ปัจจุบันคนไทยต้องเผชิญปัญหาด้านมลพิษทางอากาศทั้งฝุ่นควันและไวรัสอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะปัญหาฝุ่น PM2.5ที่พุ่งสูงขึ้นเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีมลพิษทางอากาศสูงเป็นอันดับ 3ในเอเชีย รองจากกรุงจาการ์ต้าและฮานอย[1]โดยฝุ่น PM 2.5นับเป็นมลพิษที่มีผลกระทบกับสุขภาพมากที่สุดในบรรดามลพิษทางอากาศโดยทั่วไป เนื่องด้วยขนาดที่เล็กมาก ทำให้ PM 2.5สามารถเข้าเดินทางเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์และกระจายไปทั่วร่างกายได้ ซึ่งส่งผลกระทบด้านสุขภาพได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว[2]
สำหรับปัญหาฝุ่น PM 2.5 หรือไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ นอกจากเราจะดูแลและป้องกันตัวเองโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการหมั่นล้างมือให้สะอาดแล้ว การปฏิบัติตนด้านอื่นๆ ที่หลายคนอาจมองข้าม เช่น การดูแลเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ในทุกๆวัน เนื่องจากการนำเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มไปตากกลางแจ้งหลังจากการซักผ้า อาจทำให้เสื้อผ้าของเรากลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น มลพิษ และเชื้อไวรัสที่ลอยในอากาศโดยที่เรามองไม่เห็นซึ่ง บริษัท เบโค ไทย จำกัด ในฐานะแบรนด์ผู้นำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านภายใต้มาตราฐานจากยุโรปได้ตระหนักถึงสุขภาพที่ดีของคนไทยและเชื่อว่าสุขภาพที่ดีนั้นเริ่มจากภายในบ้าน เบโคจึงอยากแบ่งปันวิธีการซักผ้าและตากผ้าเพื่อให้ทุกคนสามารถปกป้องทั้งเสื้อผ้าและสุขภาพของตนเองรวมถึงคนที่เรารักให้ห่างไกลจากฝุ่นและไวรัสได้ง่ายๆในทุกๆวัน ดังนี้
- สวมใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าไม่อมฝุ่น การเลือกเนื้อผ้าเพื่อสวมใส่ในช่วงนี้ถือเป็นวิธีง่ายๆที่เบโคอยากแบ่งปัน หลายคนอาจไม่รู้ว่าเนื้อผ้าแต่ละชนิดมีคุณสมบัติในการดูดซับน้ำต่างกัน ซึ่งมีผลต่อการเป็นแหล่งสะสมฝุ่นที่ต่างกันด้วยโดยเฉพาะเนื้อผ้าที่ไม่ดูดซับน้ำอย่างผ้าใยสังเคราะห์หากซักไม่สะอาดหรือนำไปตากกลางแจ้งจะทำให้เสื้อผ้าของเราเป็นแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดี นอกจากจะหมองและเก่าง่ายเมื่อโดนฝุ่นในปริมาณมากแล้ว ยังคงเป็นสาเหตุของการแพ้ทางผิวหนัง และระบบอื่นๆของร่างกายได้อีกด้วย
- เว้นการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม: โดยปกติแล้ว หลังจากที่เราซักผ้าด้วยผงซักฟอกแล้ว เรามักจะใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อให้เนื้อผ้านุ่ม มีกลิ่นหอมรวมถึงยับยั้งกลิ่นอับหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ แต่ในช่วงนี้ที่สภาพอากาศมีฝุ่น และมลพิษสูง น้ำยาปรับผ้านุ่มถือเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากคุณสมบัติลดการอมน้ำของน้ำยาปรับผ้านุ่มทำให้ฝุ่นเกาะเสื้อผ้าของเราได้ง่ายและนานขึ้น ถึงแม้เราจะสวมใส่หน้ากากอนามัย แต่การสวมเสื้อผ้าที่มีฝุ่นเกาะติดอยู่ตลอดเวลา ก็เท่ากับว่าเราแบกฝุ่นไปกับเราทุกที่ เสี่ยงต่อการเกิดภูมิแพ้และส่งผลต่อสุขภาพได้เช่นกัน
- เลี่ยงการตากผ้านอกบ้าน: นอกจากเราจะควรงดการทำกิจกรรมกลางแจ้งเพื่อหลีกเลี่ยงการสูดมลพิษและสัมผัสเชื้อไวรัสแล้ว อย่าลืมว่าเสื้อผ้าของเราที่โดยปกติเรานำออกมาตากนอกบ้านทุกวันแถมเป็นระยะเวลานาน อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นในปริมาณมากโดยที่เราไม่ทันระวัง โดยเฉพาะเสื้อผ้าเด็กเล็ก หรือคนที่มีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ โรคทางเดินหายใจ ควรงดการตากผ้านอกบ้าน โดยอาจเปลี่ยนเป็นการใช้เครื่องอบผ้าที่มีเทคโนโลยีหรือคุณสมบัติที่ไม่ทำให้เกิดกลิ่นอับ ง่าย สะดวก สะอาดต่อการสวมใส่ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจด้วย
- เครื่องซักผ้าที่ดีคือเกราะป้องกันให้เสื้อผ้า: เพราะปัญหาฝุ่น มลพิษ หรือเชื้อไวรัสที่เกิดขึ้น ไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลายโดยง่าย อุปกรณ์สำคัญที่จะสามารถเป็นตัวช่วยในการปกป้องทั้งสุขภาพและเสื้อผ้าของเราให้สะอาดปลอดภัยคือ เครื่องซักผ้าที่มีเทคโนโลยีในการช่วยลดฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงมีนวัตกรรมซักอบแห้งในตัว นอกจากจะซักเสื้อผ้าของเราให้สะอาดแล้วยังสามารถอบผ้าให้แห้งโดยไม่ต้องนำไปตากนอกจากบ้านอีกด้วย
โดยเบโคผู้นำเทคโนโลยีกลุ่มซัก-อบผ้ามาตราฐานจากยุโรปได้คิดค้นเครื่องซักผ้าที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีและคุณสมบัติมากมายที่จะช่วยให้ทุกขั้นตอนของการซักผ้าเป็นเรื่องง่าย ให้เสื้อผ้าของเราปลอดภัยจากฝุ่นและไวรัส ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมSteamCure™ปล่อยไอน้ำ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น และเกสรดอกไม้ได้ถึง 99.9% ด้วยการใช้อุณภูมิน้ำที่60องศาเซลเซียสซึ่งได้รับการรับรองจาก Allergy UK แล้ว ยังช่วยลดรอยยับของผ้าและขยายใยผ้าให้นุ่มฟูช่วยให้เราสามารถลดการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในช่วงนี้ได้อีกด้วย อีกทั้งเรายังสามารถหลีกเลี่ยงการตากผ้านอกบ้านได้ด้วยเครื่องซักAir Therapy Seriesสุดยอดเทคโนโลยีในเครื่องซักผ้าจากเบโค ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมซักด่วนพร้อมใส่ภายใต้ฟังก์ชั่น Clean & Wear ที่ช่วยซักผ้าแห้งได้ภายใน 120 นาที และมาพร้อมกับ Refresh โปรแกรม อบผ้าแห้ง ภายใน 30 นาที ลดทั้งปัญหากลิ่นอับและช่วยลดรอยยับของเสื้อผ้าอีกทั้งยังมีแอปพลิเคชันHomewhizที่สามารถควบคุมการใช้งานเครื่องซักผ้าผ่าน WIFIเพื่อปรับเปลี่ยนระบบการซักผ้าให้เหมาะกับเนื้อผ้า อีกทั้งยังสามารถแจ้งเตือนสถานะการซักผ้าผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดก็ตามนอกจากนี้Bekoยังมีคุณสมบัติซักด่วนประจำวัน โปรแกรมซักด่วนเต็มความจุด้วยเวลาเพียง 28 นาที ให้การซักผ้ารวดเร็วยิ่งขึ้นได้อีกด้วย
นอกจากเราการดูแลและป้องกันตัวเองอย่างรู้เท่าทันด้วยวิธีเบื้องต้นอย่างการสวมใส่หน้ากากอนามัย การหมั่นล้างมือ การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ หรือออกกำลังกายเป็นประจำแล้ว การมีเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สามารถดูแลสุขภาพของเราและคนที่เรารักได้เช่นกัน เครื่องซักผ้าเบโคยังคงมาพร้อมกับดีไซน์ที่หรูหรา เหมาะกับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่และคนรักสุขภาพ สามารถติดต่อได้ที่จุดจำหน่ายห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วไป หรือติดตามรายละเอียดได้ทางเว็บไซต์ www.beko.co.th
เกี่ยวกับแบรนด์เบโค
เบโคเป็นแบรนด์เครื่องไฟฟ้าภายในบ้านระดับสากลภายใต้ Arçelik Group และเป็นเมนพาร์ทเนอร์ของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา “main partner of FC Barcelona” ซึ่งทางแบรนด์เบโคได้ทำการต่อสัญญากับทางสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2561 ที่ผ่านมา
เบโคนำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่ เครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็ก เบโคเป็นแบรนด์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของยุโรปในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดใหญ่และยังเติบโตเร็วที่สุดในตลาดยุโรปในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา
เบโคเป็นผู้นำตลาดและเป็นแบรนด์ที่สำคัญที่สุดในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านของประเทศอังกฤษ และยังครองตำแหน่งผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านนอกจากนั้นเบโคยังเติบโตเร็วที่สุดในประเทศเยอรมนีและใหญ่ที่สุดในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านในยุโรปด้วยอัตราการเติบโต 3 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
เกี่ยวกับเบโค ไทย
เบโค เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและเริ่มดำเนินการผลิตตู้เย็นเมื่อต้นปี 2559 ที่ผ่านมาณโรงงานที่นิคมเหมราช จังหวัดระยอง โดยใช้เป็นฐานการผลิตส่งออกตู้เย็นไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศส ตุรกีและประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เบโคได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2559 ที่สยามพารากอน
ภายใต้แบรนด์แมสเสส “Live Healthier”หรือ “สุขภาพดีคุณเลือกได้” แบรนด์ตระหนักถึงสุขภาพที่ดีของคุณ เริ่มต้นจากบ้านที่อยู่อาศัย โดยมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตทั้งสุขภาพกายและใจ อีกทั้งโปรดักซ์ของเบโคยังมีดีไซน์สวยล้ำสมัย ประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่แบรนด์อยากจะมอบความสะดวกสบายและช่วยให้ชีวิตผู้คนง่ายขึ้นในทุก ๆ วัน
ปัจจุบันเบโคได้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ภายใต้มาตราฐานยุโรป ที่สามารถตอบโจทย์ของคนทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างครอบคลุม เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เบโคเชื่อว่ายุคที่เทคโนโลยีก้าวล้ำเป็นแรงบันดาลใจที่ใหญ่ที่สุดในการคิดค้นโซลูชั่นในอนาคต เบโคจึงได้รับแรงบันดาลใจจากความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้คน และช่วยให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ง่ายขึ้นด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ทันสมัย
[1]https://www.greenpeace.org/thailand/press/3257/global-aqi-2018/
[2]https://www.greenpeace.or.th/s/right-to-clean-air/2018-world-air-quality-report.pdf