ทางการเวียดนามประกาศว่าจะลงโทษผู้ที่ปกปิดอาการเจ็บป่วย หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 เพิ่ม 13 ราย ในเที่ยวบินที่เดินทางมายังกรุงฮานอย ทำให้ทางการต้องปิดสถานที่บางแห่ง และทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกกักตุนสินค้าในเมืองหลวง
ก่อนหน้านี้ ทางการเวียดนามรายงานจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส COVID-19 ว่ามีเพียง 16 ราย แม้ประเทศจะมีพรมแดนติดกับจีนที่เป็นศูนย์กลางของการแพร่ระบาด แต่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่พบในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ในกลุ่มผู้โดยสาร 201 คน ของเที่ยวบินสายการบินเวียดนาม (Vietnam Airlines) ที่เดินทางมาจากอังกฤษ
หญิงชาวเวียดนามอายุ 29 ปี จากเที่ยวบินที่เดินทางมาจากกรุงลอนดอน พบว่ามีอาการป่วยจากเชื้อไวรัส หลังกลับถึงกรุงฮานอยจากการเดินทางในฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษ และเชื่อว่าป้าของหญิงสาวและคนขับรถติดเชื้อจากเธอด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกั้นบริเวณบ้านหลายหลังที่อยู่ใกล้กับบ้านของผู้ป่วยหญิงรายนี้ รวมถึงโรงพยาบาลเอกชนที่เธอเข้ารับการรักษาในครั้งแรก
ส่วนผู้ป่วยรายอื่น ยังประกอบด้วยชาวเวียดนาม อังกฤษ ไอร์แลนด์ และเม็กซิโก นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขยังกล่าวว่า อาจพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มที่เป็นผลจากการติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายแรก
กระทรวงสาธารณสุขเวียดนาม ระบุว่า กลุ่มดังกล่าวถูกกักตัวในวันนี้ โดยโรงพยาบาลที่พวกเขาเข้ารักษาตัวถูกปิดการเข้าออกพร้อมกับบ้าน และโรงแรมอีกหลายแห่งในกรุงฮานอยที่กลุ่มคนเหล่านี้เข้าพัก
สื่อทางการของเวียดนาม รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเหวียน ซวน ฟุ้ก ได้ให้คำมั่นว่าจะลงโทษผู้ที่ไม่เปิดเผยการวินิจฉัยเชื้อไวรัส COVID-19 และกล่าวในที่ประชุมเจ้าหน้าที่ในกรุงฮานอยว่า “เราจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เข้มงวด เหมาะสม และในทันที เพื่อหยุดยั้งแหล่งโรค”
เจ้าหน้าที่ได้เริ่มใช้เครื่องมือสอบถามทางออนไลน์เพื่อให้ประชาชนทุกคนเแจ้งสถานะสุขภาพของตนเอง
“การแจ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง อาจนำไปสู่การดำเนินคดีอาญา” ประกาศของทางการ ระบุ
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศล่าสุดอยู่ที่ 30 ราย รวมทั้งชายที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้ และเวลานี้มีผู้ที่ถูกเฝ้าสังเกตอาการหรือถูกแยกตัวตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. มากกว่า 18,600 คน อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสในประเทศ
