LPN ภายใต้แบรนด์BAAN 365 ร่วมกับ VICKTEERUT และ BMW เปิดตัวสินค้าคอลเล็คชั่นใหม่ในซีซั่น Spring&Summer 2020 นำเสนอถึงความทันสมัยที่เปี่ยมไปด้วยรายละเอียดการตัดเย็บเรียบง่าย แต่หรูหราบนวัสดุที่พิถีพิถัน สะท้อนเอกลักษณ์แนวคิด “Livable Simple Luxury House” อยู่ทั้งในงานดีไซน์และวัสดุที่คัดสรรอย่างดี ทำให้สามารถสัมผัสได้ถึงคุณค่าที่แท้จริง
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)(LPN) เปิดเผยว่าการจับมือร่วมกับแบรนด์แฟชั่นหรู Vickteerut และ BMW เพื่อจัดงานโปรโมทโครงการ BAAN 365 ในครั้งนี้ เพราะพันธมิตรทั้ง 2 รายมีกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับโครงการ “BAAN 365” คือ เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่ลูกค้าผู้มีกำลังซื้อสูง และมีความชื่นชอบแฟชั่น มีไลฟ์สไตล์ และรสนิยมที่มีระดับซึ่งที่ผ่านมาแบรนด์ Vickteerut มีการพัฒนาสินค้าคอลเล็คชั่นใหม่ๆ เข้ามาให้แฟนคลับได้เลือกซื้อเลือกหาอย่างต่อเนื่องด้วยความที่แบรนด์ Vickteerut จะเป็นแฟชั่นที่เต็มไปด้วยความโมเดิร์นแต่ขณะเดียวกันก็มีความมินิมอล เรียบหรู จึงทำให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของโครงการ “BAAN 365” ได้เป็นอย่างดี
ล่าสุดแบรนด์ Vickteerut ก็เตรียมที่จะเปิดตัวคอลเล็คชั่น “Spring/Summer 2020” ไปพร้อมๆกับการเปิดตัวโครงการ BAAN 365 เพื่อให้สาวสายแฟชั่นได้อินไปกับสินค้าคอลเล็คชั่นใหม่ที่จะมาพร้อมกับเซเลบริตี้คนดังทั้งหลาย ที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆให้กับผู้ที่สนใจเรื่องบ้านและเรื่องแฟชั่นกลยุทธ์ที่นำมาใช้ดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดไม่ว่าจะเป็นในด้านของสายแฟชั่นหรือสายอสังหาริมทรัพย์
สำหรับโครงการ BAAN 365 บนถนนพระราม 3 เป็นโครงการที่พัฒนาขึ้นมาบนความตั้งใจของผู้บริหารที่ต้องการสร้างโครงการที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด Livable Simple Luxury House เรียบง่ายแต่พิถีพิถันกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกที่ดิน การออกแบบก่อสร้าง และการให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยจริง ซึ่งจากความตั้งใจดังกล่าวทำให้บริษัทต้องลดทอนความซับซ้อนและสิ่งที่เกินความจำเป็นออกไป
นอกจากนี้ ภายในโครงการ BAAN 365 ยังมีการวางผังพื้นที่ใช้งานเป็นอย่างดีเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนหลายวัยในครอบครัวจึงทำให้ฟังก์ชั่นการใช้งานของบ้านแต่ละหลังสามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่สังสรรค์ร่วมกันได้ ขณะเดียวกันในด้านของวัสดุที่นำมาใช้บริษัทก็ได้มีการเลือกใช้วัสดุที่คงทน ดูแลง่าย เพื่อเพิ่มความคุณค่าในการใช้งาน และที่สำคัญไปกว่านั้นบริษัทบริหารโครงการภายใต้กลยุทธ์ “Livable Community” เพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงของการอยู่อาศัยให้กับทุกครอบครัว
ในส่วนของโครงการ BAAN 365 RAMA 3 ที่ได้เปิดตัวไปแล้วนั้น มีมูลค่าโครงการอยู่ที่ประมาณ 3,200 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม จำนวน 2 เฟส โดยในส่วนของโครงการบ้านเดี่ยว จะมีรูปแบบ 3 ชั้น รวม 41 หลัง มีราคาขายเริ่มต้นที่ 58-90 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 สไตล์ ได้แก่ The Garden Villa พื้นที่ใช้สอย 340ตร.ม. ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในบริเวณบ้าน The Pool Villa พื้นที่ใช้สอย 490ตร.ม. เหมาะกับผู้ที่ต้องการสระว่ายน้ำส่วนตัว และ The Pavilion Villa พื้นที่ใช้สอย 490ตร.ม. เป็นแปลงที่ดินพิเศษ มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำส่วนตัว โดยทุกหลังมีลิฟต์อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย
ส่วนโครงการทาวน์โฮม4 ชั้นครึ่งของ BAAN 365 RAMA 3 จะมีทั้งหมด 58 หลัง ราคาเริ่มต้นที่ 23 ล้านบาท บนที่ดิน 26 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310-320 ตร.ม. พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการจัดวางผังให้แต่ละยูนิตสลับหน้า-หลังกันเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน ภายในโครงการยังมีคลับเฮ้าส์ที่โดดเด่นทางภูมิสถาปัตยกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านวัสดุเซรามิก ผสมผสานแนวคิด Functionalism เหมาะสำหรับชีวิตทุกสไตล์ทั้ง Slow Life และ Fast Move บริเวณโดยรอบรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว
“หลังจากที่บริษัทได้เริ่มเปิดพรีเซล BAAN 365 RAMA 3 เมื่อเดือน ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา ไปพบว่าลูกค้าให้ผลการตอบรับเป็นอย่างดีมีลูกค้าเข้ามาจองแล้วกว่า 70% ทำให้มียอดขายสูงถึง 2,100 ล้านบาท ซึ่งความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทเดินมาถูกทางแล้วจากเดิมจะเน้นพัฒนาอาคารชุดพักอาศัยสำหรับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงกลาง-ล่าง แต่ปัจจุบันได้มีการปรับกลยุทธ์หันมาพัฒนาบ้านพักอาศัยระดับพรีเมียมเพิ่ม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการบ้านคุณภาพในเมืองสำหรับกลุ่มลูกค้าในระดับไฮเอนด์ และรองรับกลุ่มลูกค้าคอนโดลุมพินีที่ขยายครอบครัว โดยนำประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความเป็นมืออาชีพที่บริษัทสั่งสมมากว่า 30 ปี มาพัฒนาโครงการอย่างพิถีพิถันจากความสำเร็จที่ได้รับดังกล่าวล่าสุดบริษัทมีแผนที่จะพัฒนาโครงการ BAAN 365 ใจกลางเมืองทองธานี เพื่อขยายฐานลูกค้าระดับพรีเมียมให้กว้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีแพลนจะเปิดตัวกลางปี 2563” นายโอภาสทิ้งท้าย