรุ่นใหม่ พร้อมเทคโนโลยี AI DD™) กับฟังก์ชั่น Cotton+TurboWash แบบดั้งเดิมของเครื่องซักผ้ารุ่ New Classic 

[2]รับรองโดยสถาบัน BAF (British Allergy Foundation) ว่าสามารถขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ 99.9% เช่น ไรฝุ่นฝุ่นขนาดเล็กในใยผ้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

[3] ทดสอบโดยอินเตอร์เทค ว่ารอยยับบนผ้าลดลง 30% หลังจากซักด้วยโปรแกรมเสริม Wrinkle Care ที่เลือกเพิ่มเติมจากโปรแกรมซักผ้าฝ้าย เปรียบเทียบกับการซักโดยไม่เลือกโปรแกรมเสริม Wrinkle Care

[4]  ทดสอบโดยอินเตอร์เทคในเดือนมีนาคม 2562 โดยใช้วงจรการซักผ้าคอตตอนสำหรับชุดชั้นในปริมาณ กิโลกรัม เปรียบเทียบกับวงจรการซักผ้าคอตตอนแบบดั้งเดิมของแอลจี (FC1450S2W) ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผ้าและสภาพแวดล้อม