2019 ถือว่าเป็นปีที่วุ่นวายสำหรับ ‘หัวเว่ย’ (Huawei) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีน ที่ถูกสหรัฐฯ ‘Black List’ โดยระบุว่าหัวเว่ยเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตาม หัวเว่ยยังคงเติบโต โดยคาดว่ามีรายได้ราว 850 พันล้านหยวน (121.66 พันล้านดอลลาร์) เติบโต 18% แม้ว่าจะต่ำกว่าประมาณการเบื้องต้นของบริษัท ขณะที่ปี 2020 หัวเว่ยยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่เหมือนที่เจอในปี 2019
การถูกกีดกันในตลาด
ในขณะที่หัวเว่ยได้ลงนามในสัญญาการค้า 5G แล้วในบางประเทศ แต่ยังมีตลาดสำคัญบางแห่งที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ อาทิ เยอรมนีและสหราชอาณาจักรที่เป็นตลาดสำคัญของหัวเว่ยยังไม่ได้ตัดสินใจ ขณะที่ออสเตรเลียและญี่ปุ่นเลือกที่จะบล็อกหัวเว่ยจากเครือข่าย 5G โดยมีรายงานว่า ‘ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์’ ได้กดดันประเทศต่างๆ ไม่ให้ใช้งานเครือข่าย 5G จากหัวเว่ย เนื่องจากยืนยันว่าหัวเว่ยเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัยระดับประเทศ เพราะรัฐบาลจีนสามารถใช้อุปกรณ์ในการจารกรรม ขณะที่หัวเว่ยได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น
Black List ที่ยังคงอยู่
เมื่อต้นปีที่ผ่านมาหัวเว่ยถูกขึ้นบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือที่เรียกว่า Entity List โดยห้ามไม่ให้ บริษัทในสหรัฐอเมริกาทำธุรกิจกับหัวเว่ย โดยไม่มีใบอนุญาตพิเศษ ซึ่งหัวเว่ยเองยังจำเป็นต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์และส่วนประกอบของอเมริกาเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม บริษัทในสหรัฐอเมริกาบางแห่งยังคงค้าขายกับหัวเว่ย โดยใช้ช่องโหว่ในข้อบังคับ ในขณะที่ Bloomberg รายงานว่า จากนี้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณากฎให้เข้มงวดมากขึ้น
เมื่อไม่สามารถทำการค้ากับบริษัทในสหรัฐฯ ได้ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ของหัวเว่ยจึงไม่มีระบบปฏิบัติการ Android ของ Google แส่งผลให้ยอดขายสมาร์ทโฟนของหัวเว่ยทั่วโลกลดลงในไตรมาสที่ 2 และไม่เติบโตในไตรมาสที่ 3 ของปี 2019 เเม้ Google Android อาจไม่สำคัญสำหรับหัวเว่ยในประเทศจีน เนื่องจากบริการถูกบล็อก แต่มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับตลาดต่างประเทศที่มีผู้ใช้ที่ใช้แอปของ Google เป็นจำนวนมาก
“เราจะไม่เติบโตอย่างรวดเร็วเหมือนที่เราทำในช่วงครึ่งแรกของปี 2019 แต่การเติบโตที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งปีมาจากแรงผลักดันที่แท้จริงในตลาด และในปี 2020 ยังคงเป็นปีที่ยากลำบาก การอยู่รอด จะเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของเรา” นาย Eric Xu ประธานหมุนเวียนของ Huawei กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร
จับตาม HarmonyOS
ในเดือนสิงหาคมหัวเว่ยได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการของตัวเองชื่อว่า HarmonyOS ที่สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์ต่างๆ ตั้งแต่ทีวีไปจนถึงสมาร์ทโฟน โดย Richard Yu หัวหน้าฝ่ายผู้บริโภคของหัวเว่ย ระบุว่า บริษัทจะยังไม่ใช้ HarmonyOS บนสมาร์ทโฟน แต่สามารถสามารถ เปลี่ยน จากระบบปฏิบัติการ Android เป็น HarmonyOS ได้ทันทีหากถูกบล็อกอย่างถาวร
CFO ที่ถูกดำเนินคดี
Meng Wanzhou ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของ หัวเว่ยถูกจับกุมในแคนาดาเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ตามคำสั่งของทางการสหรัฐฯ ขณะที่ Meng ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งของหัวเว่ย Ren Zhengfei โดยรัฐบาลอเมริกันอ้างว่า Meng ทำการฉ้อโกงธนาคารเกี่ยวกับการคว่ำบาตรสหรัฐอเมริกาในอิหร่าน โดยเธอได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา ขณะที่ทีมกฎหมายของเธอพยายามที่จะทำให้คดีถูกยกเลิก ขณะที่การพิจารณาคดีจะดำเนินต่อไปในปี 2020
#Huawei #หัวเว่ย #Positioning #5G #สงครามการค้า