Talk No Limit “หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์”

“จาก Nobody เป็น Somebody ที่ Mass รู้จัก ส่วนในโลกไอทีมีทั้งคนรักและคนเกลียด แถมยังหมั่นไส้อีกมากมาย งานนี้ “หนุ่ย” จึงได้เวลาโชว์ใน POSITIONING” 140 ตัวอักษรข้างบนที่ “หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์” ไม่ได้ทวีตสู่โลกทวิตเตอร์ แต่คือภาพที่เราเห็นเขาในขณะนี้

“หนุ่ย” จากนักศึกษาการแสดง ตัวประกอบหนัง สู่การเป็นพิธีกรรายการไอที ลงทุนเป็นเจ้าของรายการที่เคยทำเรตติ้งสูงสุดผู้ชม 1.2 ล้านคน เป็นเจ้าของบริษัทออแกไนเซอร์จัดอีเวนต์ที่วาง Positioning ได้ชัดเจนว่าถ้าแนวไอทีต้อง “โชว์ โน ลิมิต” เขามีตัวตนมากยิ่งขึ้นในโลกโซเชี่ยลมีเดีย ด้วยการทวีตและมี Followers กว่า 1 หมื่นคน และด้วยคุณูปการของไอที ทำให้เขากลายเป็น “สื่อ” ที่คนรู้จักมากขึ้นเมื่อมาทำหน้าที่พิธีกรในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับอภิสิทธิ์” ในประเด็น “คลิปเสียง” และรีทวีตบ่อยให้ “กรณ์ จาติกวณิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จนเข้าตารับอีกหนึ่งบทบาทคือเป็นสื่อหนึ่งที่ร่วมทริปกับ “กรณ์” ในการเยือนญี่ปุ่น

แค่นี้ชาว Geek บางคนก็บอกแล้วว่า “เขาขี้โม้ครับ”

ยังไม่พอ “หนุ่ย” กำลังจะเป็นเจ้าของทีวีดาวเทียม 1 ช่องภายในกลางปี 2010 ด้วยเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ก่อนที่เขาบอกว่าพร้อมจะเป็น IT Influencer อย่างเต็มตัว

ต่อไปนี้คือเนื้อหาที่ “หนุ่ย” จะเล่าให้ฟัง หลายคนที่ชอบเขาอยู่แล้วอาจชอบเขามากขึ้น แต่หลายคนอาจหมั่นไส้เขามากขึ้น ก็ไม่เป็นไร เพราะ “หนุ่ย” พร้อม Talk แบบ No Limit

หนุ่ย : กำลังทำโปรเจกต์ทีวีดาวเทียมครับ (หนุ่ยเปิดฉากสนทนาโดยยังไม่ต้องถาม) แต่ถ้าทำเองอาจเป็นแค่ Another จึงต้องมีอีกช่องหลักสนับสนุน วิธีการคือร่วมกับฟรีทีวี อสมท เป็น Another Channel ภายใต้ อสมท เราได้โปรโมตผ่านสื่อฟรีทีวี และยังมี Main Sponsor ที่ตกลงแล้วคือกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ แต่เราก็สามารถหาสปอนเซอร์อื่นได้ด้วย เป็นทีวีไอที 24 ชั่วโมง ภายใต้ชื่อที่ตั้งเบื้องต้นไว้ว่า TV Genius มีเนื้อหาตั้งแต่ไอที นวัตกรรม จนถึง Creative Economy สำหรับโลกสมัยใหม่ และผู้ชมที่เป็นคนสมัยทุกวัย

POSITIONING : อยู่ใต้ อสมท เหมือนเป็น Content Provider
หนุ่ย : เป็น Content Provider ที่บริหารช่องเอง จ่ายผลตอบแทนให้ อสมท สัญญานาน 5 ปี เราต้องมี อสมท มีสื่อฟรีทีวีที่ทำให้คนรู้จักช่องเรา เพราะคนยังจดจำเราเป็นไอทีเท่านั้น

POSITIONING : แบไต๋ไฮเทค ที่ออนแอร์กับเนชั่น แชนแนล จะเลิกเลยหรือไม่
หนุ่ย : ไม่เลิก เพราะทำกับเขาก็ดีอยู่แล้ว เป็น Flagship ของเรา แต่ที่ทีวีดาวเทียมเราจะสร้าง Another Story ให้เกิดขึ้น เพราะมีสื่อที่เราสามารถผ่าน อสมท ได้ทั้งผ่านดาวเทียม ผ่านมือถือ และผ่านคอมพิวเตอร์

POSITIONING : ปีนี้งานใหญ่มีอะไรอีกนอกจากทีวีดาวเทียม
หนุ่ย : ก็ยังมีไทยแลนด์เกมโชว์ ที่เป็นอีเวนต์ที่เราจัดขึ้นเอง กับการรับงานโออิชิ QR Code ที่เริ่มจากที่คุณตันติดต่อให้ทำเว็บแต่เราเสนอว่าทำได้มากกว่านั้น เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์กับแบรนด์ได้มากขึ้น และยังมีที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้โทรศัพท์มือถือเวลคอม

POSITIONING : ทำไมถึงรับเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เวลคอม
หนุ่ย : ก็คิดมากอยู่เหมือนกัน เพราะการเป็นพรีเซนเตอร์ก็เหมือนซื้อหวย ไม่ถูกก็แป๊กและไม่ได้อีก กับเวลคอมเป็นดีลที่ดี เพราะนอกจากคุณสมบัติแอนดรอยด์แล้ว เขายังยอมให้เราไปรับงานแบรนด์อื่นได้ด้วย เพราะเราคิดว่าเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งแล้ว ชีวิตผมไม่ได้จบแค่เงินก้อนนี้ ก่อนหน้านี้ก็มีคนติดต่อผมเป็นพรีเซ็นเตอร์นะ แต่ก็ต้องดูว่าเข้ากับตัวเราไหม มีบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ที่เขาจะให้ผมไปแสดงเป็นตัวแมลงสาบตัวนั้น ผมว่าบริษัทประกันไม่เข้ากับผมนะ

POSITIONING : เคยเจออุปสรรคอะไรใหญ่ที่สุดและแก้ปัญหาอย่างไร
หนุ่ย : อืม…นึกไม่ออก เคยจัดงานอย่างไทยแลนด์เกมโชว์ปีแรก ปี 2007 ไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นว่าคนจะมาร่วมจัดแสดงมากไหม เหนื่อยมาก เพราะเป็นช่วงปีใหม่ แต่งานจัดวันเด็ก กลัวพีอาร์ไม่พอ คิดว่ายังไม่พอตลอด กลัวคนมาน้อย ปรากฎว่าคนมางานเยอะมากต่อแถวยาว วิธีแก้ปัญหาตอนนั้นคือมีพันธมิตรดี ที่เขาเชื่อมั่นเราจาก Potential ที่เราทำมาก่อน และสำเร็จ เพราะเราทำงานด้วยความจริงใจและเต็มความสามารถ

ตอนเด็กก็มีช่วงสอบเข้าโรงเรียนมัธยมที่อยากเรียนไม่ได้ ปีแรกเราเกเร จนเป็นเด็กแสบของโรงเรียน แต่เป็นปีเดียว ก็มีอาจารย์บอกว่าจะทำทัณฑ์บน แล้วเราก็คิดว่าจะใช้เวลาอีก 2 ปีที่นั่นให้คุ้มค่า และเรียนดี ทำกิจกรรมเต็มที่

POSITIONING : มีหลักคิดในการผ่านอุปสรรคอย่างไรบ้าง
หนุ่ย : ใช้ข้อคิดจากหนัง ปลอบใจตัวเอง อย่างข้อคิดว่า “แล้วจะเป็นอีกเรื่องที่ผ่านไป” จากเรื่อง Big Mama’s House และจากเรื่อง Forrest Gump ที่มีคำกล่าวว่า “ชีวิตเหมือนกล่องช็อกโกแลต ที่เราไม่รู้หรอกว่าจะได้อะไรเมื่อเปิดออกมา”

POSITIONING : ไฮเทคแล้วเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยบ้างไหม
หนุ่ย : ไม่ครับ เหมือนอย่างที่มีคนบอกว่าดูลายมือ (ชูมือให้เห็นลายมือ) แต่นี่ครับ (กำมือ) ทุกอย่างอยู่ในมือเรา

POSITIONING : คิดว่าทำไมตัวเองอยู่ในวงการนี้ได้นาน
หนุ่ย : หน้าตาดีไม่ใช่แน่นอน แต่เพราะชอบแสดงออก ตั้งแต่เรียนมัธยม ถ้าเล่าไปเรื่องมันยาว เป็นพิธีกรไอที 12 ปี เข้าสู่วงการอายุ 16 ปี ทำให้รู้ว่าอยู่ในวงการนี้ต้องระวังมากที่สุดคือ ต้องไม่แสดงอาการ Wanna be ถ้าแสดงออกมาเมื่อไหร่จะดูไม่ดี สำหรับผมจะทำเป็น Showcase สำเร็จแล้วมีคนติดต่อมา นอกเหนือจากนี้คือต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน

POSITIONING : เหมือนอย่างออกรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทย…”
หนุ่ย : เพราะทีมงานนายกฯเขาต้องเสนอประเด็นคลิปเสียง และรู้จักรายการแบไต๋ไฮเทค แล้วติดต่อมาที่พี่อดิศักดิ์ (ลิมปรุ่งพัฒนกิจ) เนชั่น จึงเป็นที่มาของงานนั้น และเป็นจุดสตาร์ทรายการแบไต๋ให้คนรู้จักมากขึ้น และยังมีคอลัมนิสต์ไทยรัฐเขียนชม

POSITIONING : ที่เป็นพิธีกรรายการเพราะแสดงเก่งหรือเปล่า
หนุ่ย : ใช่ผมเป็นพิธีกร เรียนการแสดง แต่แสดงเป็นตัวเอง ไม่ได้แสดงเพราะมีบทบาทมากำกับ ผมยังมีเรียนวิชาโท คือการพูด ที่ได้อาจารย์ดีที่มหาวิทยาลัยด้วย

POSITIONING : มีอะไรบ้างที่ไม่สำเร็จ
หนุ่ย : ก็มีเกมต้มยำกุ้ง ที่เดินเข้าไปหาเสี่ยเจียง ที่พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว พาไปหา เพราะเราเคยเล่นตัวประกอบให้เขา ผลออกมาขายได้ไม่เท่าไหร่ เราต้องเดินคอตกไปหาให้เสี่ยเจียงด่า แต่เราก็ได้ประสบการณ์เยอะ และก็มีเวิล์ดไซเบอร์เกมปีแรก ปี 2004 ที่คอเกมชอบ แต่ก็ถูกผู้บริหารบริษัทไอทีบางคนวิจารณ์ว่าโลว์เทสต์ แต่ปีต่อๆ มาก็ดีขึ้น

POSITIONING : ถูกว่าแล้วไม่โกรธหรือ
หนุ่ย : ไม่โกรธ แต่เรารู้สึกว่าดีมากกว่า เพราะเราต้องโตอย่างยั่งยืน

POSITIONING : ทุกวันนี้มองว่าตัวเองสำเร็จแล้วหรือยัง
หนุ่ย : ผมมี 5 Years Plan เสมอ เช่นตั้งแต่เป็นพิธีกรวันแรก ก็คิดแล้วว่าต้องทำธุรกิจออแกไนเซอร์เอง 5 ปีต่อไปก็ทีวีดาวเทียม ตอนนี้ 10 ปีของบริษัทแล้วก็อยากทำซีเอสอาร์ ทำทอล์กโชว์เคลื่อนที่ตามสถาบันการศึกษา

POSITIONING : เป็นออแกไนเซอร์แบบไหน
หนุ่ย : 12 ปีกล้าพูดว่าทำมาหมดทุกแบรนด์ (มือถือ) แล้ว เราก็เลือกงานเหมือนกัน เราไม่ได้หิวเงินขนาดนั้น แต่เราก็ไม่ได้หยิ่งนะ เพียงแต่ว่าทำแล้วเราก็ปรารถนา Feeling การทำงานแบบ Partner คือความรู้สึกสำเร็จร่วมกัน อย่างน้อยลูกค้าอยู่ดูงาน คือการได้ตังค์นั้นความรู้สึกไม่ได้มากเท่ากับความรู้สึกว่าสำเร็จนะ

POSITIONING : จัดงานแบบเชิญเซเลบ ที่กำลังเป็นข่าว หรือดาราโชว์เซ็กซี่เพื่อดึงนักข่าวบ้างไหม
หนุ่ย : ไม่นะ เพราะไม่เป็นประโยชน์กับสินค้าของลูกค้าแน่นอน และลูกค้าที่มาเจอผมก็เป็นลูกค้าที่ฉลาดแล้ว

POSITIONING : รายได้ปีที่แล้วกับคาดว่าปีนี้เท่าไหร่
หนุ่ย : ปีที่แล้วปิดที่ 77 ล้านบาท ปีนี้คิดว่าจะเพิ่มอีกประมาณ 5% รวมรายได้จากทีวีดาวเทียมแล้ว

POSITIONING : “โม้” หนุ่ยมักถูกว่าอย่างนี้เสมอ
หนุ่ย : ผมไม่รู้สึกหวั่นไหว ถ้าหวั่นไหวก็ตายหมด ผมไม่เสียชีวิตด้วยคำด่า ดังนั้นผมต้องเลือกจัดการ ช่วงแรกๆ ก็ไปตอบโต้ในกระทู้ เว็บบอร์ดบ้าง อย่างในเว็บข่าวเมเนเจอร์ออนไลน์ ก็คือเข้าไปตอบชี้แจงบ้าง แต่ก็ที่สุดแล้วไม่รู้จะชี้แจงไปทำไมในเว็บบอร์ด คนที่ด่าเราจุดติด อาจเป็นเพราะเหตุผล 3 ข้อ คือ เรารู้ทันมัน มันอยากได้จากเราแล้วไม่ได้ และสุดท้ายคือก็ไม่ชอบ แบบไม่มีเหตุผล บางคนเกิดจากบุคคลที่สามเล่ากันเอง ของบางอย่างไม่ได้ทำแต่ถูกพูด ตอนหลังก็มาใช้ทวิตเตอร์แทน ทุกวันนี้ก็มีคนชมก็เยอะนะในทวิตเตอร์

POSITIONING : มี Follower เท่าไหร่แล้วตอนนี้
หนุ่ย : เยอะ เป็นหมื่นแล้วนะ กดให้ดูเลย เดี๋ยวหาว่าโม้ (ว่าแล้วก็เปิดมือถือเปิดให้ดูเห็น ๆ) ตอนนี้ (8 เมษายน 2009 เวลาประมาณ 13.00 น.) มีผู้ตาม 13,403 คน เฉลี่ยวันหนึ่งมีคนตามเพิ่มวันละ 40-45 คน และทวีตวันละประมาณ 10-15 ข้อความ

POSITIONING : ทวิตเตอร์ยังเป็นช่องทางให้หนุ่ยไปคุณกรณ์ในฐานะสื่อ
หนุ่ย : เพราะผมชอบและชื่นชมคุณกรณ์ ผมสนับสนุนรัฐบาล เราเป็นประชาขนก็ทำตามนโยบายรัฐบาล ผมก็เลยรีทวีตให้คุณกรณ์ คุยกันในทวิตเตอร์มาระยะหนึ่ง จนเมื่อคุณกรณ์ไปประชุมดูงานที่ญี่ปุ่น ก็เชิญผมไปในฐานะสื่อจากทวิตเตอร์ เท่านั้นเอง

POSITIONING : ใครเป็น Role Model
หนุ่ย : ไมเคิล แจ็กสัน เพราะเขาทำอะไรเว่อร์ไปหมด ถึงขั้นเปลี่ยนสีผิว ทำงานก็เจ๋งมากมาตรฐานเดียวกันหมดไม่ว่าจะเล่นคอนเสิร์ตที่ไหน

POSITIONING : แล้วตัวเองจะเป็นใครต่อไปนับจากนี้
หนุ่ย : ผมก็อยู่ในโลกโซเชี่ยลมีเดีย เป็น IT Influencer ครับ

Between the line
กว่าจะนัด “หนุ่ย พงศ์สุข” ได้ เราใช้เวลานัดล่วงหน้าประมาณ 2 สัปดาห์เห็นจะได้ เพราะเขางานเข้ามากมาย ทั้งงานพิธีกร งานวิทยากร งานสื่อมวลชน

8 เมษายน 2010 คือวันนัดหมายท่ามกลางสถานการณ์การเมืองคุกรุ่น “หนุ่ย” ก็ยังยุ่งไม่น้อย ก่อนเที่ยงคือเวลาคอนเฟิร์ม และสถานที่คือออฟฟิศบริษัทโชว์โนลิมิต ที่อยู่บนชั้น 20 อาคารมาลีนนท์

ก่อนจะพูดคุย “หนุ่ย” ขอเวลาไปทำผมสักเล็กน้อย ทีม POSITIONING รอในห้องประชุมที่ดีไซน์โปร่งด้วยกระจกและแสงไฟสีเหลือง ที่ “หนุ่ย” ตั้งใจจัดแต่ง เพราะเป็นห้องประชุมที่ไว้ต้อนรับแขกและลูกค้าที่ “หนุ่ย” บอกว่าแสงสีเหลืองทำให้อบอุ่นเป็นมิตร และทำให้คิดงานได้ง่าย

ที่นี่ค่าเช่าที่เดือนหนึ่งเป็นหลักแสนบาท พร้อมค่าไฟแอร์อีกต่างหาก หรูหราพอสมควร และต้นทุนสูง ที่ “หนุ่ย” คิดว่าย้ายมาจากเอกมัยมาที่นี่เพื่อจะได้อยู่ใกล้ช่อง 3 เสนอรายการไปแล้ว ทำให้สะดวกไปถามถึงว่าได้เวลาแล้วหรือยังแบบเช้าถึงเย็นถึง แต่ตอนนี้เวลาผ่านมาแล้วปีกว่า ก็ยังไม่ได้เวลาที่ช่อง 3 สักที และอีกเหตุผลหนึ่งคือเขาค้นพบว่าหากออฟฟิศดูไม่ดีพอ หลายคนที่ลูกค้ามาเยือน ก็ถูกต่อราคาทันที

แต่เมื่อถึงเวลาจะมีทีวีดาวเทียมเป็นของตัวเอง “หนุ่ย” ก็เตรียมย้ายออฟฟิศอีกครั้งไปย่านรัชดาฯ
ก่อนถ่ายภาพ “หนุ่ย” ขอเติมแป้ง ลิปมันให้ดูดี นอกจากแอคชั่นถ่ายภาพเดี่ยวแล้ว ทีมงานของ “หนุ่ย” ส่วนหนึ่งจาก 30 คน ก็พร้อมร่วมอยู่ในเฟรมด้วยอีกช้อตหนึ่ง

กว่า 4 ชั่วโมงในการสนทนาและแอคชั่นถ่ายภาพกับ “หนุ่ย” เป็นการสนทนาที่ได้อรรถรส หลายคำต้องเซ็นเซอร์ เหมือนได้ดูทอล์กโชว์สักชุด เพียงแต่ว่านี่คือโชว์ที่แบไต๋ ได้รสชาติจริงๆ

Profile

Name
พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ (หนุ่ย)
-“หนุ่ยเงินล้าน” ได้ตอนอยู่มัธยม ประกวดการแสดง จนได้รางวัล 1 ล้านบาท
-“หนุ่ย แบไต๋ ไฮเทค” ในฐานะพิธีกรรายการทีวีเนื้อหาไอที
-“หนุ่ยโชว์” ในโลก ทวิตเตอร์ @nuishow
– “หนุ่ย IT Influencer”
Age 32 ปี
Education
ปริญญาตรี ศศบ. สาขาการแสดงและกำกับการแสดง คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปีการศึกษา 2543
Mini Techno MBA มหาวิทยาลัยชินวัตร
Career Highlights
ปัจจุบัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โชว์ไร้ขีด จำกัด (SHOW NO LIMIT)
ผู้อำนวยการจัดงาน Thailand Game Show มหกรรมเด็กเล่นเกม
กรรมการ Event Management Association (EMA)
พิธีกรและสร้างสรรค์รายการ “แบไต๋ไฮเทค” ทางเนชั่น แชนแนล
พิธีกรรายการข่าววันใหม่ ช่วง “ไอทีวันใหม่” ช่อง 3
จุดเปลี่ยนที่ทำให้ได้เป็นพิธีกรไอที คือจากพื้นฐานชอบคอมพิวเตอร์และเล่นเกม รู้เรื่องอินเทอร์เน็ตมากกว่าคนวัยเดียวกัน และเมื่อเข้าร่วมงาน ICQ Party งานสังสรรค์ของชาวแชตยุคนั้นซึ่งจัดโดย “ปรเมศวร์ มินศิริ” หรือ “นายสนุกดอทคอม” ในเวลานั้น ทำให้ “หนุ่ย” ได้พบกับ “จอห์น รัตนเวโรจน์” นักร้องวงนูโว ที่สนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ จนถูกชวนมาให้ทำรายการ “ไออีดอทคอม” ตั้งแต่ปี 2543 เป็นผู้ “สตาร์ท” เส้นทางนี้ให้หนุ่ย ด้วยจุดขายการอธิบายเรื่องไอทีให้เข้าใจง่ายและสนุกทำให้ “หนุ่ย” มี Positioning ชัดเจนในการเป็นพิธีกรไอที
Social Network
– Twitter.com/nuishow 14 เมษายน 2010 Followers 13,804 คน/Following 365 คน/tweets 15,394 ครั้ง
Facebook.com/nuishow Friends 4,583 คน (14 เมษายน 2010)
รถยนต์ : มาสด้า 3
Gadget แบล็คเบอร์รี่ 8520 โมโตโรล่า V8 และเวลคอม A88