เมื่อพูดถึง “ภูเก็ต” ก็ขึ้นชื่อเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกมานาน สร้างเม็ดเงินมหาศาลให้ประเทศไทย ไม่เเปลกที่ห้างสรรพสินค้าใหญ่จะบุกเข้าไปทำตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “เซ็นทรัล” ที่เข้ามาลงทุนตั้งเเต่ปี 2547 นับถึงปัจจุบันปักหมุดไปเเล้วกว่า 3 ห้าง เเละคราวนี้ก็มาถึงคิวที่ 4 ของ “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต” (Porto de Phuket) Open Mall แห่งแรก จับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายสูง เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเเล้วเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา
Positioning จะพาไปยลโฉมจริง พร้อมทิศทางโอกาสธุรกิจว่าเป็นอย่างไร ตั้งเป้าไว้เเค่ไหน มีความพิเศษอย่างไร มาดูกลุยุทธ์กลุ่มเซ็นทรัลที่กำลังเจาะเมืองภูเก็ตกัน
ยึดทุกมุมสำคัญ “เซ็นทรัล” กระจายลงทุนภูเก็ต
ก่อนหน้านี้ เรารู้จักกับ “เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต” ศูนย์การค้าติดเเอร์กลางใจเมืองที่เปิดให้บริการมาตั้งเเต่ปี 2547 ต่อมาขยายพื้นที่ฝั่งตรงข้ามมาเปิด “เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า” เจาะไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวลักชัวรี่เเละคนภูเก็ตในปี 2561 โดยดึงดูดผู้เข้าชมด้วย “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ” ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ เเละ ไตรภูมิ (Tribhum) ธีมปาร์คแนวผจญภัยแฟนตาซี 3D แห่งแรกของโลก
จากนั้นด้วยการอยากจะเข้าถึงจุดหมายนักท่องเที่ยวสุดฮิตอย่าง “หาดป่าตอง” เซ็นทรัลก็ได้มีการลงทุนถึง 2 พันล้านเพื่อสร้าง “เซ็นทรัล ป่าตอง” ที่เพิ่งเปิดเป็นทางการในช่วงต้นปี 2562 ที่ผ่านมา เเข่งกับเจ้าเก่าท้องถิ่นอย่างห้าง จัง
ล่าสุดกับการลองของใหม่กับ “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต” (Porto de Phuket) ซึ่งเป็น Open Lifestyle Mall โครงการแรกของกลุ่มเซ็นทรัล ที่เเบ่งการลงทุนเป็น 2 เฟสรวมเเล้วกว่า 1.5 พันล้าน บริเวณถนนบ้านดอนเชิงทะเล ที่ห่างจากสนามบินภูเก็ตเพียง 30 นาที
เกิดคำถามว่า “ห้างทั้ง 4 เเห่งของเซ็นทรัลในจังหวัดภูเก็ตจะเเย่งกลุ่มตลาดเเละรายได้กันเองหรือไม่”
พงศ์ ศกุนตนาค กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพัฒนาธุรกิจ กลุ่มเซ็นทรัล ตอบว่า การเปิดศูนย์การค้าทั้ง 4 เเห่งของกลุ่มเซ็นทรัลจะไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของกันเเละกันเเน่นอน เพราะมีการวิเคราะห์มาอย่างดีว่ามีกลุ่มตลาดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เช่น คนภูเก็ตตอนบนจะไม่ลงมาภูเก็ตตอนล่าง เพราะใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชั่วโมง ไปกลับกว่า 4 ชั่วโมง ด้วยปัญหาจราจร จึงมั่นใจว่าการสร้าง ปอร์โต เดอ ภูเก็ต ตรงนี้จะไม่กระทบลูกค้าส่วนอื่น
“เราต้องการให้บริการกับผู้คนที่อยู่อาศัยในละเเวกนี้จริงๆ ซึ่งพื้นที่ถนนบ้านดอนเชิงทะเลที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการลงทุนใหญ่ๆ พื้นที่ของภูเก็ตตอนบนยังไม่มีห้างรีเทลแบบเต็มรูปแบบ มีเพียงวิลล่ามาร์เก็ตที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตเท่านั้นด้วยจึงถือว่าเป็นโอกาสสำคัญ”
จากฐานข้อมูลจากเดอะวันการ์ด พบว่ากลุ่มลูกค้าของเซ็นทรัลมาจากทางภูเก็ตตอนบนค่อนข้างเยอะและมีการใช้จ่ายสูง จึงเลือกบุกโลเคชั่นนี้ เเละพื้นที่ปักหมุดสร้าง ปอร์โต เดอ ภูเก็ต เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย มีคอนโดกว่า 13,000 ยูนิต โรงแรมกว่า 17,000 ห้องเป็นตลาดบนและกลาง
ทั้งนี้ จากเดิมศูนย์การค้าต่างๆ ในเครือเซ็นทรัล จะเน้นพัฒนาในรูปแบบ “ศูนย์การค้าแบบปิด” หรือ “Close Mall” มาโดยตลอด ซึ่งจะอยู่ในความรับผิดชอบของ เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เเละสรรพสินค้าเซ็นทรัล แต่ปอร์โต เดอ ภูเก็ต เป็นโครงการแรกที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท “กลุ่มเซ็นทรัล” (Central Group)
โดย “กลุ่มเซ็นทรัล” นอกจากเป็นบริษัทแม่แล้ว ยังมีหน้าที่เป็น Project Development พัฒนาโปรเจกต์ใหม่ ปั้นโครงการทดลองให้กับบริษัทในเครือเซ็นทรัล อย่างเช่น ศูนย์การค้าท็อปส์ พลาซ่า ที่ใช้ยุทธศาสตร์ขยายไปยังจังหวัดเล็ก เป็นต้น
คาดยอดผู้ใช้เกือบหมื่นต่อวัน ไม่หวั่นเศรษฐกิจชะลอตัว
โดยตั้งเป้ามีเงินสะพัดในโครงการ 4,500 ล้านบาท คาดการณ์ยอดผู้ใช้บริการ ปอร์โต เดอ ภูเก็ต 8,000 – 10,000 คนต่อวัน และอย่างน้อย 3 ล้านคนต่อปี
แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าคนในพื้นที่ที่มีกำลังซื้อสูง (Local) และชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตทำงานในภูเก็ตที่พักอาศัยบริเวณนี้ (Expat) รวม 65% และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35% แบ่งเป็น 2 เซกเมนต์ ได้แก่ 1) นักท่องเที่ยวสไตล์ FIT (Free and Independent Traveler) เช่น จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น, และสิงค์โปร์ เเละ 2) นักท่องเที่ยวตะวันตกที่มีกำลังซื้อสูง (Western High Spenders) เช่น ชาวรัสเซีย เยอรมัน อังกฤษ และอเมริกาซึ่งเน้นการพักผ่อนในระยะยาว
ทั้งนี้ จังหวัดภูเก็ตถือเป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลก โดยติดอันดับที่ 14 (จาก 200 เมืองยอดนิยมทั่วโลก อ้างอิงจากผลสำรวจ Mastercard Global Destination Cities Index 2019) และมีรายได้จากการท่องเที่ยวรายจังหวัดตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคม ประจำปี 2562 มากที่สุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 3.7 แสนล้านบาท (อ้างข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา ไม่รวมกรุงเทพฯ) โดยนักท่องเที่ยวที่มาค้างแรมภูเก็ต 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย และเยอรมัน ตามลำดับ
“เรามองว่าเเม้เศรษฐกิจจะชะลอตัวในปีหน้า ก็อาจจะไม่กระทบกับปอร์โต เดอ ภูเก็ต มากนักเพราะเราเน้นกลุ่มคนพื้นที่เเละชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ที่นี่ ขณะที่ในส่วนของนักท่องเที่ยวระยะสั้นมองว่าเมื่อถึงจุดที่มีการลดลงเเล้ว ต่อไปก็จะมีการเพิ่มขึ้นมาเช่นกัน” ผู้บริหารเซ็นทรัลกล่าว
ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์…อยู่ในทุกชีวิตประจำวัน
สำหรับ “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต” ศูนย์การค้ารูปแบบไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์ โมเดลใหม่ ที่มีทั้งสโตร์แบรนด์แฟชั่น ร้านอาหารชื่อดังระดับมิชลิน สตาร์ และร้านอาหารพื้นเมืองชื่อดังจากภูเก็ตรวมถึงสปาและบิวตี้ซาลอน เเถมพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นในสวนได้ แตกต่างจากศูนย์การค้าเดิมๆ ที่เป็นพื้นที่ปิด
ตกเเต่งด้วยสไตล์ Contemporary Warehouse บนพื้นที่โครงการกว่า 40,000 ตร.ม. ให้เดินเล่นชิลๆ ใกล้ชิดต้นไม้ มีพื้นที่สีเขียว ด้วยพื้นที่สีเขียวคิดเป็น 2 ใน 3 ส่วนของโครงการตอบไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวและชาวภูเก็ตที่ชื่นชอบการกิน ดื่ม เที่ยว และพักผ่อนกับครอบครัวและสัตว์เลี้ยง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ที่สุดแห่งประสบการณ์การใช้ชีวิต” (The Finest Living Experience)
“เราอยากให้ปอร์โต เดอ ภูเก็ต อยู่ในทุกช่วงชีวิตประจำวันของผู้คนก็เลยมีเวลาเปิดให้บริการตั้งเเต่เช้าจนถึงดึก 8.00 – 22.00 น. ซึ่งต่อไปจะมีการทำอีเวนต์อย่างเช่น จัดเล่นโยคะตอนเช้า เเล้วไปนวดหรือสปาตอนสาย กินข้าวเที่ยงในร้านอร่อยเเละช่วงบ่ายทำเล็บ ช้อปปิ้ง ตอนเย็นพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น เเละช่วงค่ำดินเนอร์กับครอบครัว”
โดยเพื่อให้เข้าไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ จึงเน้นในส่วนของอาหารการกิน 70% และอีก 30% จะเป็นในส่วนของความสวยความงาม ไลฟ์สไตล์ ดีไซน์ โซนสำหรับเด็กและสัตว์เลี้ยง ซึ่งตอนนี้มีร้านค้าเเล้วกว่า 50 ร้าน
“การดีไซน์เเบบ Contemporary Warehouse เป็นพื้นที่อาคารชั้นเดียวนั้นจะช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าชมได้ทุกร้าน มีเวลาเดินนั่งอย่างสบาย ไม่เร่งรีบ มีการหยุดพักเเละเข้าชมอีกร้านได้อย่างสะดวก”
เปิด 7 โซนเด่นของ “ปอร์โต เดอ ภูเก็ต”
- เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ (Central Food Hall)
สุดยอดฟู้ดสโตร์ในรูปแบบ Stand Alone ด้านนอกศูนย์การค้าแห่งแรกของเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ พบกับสินค้าหลากหลาย 8 ประเภท เนื้อสัตว์และซีฟู้ดสดสะอาดได้มาตรฐาน เบเกอรี่สูตรเฉพาะอบใหม่ทุกวัน ไวน์คุณภาพเยี่ยมเเละ Cheese Room ที่แรกในจังหวัดภูเก็ต
- เดอะ เฟม (The Fame – Restaurant and Café Zone)
รวบรวมร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังเอาใจเหล่าฮิปสเตอร์และสายชิล ทั้งร้านสวย (SUAY) อาหารฟิวชั่น ไทย-ตะวันตก โดยเชฟกระทะเหล็ก การันดีด้วยรางวัลมิชลิน ไกด์ ร้านตู้กับข้าว อาหารใต้ชื่อดังของจังหวัดภูเก็ต
Spice House อาหารรัสเซีย จากเชฟชาวรัสเซีย ที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี, จำปา ร้านอาหารออแกนิก คัดสรรเมนูการปรุงจากเชฟชื่อดังเครือเดียวกันกับ PRU ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาวแห่งเดียวในจังหวัดภูเก็ต, Wine Connection ที่มาในรูปแบบ Flagship ที่สวยงามและทันสมัยที่สุด
พร้อมตบท้ายด้วย Lady Coco คาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศส สำหรับคนรักช็อกโกแลต ต้องห้ามพลาด กับเมนู Intense Deep Black ช็อกโกแลตเย็นทำจากผงโกโก้ที่มีความเข้ม 72% จากประเทศเบลเยียม
- มัลติดีไซน์ เฮ้าส์ (Multi Design House)
แหล่งรวบรวมสินค้าเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่มีตั้งแต่ของแต่งบ้านจาก Indoor ถึง Outdoor ไม่ว่าจะสไตล์มินิมอลหรือสายจัดเต็ม ก็มาหาสไตล์ความเป็นคุณได้ที่นี่ พบกับเฟอร์นิเจอร์ และของแต่งบ้านสุดวินเทจ จากแบรนด์ Soul of Asia ชมผลงานศิลปะเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จากศิลปินท้องถิ่นชื่อดังคุณสุนทร พาพาน แห่ง Napas Art Gallery
นอกจากนี้ยังมี Jim Thompson Pop Up Store แบรนด์ผ้าไหมชื่อดังกับสินค้า Men and Women Ready-To-Wear กระเป๋า และผ้าคลุมไหล่ที่นำมาใช้เป็นกระโปรงใส่เดินชายหาด แต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เเละ B2S ภายใต้คอนเซ็ปต์ Thinkspace และ Traveler’s Top Picks สินค้าแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยว และ Supersports ที่เน้นสินค้าสไตล์ Sport Fashion มากขึ้น รวมถึงมีการทดลองวิ่งกับ Run Lab
- เฮลตี้ เฮเว่น (Healthy Heaven)
โซนพักผ่อนกาย สบายใจกับการนวดและสปาจากธรรมชาติบำบัดเพื่อปลดปล่อยความเหนื่อยล้าที่สปาชั้นนำที่มีให้เลือกสรร เช่น Let’s Relax ที่มีสปาแกลเลอรี่แห่งแรกของโลกและในจังหวัดภูเก็ต, ร้านแว็กซ์ชื่อดัง The Strip ที่มีสาขากว่า 10 ประเทศทั่วโลก ทั้งใน New York, London, Singapore
นอกจากนี้ทางโครงการยังมีโซนเสริมความงาน จากร้านชื่อดังของภูเก็ต อย่างเช่น Devadiva และ Villa Aura
- คิด เลิร์นนิ่ง สเปซ (Kid Learning Space)
แหล่งพัฒนาการเรียนรู้ของเด็กๆต่างวัยที่จะได้เจอเพื่อนใหม่เพื่อแชร์ความสนุกสนานไปด้วยกันกับเครื่องเล่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างทักษะของเด็กๆ พร้อมเลนจักรยาน บ่อทรายขนาดใหญ่ แทรมโพลีนและชิงช้า
- เพท เฟรนด์ลี่โซน (Pet Friendly Zone)
พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงให้ได้วิ่งเล่นและพบปะกับเพื่อนใหม่บนสนามหญ้าขนาดย่อมที่ร่มสบาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน จาก Phuket International Pet Care (PIPC) ทั้งคลินิกรักษาสัตว์, เพ็ทช็อป, กรูมมิ่งและจุดรับ-ส่งน้องหมาน้องแมว เข้าโรงแรมที่สาขาใหญ่ เพื่อสุขภาพที่ดีและความสุขที่เพิ่มมากขึ้นของน้องหมาน้องแมว
- เดอะ เมอร์คาโด้ (The Mercado) – พร้อมเปิดให้บริการปี 2563
ฟู้ดเดสติเนชั่นภายใต้หลังคาใหญ่ ตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์ “Tin Mining Factory” ที่จำลองบรรยากาศเหมืองแร่โบราณผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์ ซิโน-โปรตุกิส พบกับอาหารระดับเวิลด์คลาสจากนานาชาติอย่าง ออยสเตอร์บาร์ สเต็กเนื้อชั้นดีหรือจะลองชิมขนมหวานจากประเทศต่างๆ
ส่วนที่จะเพิ่มเติมในเฟสต่อไป ยังมีอีกหลากหลายโซน เช่น โรงภาพยนตร์ , ฟิตเนส, Indoor Playground, Edutainment รวมถึง Art Home and Decorative ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2563 นี้
(ชมภาพเพิ่มเติม คลิกที่นี่)