ไมโครซอฟท์จับมือเอไอเอสพัฒนาศักยภาพคนรุ่นใหม่ ผ่านโครงการ“1stJobberHack Challenge” เพื่อยกระดับทักษะดิจิทัล

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอสเปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาได้เติมเต็มทักษะเชิงดิจิทัลผ่านกิจกรรมการแข่งขันระดมความคิดเสนอไอเดียเพื่อแก้ไขปัญหาให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พร้อมฝึกอบรมทักษะความรู้ที่มีความจำเป็น เพื่อสร้างเสริมศักยภาพเยาวชนไทยเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาดงานและเตรียมความพร้อมต่อการทำงานในศตวรรษที่ 21ภายใต้โครงการ“1stJobberHack Challenge ติดอาวุธเสริมทักษะด้านดิจิทัล”ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ สำนักงานใหญ่ของบริษัทเอไอเอส โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับ Surface Go จำนวน 3เครื่อง มูลค่าเครื่องละ 25,900บาท[i]พร้อมการฝึกอบรมการใช้งาน PowerAppsและ PowerPlatform สำหรับนิสิตนักศึกษาจำนวน 50คนจากมหาวิทยาลัยนั้นๆ

การเปิดตัวโครงการ “1stJobberHack Challenge ติดอาวุธเสริมทักษะด้านดิจิทัล”จัดขึ้นที่บริษัทเอไอเอส เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมพร้อมเยาวชนระดับชั้นอุดมศึกษาด้วยทักษะเชิงดิจิทัลที่จำเป็นต่อการทำงานในศตวรรษที่ 21พร้อมสนับสนุนการนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงผ่านการนำเสนอไอเดียโซลูชั่นเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้กับธุรกิจได้จริงโดยต่อยอดจากการฝึกอบรมผ่านช่องทางออนไลน์ผ่าน Microsoft Teams ซึ่งครอบคลุมหัวข้อพื้นฐาน ได้แก่ การประมวลผลของชุดคำสั่ง (documenting) การสื่อสาร (communication)การเก็บข้อมูลและเว็บไซต์ (data collecting and website)การจินตนาการภาพจากข้อมูล (data visualization) ระบบควบคุมอัตโนมัติและการสร้างแอปพลิเคชัน (automation and building application)และการสร้างแอปพลิเคชันผลิตภัณฑ์ (create product application)

นางสาวชนิกานต์ โปรณานันท์รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการไมโครซอฟท์ ประเทศไทย กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์เชื่อมั่นมาโดยตลอดว่าความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมจะเกิดขึ้นได้ด้วยการเปิดโอกาส รับแนวคิดจากทุกคนทุกวัย และทุกภาคส่วนมาพิจารณาต่อยอด ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมแฮคกาธอนจึงเป็นส่วนสำคัญในวัฒนธรรมการสร้างแนวคิดของไมโครซอฟท์ และยังถือเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการค้นหามุมมองใหม่ ๆ เพื่อเอาชนะปัญหาและอุปสรรคที่เราต้องเผชิญ ไม่ว่าจะในเชิงธุรกิจ สังคม หรือการศึกษาในโอกาสนี้ เราจึงนำเสนอเครื่องมือและบริการจาก Power Platform และ Microsoft Office 365 เพื่อสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัลในรูปแบบที่เปิดกว้าง ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการเขียนโค้ดในทุกส่วน (low coding environment) ให้นิสิตนักศึกษาในโครงการได้นำไปประยุกต์ใช้ โดยเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเอไอเอสเพื่อจุดประกายสร้างสรรค์ของน้องๆคนรุ่นใหม่ ควบคู่ไปกับการยกระดับทักษะเชิงดิจิทัลไปพร้อมกัน และเราก็มีความตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เห็นผลงานการสร้างแอปพลิเคชันจากฝีมือนิสิตนักศึกษาทุกคนค่ะ”

นายอราคิน รักษ์จิตตาโภค หัวหน้าฝ่ายงานขับเคลื่อนนวัตกรรม บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการ Digital Life Service Provider นอกเหนือจากภารกิจในการพัฒนาเครือข่ายและการให้บริการแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรด้านดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง ผ่านการจัดเวิร์กช้อป และเปิด AIS Playground คอมมูนิตี้ด้านการสร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเป็นพื้นที่ให้นิสิต นักศึกษา และสตาร์ทอัพได้แสดงความสามารถและร่วมพัฒนานวัตกรรมไปพร้อมๆ กัน โดยการร่วมมือบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ในครั้งนี้ เอไอเอส รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนสนับสนุนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี, บุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากทีม NEXT เพื่อช่วยให้คำแนะนำในการพัฒนาธุรกิจ ตลอดจนสนับสนุนดิจิทัล แพลตฟอร์มจากไอเอเอส เพื่อให้นิสิต นักศึกษาสามารถประยุกต์ใช้เครื่องมือและทักษะทางด้านการเขียนโปรแกรมแก้ไขโจทย์ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เราเชื่อว่ามั่นว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะนำไปสู่การสร้าง Innovation และ Collaboration ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้เกี่ยวข้องใน Ecosystem ในอนาคตได้อย่างแน่นอน”

ในงานเปิดตัวโครงการที่ผ่านมา มีนิสิตนักศึกษาให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด29ทีม จาก 9มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีและมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยนอกจากนิสิตนักศึกษาเหล่านี้จะได้รับความรู้จากเวิร์คช็อปการออกแบบความคิดและนำเสนอไอเดีย พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมในงานเปิดตัวที่ผ่านมาแล้ว พวกเขายังได้รับโอกาสในการฝึกอบรมทักษะเชิงดิจิทัลที่จำเป็นและมีประโยชน์ผ่านช่องทางออนไลน์Microsoft Teams เป็นระยะเวลา 1 เดือน จนถึงวันที่ 12มีนาคม พ.ศ. 2563 ด้วย

นายสุกฤษ ฉัตรไชยเดช นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกว่าโครงการ 1st JobberHack Challenge มีความน่าสนใจตรงที่เป็นโครงการที่เกิดความร่วมมือจากบริษัทยักษ์ใหญ่ 2 แห่งอย่างไมโครซอฟท์และเอไอเอสผมจึงเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้ผมได้รับประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์จากทั้งสองบริษัทที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมจากการเรียนรู้ทักษะความรู้ระดับพื้นฐานที่สำคัญในการจัดกระบวนการคิดเพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อพัฒนาโซลูชั่นสำหรับธุรกิจต่าง ๆ”

นางสาวยุภาภรณ์ วันนา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาสารสนเทศสถิติ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า “ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 จึงรู้สึกว่าโครงการนี้เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ลองนำความรู้เชิงทฤษฎีที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้ รวมถึงทดสอบศักยภาพของตนเอง ก่อนที่จะออกไปเจอกับสนามแข่งจริงหนูเชื่อว่าทักษะและความรู้ที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มชีวิตการทำงานในอนาคตทั้งจากการแบ่งปันประสบการณ์และคำแนะนำโดยผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จ และจากการฝึกคิดสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับธุรกิจร่วมกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม”

หลังจากการฝึกอบรมทางออนไลน์แล้ว ทีมนิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการจะนำเสนอไอเดียโซลูชั่นเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับธุรกิจในรูปแบบวิดีโอที่มีความยาว 1-2 นาทีและทีมผู้ชนะเลิศของการแข่งขันจะถูกประกาศขึ้นในวันที่ 31มีนาคม พ.ศ. 2563 หลังจากการนำเสนอผลงานต่อหน้าคณะกรรมการซึ่งล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมโดยทีมนักศึกษาที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจะได้รับ Surface Go จำนวน 3เครื่อง รางวัลละ 25,900 บาทบาท พร้อมการฝึกอบรมการใช้งาน PowerAppและ PowerPlatformสำหรับนักศึกษาจำนวน 50 คนจากมหาวิทยาลัยนั้นๆ ในขณะที่ทีมนักศึกษาที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้รับรางวัลเป็นSurface Go จำนวน 3รางวัล มูลค่ารวมกว่า50,000บาท และทีมนักศึกษาที่ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้รับรางวัลเป็นหูฟัง Logitech G933s จำนวน 3รางวัล มูลค่า กว่า 6,000 บาท นอกจากนี้มหาวิทยาลัยที่ชนะเลิศจะได้รับคอร์สสอนการใช้งาน Office 365 จำนวน 50 ที่นั่งฟรี

[i]ราคากลางตามที่จัดจำหน่ายทั่วไป