โดยดีดีพร็
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทยมาถึงจุดที่หลายคนสงสัยว่าเราจำเป็นต้องกักตัวอยู่ภายในบ้านห้ามออกไปข้างนอกพื้นที่โดยไม่มีเหตุจำเป็นเหมือนที่เกิดขึ้นในหลายๆประเทศที่ประกาศให้มีการปิดเมืองเพื่อป้องกันการระบาดไม่ให้ลุกลามไปมากกว่าเดิมแล้วหรือยัง
ไม่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นหรือไม่เราควรมีสติอย่าเพิ่งตระหนกจนไม่เป็นอันทำอะไรและก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นควรหาวิธีเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยสิ่งสำคัญในช่วงนี้ที่คุณสามารถทำได้คือใส่ใจกับเรื่องความสะอาดในบ้านหรือคอนโดฯซึ่งแน่นอนว่าหากคุณเป็นเจ้าของหรือผู้อยู่อาศัยก็ได้ประโยชน์ไปเต็มๆทั้งเรื่องสุขอนามัยที่ทำให้บ้านหรือคอนโดฯห่างไกลโรคหรือถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่ต้องการขายต่อหรือเช่าก็ได้ประโยชน์เช่นกันเพราะบ้านที่สะอาดย่อมสร้างความประทับใจแรกให้กับผู้ซื้อหรือผู้เช่าซึ่งจะทำให้การปล่อยเช่าหรือขายต่อเป็นไปได้อย่างง่ายดาย
ทั้งนี้นอกจากห้องหับหรือพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านที่ทำเป็นประจำแล้วยังมีอีก9 จุดสำคัญที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคที่เรามักจะมองข้ามเสมอจะมีตรงไหนและมีวิธีทำความสะอาดอย่างไรDDproperty มีคำแนะนำมาให้ผู้อ่านทุกท่านได้ลองสำรวจดังนี้
1. สวิตช์ไฟ | จากการศึกษาในประเทศอังกฤษพบว่าบนสวิตช์ไฟมีเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงมากถึง217 ตัวต่อตารางนิ้วโดยเฉพาะสวิตช์ไฟห้องน้ำนั้นมีเชื้อโรคอาศัยอยู่มากกว่าหลายเท่าตัวทำให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคไปสู่บุคคลอื่นๆจากการสัมผัสได้ด้วย
ดังนั้นจึงควรทำความสะอาดสวิตช์ไฟอย่างสม่ำเสมอด้วยการฉีดแอลกอฮอล์ลงบนผ้าแล้วนำไปเช็ดสวิตช์ไฟให้ทั่วก่อนจะนำผ้าแห้งมาเช็ดซ้ำอีกรอบเท่านี้ก็ช่วยให้สวิตช์ไฟปราศจากเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก |
2. ก๊อกน้ำ | ก๊อกน้ำคือจุดสำคัญที่ทุกคนใช้งานเป็นประจำทุกวันแต่มักมองข้ามความสะอาด
วิธีทำความสะอาดก็ไม่ยากแค่นำผ้ามาชุบน้ำร้อนหรือน้ำสบู่มาเช็ดแล้วล้างออกหรือถ้าอยากเพิ่มความเงางามให้กับก๊อกน้ำก็ให้ขัดด้วยเบกกิ้งโซดาผสมน้ำมะนาวก็ทำให้ก๊อกน้ำกลับมาสะอาดเงางามได้เหมือนกัน |
3. ม่านห้องน้ำ | ม่านในห้องน้ำคือจุดที่มีโอกาสเกิดเชื้อราขึ้นได้ง่ายเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีอากาศอบอ้าวและมีความชื้นสูงซึ่งนอกจากจะไม่น่าใช้งานแล้วเชื้อรายังเป็นพิษต่อร่างกายส่งผลให้มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรังได้
วิธีการทำความสะอาด
– ผ้าม่านที่เป็นผ้าสามารถถอดซักรวมกับผ้าอื่นๆได้เลยตากแดดจัดๆเพื่อกำจัดเชื้อรา
– ผ้าม่านพลาสติกให้ใช้เบกกิ้งโซดาถูบริเวณที่เป็นเชื้อราออกก่อนแล้วนำไปปั่นในเครื่องซักผ้าร่วมกับผ้าขนหนูเก่าๆสักผืนโดยใส่น้ำส้มสายชู1 ถ้วยแทนผงซักฟอกเมื่อซักเสร็จแล้วให้นำมาตากแดดโดยไม่ต้องปั่นแห้งเพื่อให้คราบเชื้อราต่างๆหายไป |
4. ลูกบิดประตู | มือจับหรือลูกบิดประตูก็เป็นอีกจุดที่ถูกสัมผัสอยู่ตลอดเวลาจึงมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคมากที่สุดแห่งหนึ่งในบ้านดังนั้นทำความสะอาดโดยเช็ดด้วยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างน้อยสัปดาห์ละ2-3 ครั้ง |
5. ราวจับบันได | การเช็ดราวจับบันไดให้สะอาดนอกจากจะทำให้บ้านดูสวยงามน่ามองยังช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายด้วย
ทำความสะอาดได้โดยผสมน้ำร้อนและน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกันจากนั้นนำผ้าจุ่มแล้วบิดออกให้ผ้าเปียกหมาดๆนำไปเช็ดราวบันไดแล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกครั้ง |
6. ต้นไม้ในบ้าน | ทั้งต้นไม้จริงและต้นไม้ปลอมต่างเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ
โดยเฉพาะต้นไม้ที่อยู่ในห้องนอนซึ่งเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดสารก่อภูมิแพ้ (allergens) หรือสิ่งกระตุ้นที่อาจเข้าสู่ร่างกายผ่านทางระบบหายใจการรับประทานอาหารการสัมผัสทางผิวหนัง
สำหรับการทำความสะอาดต้นไม้จริงให้ยกไปฉีดน้ำล้างสิ่งสกปรกออกแต่ถ้าหากต้นไม้มีขนาดใหญ่เกินไปก็ให้นำผ้าไมโครไฟเบอร์มาเช็ดทำความสะอาดทีละใบแทนส่วนต้นไม้ปลอมสามารถทำความสะอาดได้ง่ายๆโดยการใช้ไดร์เป่าผมเป่าฝุ่นออกและควรใส่หน้ากากเพื่อกันฝุ่นละอองขณะทำความสะอาดด้วย |
7. ถังขยะ | รู้หรือไม่ว่าการนำขยะออกจากถังไปทิ้งทุกวันยังไม่สะอาดเพียงพอเพราะแบคทีเรียและกลิ่นเหม็นยังตกค้างสะสมอยู่ในถังขยะได้ดังนั้นจึงควรล้างถังขยะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อพร้อมกับขัดสิ่งสกปรกออกเพื่อกำจัดเชื้อโรคและกลิ่นในถังขยะให้หมดไป |
8. มุ้งลวดและมู่ลี่ | มุ้งลวดและมู่ลี่คือแหล่งสะสมฝุ่นชั้นดีเพราะทำความสะอาดยากจึงมีโอกาสที่ฝุ่นและสิ่งสกปรกจะสะสมได้ง่ายโดยวิธีการทำความสะอาดมุ้งลวดสามารถทำได้โดยล้างด้วยน้ำสบู่แล้วใช้แปรงขัดออกก่อนนำไปผึ่งให้แห้งพร้อมใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรางมุ้งลวดให้สะอาดส่วนฝุ่นบนมูลี่สามารถกำจัดได้โดยใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำแล้วเช็ดทีละซี่จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบเผื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำ |
9. เฟอร์นิเจอร์ | เฟอร์นิเจอร์บางชนิดอาจมีสารเคมีประเภทฟอร์มัลดิไฮด์ตกค้างจากการทาสีทากาวและอยู่ในสารเคลือบเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ไม้อัดและไม้แปรรูปอื่นๆซึ่งไอระเหยของสารเคมีนี้ส่งอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยให้เกิดอาการระคายเคืองเช่นแสบตาแสบจมูกแต่ในระยะยาวจะทำให้เกิดผลเสียกับระบบร่างกายต่างๆหรือก่อให้เกิดมะเร็งได้
ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์หรือตรวจสอบเฟอร์นิเจอร์ที่จะนำเข้าบ้านว่ามีคำเตือนถึงการใช้สารฟอร์มัลดีไฮด์และได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือไม่เพื่อสุขภาวะที่ดีในการพักอาศัย
นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์ยังอาจเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและเชื้อโรคได้เช่นกันแต่สามารถทำความสะอาดง่ายๆด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาด |
นอกจากจุดสำคัญๆภายในบ้านที่ต้องดูแลเป็นพิเศษแล้วการเลือกใช้สารเคมีเพื่อมาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ใกล้ตัวต่างๆอย่างเหมาะสมกับพื้นผิวและปลอดภัยกับผู้ใช้เองก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราต้องให้ความสำคัญโดยเฉพาะในช่วงที่เชื้อไวรัสCOVID-19 กำลังแพร่ระบาดโดยขออ้างอิงคำแนะนำที่น่าสนใจจากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดลในประเด็นเกี่ยวกับการเลือกใช้วัสดุผลิตภัณฑ์และสารเคมีสำหรับทำความสะอาดให้เหมาะสมกับสภาพพื้นผิวซึ่งเป็นสิ่งที่เราสัมผัสบ่อยทั้งสิ้นดังนี้
- สิ่งของเครื่องใช้ที่สัมผัสบ่อย
สิ่งของเครื่องใช้ที่สัมผัสบ่อยได้แก่โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเลต
วิธีทำความสะอาดให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น70-90% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง
- พื้นผิวที่สัมผัสบ่อย
พื้นผิวที่สัมผัสบ่อยได้แก่เตียงโต๊ะเก้าอี้ของใช้รอบตัวรวมไปถึงห้องน้ำ
วิธีทำความสะอาดให้ใช้น้ำยาฟอกผ้าขาว (3-6% โซเดียมไฮโปคลอไรท์) ผสมกับน้ำยา1 ส่วนต่อน้ำ49 ส่วนยกตัวอย่างไฮเตอร์1 ฝาขวด (ประมาณ10 ซีซี) ผสมน้ำครึ่งลิตรเช็ดหรือแช่ทิ้งไว้10 นาทีจากนั้นเช็ดออกด้วยน้ำสะอาด*
- พื้นผิวโลหะ
วิธีทำความสะอาดให้เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น70-90% แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง* ห้ามใช้น้ำยาฟอกผ้าขาวเพราะมีฤทธิ์กร่อนโลหะ
- ผ้า
ผ้าในบ้านที่เราใช้กันบ่อยๆได้แก่เสื้อผ้าผ้าปูเตียงหรือผ้าขนหนู
วิธีทำความสะอาดสามารถซักได้ตามปกติ (ใช้ผงซักฟอกธรรมดาและน้ำ) หรือซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ60-90 องศาเซลเซียส
*หากหาแอลกอฮอล์ไม่ได้สามารถใช้เดทตอล-น้ำยาฆ่าเชื้อโรค (รุ่นที่มีมงกุฎตัวยาคลอโรไซลีนอล) ผสมน้ำยา1 ฝาขวดกับน้ำ2 แก้วน้ำดื่มและเช็ดหรือแช่ทิ้งไว้10 นาที
หลังจากได้ลงลึกถึงวิธีการทำความสะอาดซอกมุมในบ้านเพื่อกำจัดเชื้อไวรัสCOVID-19 ไปแล้วเรายังมีคำแนะนำเพื่อรักษาสุขอนามัยของผู้อ่านเองก่อนอื่นคุณทราบหรือไม่ว่าไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายหรือติดต่อผ่านกันทางไหนได้บ้าง?
หลักๆแล้วเชื้อไวรัสCOVID-19 จะแพร่ผ่าน2 ช่องทางคือการสูดลมหายใจเอาละอองน้ำมูกหรือน้ำลายซึ่งเกิดจากผู้ป่วยไอหรือจามใส่เราหรือพูดคุยกับผู้ป่วยใกล้ๆเป็นระยะเวลานานและทางการสัมผัสเกิดจากเราไปหยิบจับของหรือพื้นผิวที่ผู้ป่วยสัมผัสไว้เช่นราวบันไดลูกบิดประตูปุ่มกดลิฟต์หรือสิ่งของอื่นๆแล้วนำมาจับบริเวณใบหน้าตาจมูกหรือปากจึงมีคำแนะนำให้ทุกคนล้างมือบ่อยๆด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย70% หรือฟอกสบู่แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดซึ่งถือเป็นขั้นตอนง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้ตัวเองทุกที่ทุกเวลา
นอกจากจะทำเองเดี๋ยวนี้ยังมีบริการแม่บ้านมืออาชีพที่เรียกใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันมากมายหลากหลายรูปแบบทั้งรายชั่วโมงรายวันประจำรายสัปดาห์หรือหากต้องการBig Cleaning กันจริงๆไม่ว่าจะเพื่อสุขอนามัยของตัวเองหรืออยากจะขายต่อหรือปล่อยเช่าก็ทำได้ง่ายๆแค่โหลดแอปกรอกข้อมูลเลือกแพ็กเกจแล้วนัดวันได้เลย
แน่นอนว่าวิกฤตเชื้อไวรัสCOVID-19 ถือเป็นภัยพิบัติฉุกเฉินระดับโลกที่ส่งผลกระทบในวงกว้างนอกจากคนทั่วไปแล้วนักลงทุนผู้ประกอบการก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันไม่เว้นแม้แต่ภาคอสังหาฯเพราะในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมาส่วนหนึ่งไทยได้กำลังซื้อจากต่างชาติโดยเฉพาะจีนแต่จากการระบาดของไวรัสเลยทำให้ยอดขายสินค้ากับต่างชาติลดลงมีการทิ้งเงินดาวน์หรือขอเลื่อนโอนกรรมสิทธิ์ซึ่งในระยะยาวหากยังมีการระบาดต่อไปลูกค้ากลุ่มนี้ก็อาจหายไปอย่างถาวรรวมถึงกลุ่มผู้ซื้อชาวไทยที่ส่งสัญญาณการชะลอการซื้ออสังหาฯออกไปทั้งจากกำลังซื้อที่หายไปจากการซบเซาของหลายภาคธุรกิจโดยเฉพาะการท่องเที่ยวหรือการปิดชั่วคราวของสถานบริการสถานบันเทิงโรงเรียนกวดวิชาหรือฟิตเนสฯลฯ
แต่ทั้งนี้หลายผู้ประกอบอสังหาฯต่างเริ่มปรับตัวรับวิกฤตดังกล่าวทั้งการขายผ่านทางระบบโทรศัพท์หั่นราคาเพื่อจูงใจผู้ซื้อรวมถึงมอบประกันคุ้มครองCOVID-19 ให้กับผู้ที่มาเยี่ยมชมโครงการซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยหนุนให้ตลาดอสังหาฯยังคงเดินหน้าต่อไปได้
อย่างไรก็ตามดีดีพร็อพเพอร์ตี้ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวทุกหลังคาเรือนผู้ประกอบการทุกรายมีสติและตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและให้ผ่านพ้นเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ด้วยกัน