ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมเป็นต้นมา ที่มีการออกประกาศมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 โดยให้ร้านอาหารเปิดขายเฉพาะนำกลับบ้านเท่านั้น ตัวเลขร้านอาหารที่เปิดหน้าร้านออนไลน์ และเปิดขายเดลิเวอรีบน LINE MAN ผ่าน Wongnai Merchant App (WMA) ทะลุ 15,000 ร้าน (เฉพาะ 22-31 มี.ค.) ซึ่งสูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 3-5 เท่า โดยมีจำนวนร้านที่สมัครใหม่เพิ่มขึ้นมากถึง 2,000 ร้านต่อวัน
“ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ามีร้านอาหารจำนวนมากที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากและเร่งปรับตัวเพื่อประคองธุรกิจให้ผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปให้ได้ โดย Wongnai เองได้ปล่อยฟีเจอร์และแคมเปญใหม่ พร้อมยกเครื่องหน้าโฮมโฉมใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้ Wongnai มีส่วนร่วมในการ #Saveร้านอาหาร และ #สู้ไปด้วยกัน กับพวกเรา” ยอด ชินสุภัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วงใน มีเดีย จำกัด กล่าว
ทั้งนี้ Wongnai ได้ปล่อยฟีเจอร์-แคมเปญ-หน้าโฮมใหม่ ได้แก่ “Pickup (รับที่ร้าน)” ฟีเจอร์ใหม่ที่สามารถกดสั่งอาหารและจ่ายเงินออนไลน์ไว้ล่วงหน้า เพื่อรับอาหารที่ร้าน แล้วไปกินที่บ้านได้ทันที สามารถดูรายชื่อร้านอาหารที่สามารถสั่งล่วงหน้า รับที่ร้านทั่วกรุงเทพฯ ได้ที่ https://www.wongnai.com/collections/self-pick-up-restaurant
หน้าโฮมโฉมใหม่ทั้งบนแอปและเว็บไซต์ Wongnai รวมเนื้อหาที่จำเป็นให้ผู้ใช้ร่วมฝ่าวิกฤติได้แม้อยู่ที่บ้าน อาทิ อ่านเรื่องราวและการปรับตัวจากร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบ, ค้นหารายชื่อร้านอาหารที่น่าลองสั่งเดลิเวอรี และมี Topic “อยู่บ้านทำไรดี?” ที่รวมเนื้อหาและทิปส์สำหรับการอยู่บ้านให้มีความสุข
แคมเปญล่าสุด “Covid Relief Gift Voucher” โดยการซื้อเวาเชอร์เงินสด เพื่อช่วยร้านเพิ่มกระแสเงินสดในช่วงวิกฤติ ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2563 และเก็บไว้ใช้ได้สูงสุดถึง 30 เมษายน 2564 ราคาเริ่มต้น 300 – 5,000 บาท ดูรายชื่อร้านอาหารเกือบ 50 ร้านที่เข้าร่วมได้ที่ https://www.wongnai.com/evouchers?domain=1
นอกจากนี้ Wongnai จะพยายามทำให้ร้านอาหารใหม่ขึ้นระบบเดลิเวอรีได้ภายใน 1 วัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยสามารถเลือกเข้าร่วม GP หรือไม่เข้าร่วมก็ได้ตามความต้องการ และให้ร้านอาหารได้ใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น โปรโมตร้านและสร้างเมนูโปรโมชันบน Wongnai เพื่อดึงดูดลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงฟีเจอร์ใหม่ Pickup ที่ร้านอาหารสามารถใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ระหว่างวันที่ 1 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2563 อีกด้วย