JKN โชว์ความสำเร็จรุกจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศ มั่นใจปีนี้ทำสัดส่วนรายได้พุ่งเป็น 30% ตามแผนที่วางไว้

‘บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN’ ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากลประกาศความสำเร็จด้วยการรุกจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศ หลังประสบความสำเร็จในการทำตลาดคอนเทนต์ซีรีส์ละครไทยยึดตลาดอาเซียน เพื่อแผยแพร่ผ่านทุกแพลตฟอร์มทั้ง ทีวีดิจิทัล ทีวีบอกรับสมาชิกและ OTT ขณะที่ซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ยังครองใจผู้ชมในกลุ่ม CLMV มั่นใจปีนี้สัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% ของรายได้รวมตามแผน

คุณแอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKNผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากลเปิดเผยว่า จากนโยบายการดำเนินงานในปีนี้ที่ตั้งเป้ารุกขยายตลาดในกลุ่มภูมิภาคอาเซียนให้มากขึ้น โดยบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการทำตลาดเป็นอย่างดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำตลาดผ่านกลยุทธ์ ‘ซุปเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง’ที่สร้างความนิยมในคอนเทนต์ซีรีส์อินเดีย ฟิลิปปินส์ และซีรีส์ละครไทย จากช่อง 3 และครองใจผู้ชมในภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา JKN สามารถเปิดตลาดในต่างประเทศและประสบความสำเร็จในการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์อินเดียและฟิลิปปินส์ให้แก่ผู้ประกอบการทีวี มากกว่า 1,000 ชั่วโมง เพื่อนำไปออกอากาศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยเฉพาะประเทศเวียดนามซึ่งในปีนี้ประสบความสำเร็จมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน

ขณะเดียวกัน ลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากช่อง 3 ซึ่ง JKN รับหน้าที่เป็นตัวแทนการตลาดและจำหน่ายคอนเทนต์นั้น ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าที่ซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปออกอากาศผ่านทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น การเซ็นสัญญากับ ‘ติ่มซำ’ ที่นำละครจากช่อง3 ไปออกอากาศผ่านแพลตฟอร์ม OTT (Over-the-top)ให้แก่ผู้ชมในประเทศมาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ หรือการจำหน่ายคอนเทนต์ให้แก่สถานีโทรทัศน์ราจาวลี (RAJAWALI TV) ผู้นำสื่อโทรทัศน์ของอินโดนีเซีย เพื่อนำไปออกอากาศผ่านเครือข่ายฟรีทีวี และความภาคภูมิใจสูงสุดของ JKN ในการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ออกสู่ตลาดต่างประเทศ คือ การนำลิขสิทธิ์ละครไทยสู่ประเทศเกาหลี โดยจำหน่ายคอนเทนต์ให้แก่บริษัท TRA Media ซึ่งเป็นเจ้าของโทรทัศน์ระบบบอกรับสมาชิกจำนวน 4 ช่อง ที่เป็นเครื่องยืนยันคุณภาพการผลิตของละครไทยที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับของผู้ชมภูมิภาคนี้ ซึ่งการเปิดตลาดในประเทศใหม่ๆจะช่วยให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นในปีถัดไปด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ารุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าจะเป็นภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ตะวันออกกลาง ยุโรปและละตินอเมริกา เพื่อผลักดันคอนเทนต์ละครไทยให้เป็นที่รู้จักและเกิดการยอมรับจากผู้ชมทั่วโลก ผ่านการจัดกิจกรรมออกบูธเพื่อประชาสัมพันธ์คอนเทนต์ไทย ล่าสุด JKN ประสบความสำเร็จในการทำตลาดภายในงาน Asia TV Forum & Market 2019(ATF 2019) ประเทศสิงค์โปร์ ที่นำละครไทยอีกกว่า 100 เรื่อง มาร่วมทำการตลาดเพื่อสร้างกระแสให้แก่คอนเทนต์ โดยมีเรื่อง ‘ลิขิตรักข้ามดวงดาว’ และ’กรงกรรม” ละครไทยที่ได้เข้าชิงรางวัล Regional Winnerในรายการ The Asian Academy Creative Awards(AAA Awards) ที่ประเทศสิงค์โปร์ถึง 6 สาขารางวัลที่ปีนี้มีผู้เข้าชิงรางวัลนักแแสดงนำชายยอดเยี่ยมอย่าง ‘เจมส์ จิ’ เป็นคอนเทนต์ไฮไลต์ภายในงาน ซึ่งมีช่องสถานีโทรทัศน์ต่างๆทั่วโลกให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

พร้อมกันนี้ JKN ยังได้นำสารคดี ‘ตามรอยพระพุทธเจ้า 2 : ไตรปิฎก คำสอนมีชีวิต’ สารคดีที่นำเสนอเรื่องราวของวิถีชาวพุทธ สื่อให้เห็นถึงความเลื่อมใส และความศรัทธาต่อพระพุทธศาสนาที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตจากแนวคิดและคำสอนที่บันทึกไว้ในพระไตรปิฎก ด้วยความเชื่อ และการปฏิบัติที่แตกต่างกันไปใน 15 ประเทศ รวม 13 ตอน ซึ่งสารคดีชุดนี้ผลิตโดยทีมงานคนไทย และใช้เวลาสร้างสรรค์ผลงานกว่า 3 ปี เพื่อจำหน่ายสารคดีออกไปสู่ตลาดต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นกัน

“ปีนี้ถือเป็นปีที่ดีของ JKN ในการทำตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ทั้งอินเดีย ฟิลิปปินส์และละครไทยในตลาดต่างประเทศ ที่ประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายและสามารถสร้างมูลค่างานที่รอส่งมอบให้ลูกค้าอย่างได้ต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศในปีนี้ ที่จะมีสัดส่วนรายได้เป็น30% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” คุณแอน-จักรพงษ์ กล่าว