อาร์เอส เดินหน้าอัดโปรโมชั่นกระตุ้นนักช้อปส่งท้ายปีทุ่มงบกว่า 50ล้านบาท จัดแคมเปญ“RS Mall New Year Celebration 2020” ระหว่างวันที่ 19 – 31 ธันวาคมนี้ กระหน่ำเต็มโปรโมชั่นมอบส่วนลดสูงสุดถึง 70% ส่งต่อผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม สำหรับทุกคนในครอบครัว คาดยอดขายพุ่ง 2 เท่า
นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจสินค้าและแพลตฟอร์ม บริษัทอาร์เอสจำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า “สำหรับภาพรวมของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย จากข้อมูลของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ ETDA คาดว่าในปี 2562 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะขยายตัว 15-20% จากปี 2561 ที่มีมูลค่ารวม 3.15 ล้านล้านบาท ขณะที่จากปี 2563 – 2565 ธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตต่อเนื่อง ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ย 22% ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และสอดคล้องกับทิศทางของบริษัทที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจพาณิชย์หลากหลายช่องทาง (MPC) จากกระแสการจัดแคมเปญออนไลน์ที่ทาง RS Mall จัดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแคมเปญ11.11, แคมเปญ RS Mall Daddy Day Festival จัดใหญ่ให้พ่อและแคมเปญ12.12สร้างความคึกคักและกระตุ้นให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้นเนื่องจากการจัดโปรโมชั่นที่คุ้มค่า คุ้มราคา และช่วงปลายปีถือเป็นไฮซีชั่นของทุกธุรกิจ เป็นช่วงที่ลูกค้าจับใช้จ่ายใช้สอยซื้อสินค้า ของขวัญ ของฝาก รวมถึงบริการต่างๆ มากที่สุดช่วงหนึ่ง บริษัทจึงจัดแคมเปญ “RS Mall New Year Celebration 2020”ระหว่างวันที่ 19 – 31 ธันวาคมนี้ โดยให้ส่วนลดสูงสุดถึง 70% เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
บริษัทได้ทุ่มงบการตลาด โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ในการจัดแคมเปญ “RS Mall New Year Celebration 2020”กว่า 50 ล้านบาท ถือเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า และร่วมเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับสากล เพื่อดูแลสุขภาพและความงามของคนที่คุณรักเป็นของขวัญที่คุ้มค่า โดยบริษัทได้จัดแคมเปญลด แลก แจก แถม ให้ส่วนลดสูงสุดถึง 70%คัดสรรสินค้าคุณภาพให้สอดคล้องตามความต้องการของผู้บริโภค ทั้งสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทไลฟ์สตาร์ ในเครืออาร์เอสเอง ชึ่งมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบรนด์ “มาจีค” (Magique), กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแบรนด์ “รีไวฟ์” (Revive) และกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบรนด์ S.O.M รวมทั้งสินค้าคุณภาพจากบริษัทพันธมิตรที่มาร่วมมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ตลอดระยะเวลาแคมเปญ 13 วันโดยคาดว่าจะเพิ่มยอดขายในช่วงของการจัดแคมเปญ 2 – 3 เท่า
ปัจจุบัน ยอดขายของธุรกิจ MPC เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดซื้อต่อครั้งของผู้บริโภคอยู่ที่ 2,200 บาท ต่อบิล เพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ในปีนี้บริษัทได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าในหลากหลายช่องทาง ทั้งช่องทางออนแอร์ช่อง 8 และช่องทีวีดิจิทัลพันธมิตรช่องไทยรัฐทีวี และช่องเวิร์คพอยท์ วิทยุคูลฟาเรนไฮต์ ช่องทางจำหน่ายผ่านระบบคอลเซ็นเตอร์ โทร.1781ช้อปทันที ส่งฟรีทั่วไทยและช่องทางออนไลน์Line Official Account@rsmallซึ่งทุกแพลตฟอร์มมีฐานข้อมูลลูกค้าที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน สามารถนำข้อมูลลูกค้าแต่ละกลุ่มมาวิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาสินค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นรวมถึงจับมือกับบีทีเอสในการขยายฐานลูกค้าในกรุงเทพฯและยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องซึ่งปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 1.5 ล้านราย
สำหรับปี 2563 บริษัทจะแตกไลน์เพิ่มสินค้าใหม่ๆ เพิ่มความหลากหลาย เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่างๆ และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้ครอบคลุมในทุกช่องทางการจำหน่ายของบริษัทและพันธมิตร ทั้งกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าเพื่อความงาม เช่น S.O.M.CordyTibet&Bhutan, S.O.M.S-Balance, ผลิตภัณฑ์รังนก Bonback, เครื่องฟอกอากาศ, หมอนสุขภาพ, กระเป๋าเดินทาง เป็นต้นที่จะมาเป็นหัวหอกสำคัญในการทำการตลาด พร้อมก้าวขึ้นเป็นสินค้าโปรดักส์แชมเปี้ยนในอนาคต เพื่อให้สอดรับกับกระแสการช้อปปิ้งออนไลน์ของคนไทยที่ยังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง