จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จนต้องมีมาตรการ Work from Home และจำกัดการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง ทำให้วงการทีวีดิจิทัลได้รับอานิสงค์ ยอดผู้ชมในช่วงวันทำงานเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายๆ ช่อง ต้องปรับผังรับมือกับวิกฤติครั้งนี้กันอย่างดุเดือด ในขณะที่ช่อง 8 ตั้งรับ สร้างกลยุทธ์ใหม่และปรับตัวได้เร็ว จึงมีการจัดทัพผู้ประกาศข่าวเสริมความแข็งแกร่งและเกาะติดสถานการณ์ข่าวประเด็นร้อนในทุกช่วงเวลา ยกเลิกการจัดแข่งขันมวยไทยก่อนที่จะเกิดการระบาดหนักเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ทั้งยังตัดสินใจซื้อลิขสิทธ์ซีรีส์อินเดียเรื่องดังมาเอาใจฐานแฟนคลับช่อง 8 ในช่วงที่ทุกคนต้องทำงานหรือทำกิจกรรมอยู่ที่บ้านเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังเดินหน้ากลยุทธ์เก้าอี้สี่ขา กระจายความเสี่ยง จนส่งผลให้ช่อง 8 ยังคงเติบโตทั้งในด้านเรตติ้งและรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2563
นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เผยว่า “การระบาดของไวรัสโควิด-19 กระทบภาครัฐ ธุรกิจ เศรษฐกิจ สังคม จนไปถึงการ disruption พฤติกรรมของผู้บริโภค ซึ่งเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ต้องผ่านพ้นไปให้ได้ แต่ในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ โดยเฉพาะในส่วนของช่อง 8 เรือธงและหัวหอกของธุรกิจสื่อที่ทำรายได้เติบโตดีมาโดยตลอด แม้จะต้องเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด แต่ด้วยวิสัยทัศน์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจบันเทิงที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน ทำให้เราสามารถตั้งรับและวางแผนแก้แกมในช่วงวิกฤติได้อย่างรวดเร็ว โดยช่อง 8 เป็นช่องแรกที่งดการจัดรายการถ่ายทอดสดมวย งดกิจกรรม Concert ช่อง 8 Festival เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส นอกจากนี้ ประชาชนต้องทำงานที่บ้าน ดูโทรทัศน์เพื่อติดตามข่าวสารมากขึ้น ทำให้มีผู้ชมรายการในช่วงเวลา 08.00-19.00 น. เพิ่มมากขึ้น 10-15% ในไตรมาสแรก”
ทั้งนี้ นายสุรชัย ยังอธิบายเพิ่มเติมถึงกลยุทธ์เก้าอี้สี่ขาว่าเป็นกลยุทธ์บริหารความเสี่ยง ที่สร้างรายได้แบบค้ำยันซึ่งกันและกัน ด้วยการวางเป้าหมายสร้างรายได้ช่อง 8 ให้แข็งแรงจากศักยภาพภายในอย่างแท้จริง ไม่พึ่งพารายได้ช่องทางใดมากเกินไป เพื่อสร้างการเติบโตตามที่ตั้งไว้ โดยใช้วิธีคิดและมองรายได้จาก 4 ช่องทาง ตามสัดส่วนดังนี้
- ช่องทางการขายมีเดียและสปอนเซอร์ สัดส่วน 50% คือ มีการทำงานเชิงรุก มองลูกค้าเป็นพันธมิตรหลัก ช่วยเหลือและต่อยอดไอเดียการโฆษณาให้ลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายที่มีโจทย์แตกต่างกัน
- ช่องทางการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เป็นการสร้างรายได้จากช่องทางออนไลน์ และพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ 25%
- ช่องทางรายการขายสินค้าของRS Mall ผ่านรายการต่างๆ ของช่อง ในสัดส่วน 20%
- ช่องทางการจัดกิจกรรมอีเวนท์5%
ด้าน นางสาวนงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กล่าวว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบัน เรามีการวางแผนเกี่ยวกับคนทำงาน โดยเน้นไปที่สวัสดิภาพของพนักงานเป็นหลักตามนโยบายของกลุ่มบริษัทอาร์เอส มีการจัดแบ่งกลุ่มคนมาทำงาน และ Work from Home สำหรับพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับระบบออกอากาศ ในส่วนของธุรกิจ เราวางแผนรองรับแบบแผน A และ B คือการมองสถานการณ์แบบเป็นจริง และแบบที่สาหัสกว่าความเป็นจริงที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือแบบรอบด้าน ดังนั้น จะเห็นว่าจากกลยุทธ์ต่างๆ จึงทำให้ช่อง 8 ยังคงเติบโตแม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก”
ช่อง 8 มีการปรับผังรับมือโควิด-19 ดังนี้
- ปรับทัพผู้ประกาศข่าวเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มรายการข่าวประเภทคอลัมน์เข้ามา เช่น ทันคนทันข่าว, รู้ฟ้าทันฝน เป็นต้น
- ปรับผังรายการข่าวใหม่ ด้วยสัดส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ถึง65% ในรูปแบบการให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงในรายการข่าวแต่ละช่วง และมีการถาม-ตอบ ในช่วงข่าว เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ชม และช่วยไขความกระจ่างตามหน้าที่และจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี เพื่อให้ผู้ชมได้รับข่าวสารที่ถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ในแต่ละวัน
- สกู๊ปข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสหลังละครในช่วงเวลาไพร์มไทม์ ซึ่งช่อง8 ได้ผลิตสกู๊ปเพื่อให้เกร็ดความรู้แก่ประชาชนตั้งแต่เดือนมีนาคมก่อนที่จะเกิดการระบาดอย่างหนักในเวลาต่อมา
- เสริมความบันเทิงด้วยซีรีส์อินเดียเรื่องใหม่ “นาคิน แค้นรักนางอรพิษ” ซีรีส์แนวดราม่าแฟนตาซีแห่งปี กับเรื่องราวความรักครั้งใหม่ ที่แรงอาฆาตจะนำพาให้พบรักแท้ การันตีคุณภาพด้วยรางวัลชนะเลิศจากเวทีชั้นนำของอินเดีย ที่สร้างปรากฎการณ์ครองใจแฟนซีรีส์ในอินเดียมาแล้ว จนขึ้นเรทติ้งอันดับหนึ่งทุกตอน ทุ่มทุนสร้างมหาศาล ด้วยซีจีสุดตระการตา นำเสนอทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา18.00-19.00 น. เริ่มออกอากาศตอนแรกเมื่อวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดของการกลับมาของซีรีส์อินเดีย ที่เคยสร้างเรทติ้งถล่มทลาย อาทิ ลิขิตแค้นแสนรัก, แผนรักลวงใจ, พิฆเนศ ศึกมหาเทพไอยรา, สีดารามฯ เป็นต้น
- สำหรับละครไทยนั้น กองละครมีการหยุดการถ่ายทำชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย จึงนำละครฮิตที่มีเรทติ้งสูงสุดของช่อง เรื่อง “มณีนาคา” และ “สางนางพราย” กลับมาสร้างความสนุกอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม การระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ทางกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ปรับลดค่าธรรมเนียม USO หรืออัตราการนำส่งเงินรายปีเข้ากองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งจะช่วยทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจปรับตัวลดลงอีกด้วย