บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและอาหารเสริมชั้นนำ เผยบริษัทฯ ตั้งหลักเตรียมแผนรับมือไวรัสโควิด-19 ล่วงหน้าตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่น ขานรับมาตรการรัฐป้องกัน โควิด-19 แบ่งทีม Work From Home และสลับทีมทำงานที่ออฟฟิศ ให้ทำงานได้เต็มศักยภาพและปลอดภัย ตั้งเป้าดูแลพนักงานกว่า 170 ชีวิต ให้ก้าวผ่านวิกฤติไปพร้อมกัน เผยบูทจำหน่ายสินค้ากว่า 40 สาขา ในห้างสรรพสินค้ารวม 40 แห่ง ขณะนี้ปิดตามคำสั่งประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แก้เกมเดินหน้าลุยทำตลาดออนไลน์ เทเลเซลล์ พร้อมเดินเกมขยายตลาด เพิ่ม “อมาโด้ ไฮ-ทัช แอลกอฮอล์ สเปรย์และเจล” ในไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงผิว เปิดช่องทางการจำหน่ายใหม่ผ่านเซเว่น อีเลฟเว่น ด้วยผลิตภัณฑ์ คอลลิจิ คอลลาเจน ซาเช่ แบบซอง ที่มีใบเฟิร์น พิมพ์ชนก มาเป็นพรีเซนเตอร์ ในขนาดพิเศษหวังบุกตลาดแมส ดันเป้าหมายทะลุ 1,200 ล้านบาท เผยเทรนด์คนไทยใส่ใจสุขภาพมากขึ้นในช่วงโควิด-19 ระบาด ส่งผลยอดขายรวมโต โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด ชี้ยอดขายผ่านเทเลเซลล์มาแรงคิดเป็น 33% ของยอดขายทั้งหมด
นายธนา ลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่าย(ปลีก)ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและอาหารเสริมชั้นนำ จำกัด เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 ทางบริษัทฯ เพิ่มความรัดกุมในการขนส่งสินค้า ฆ่าเชื้อคลังสินค้าแม้จะยังไม่มีบุคคลกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ รวมถึงการดูแลความสะอาดของพนักงานที่มีหน้าที่แพ็กสินค้า และบริหารงานในส่วนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งได้ขานรับมาตรการรัฐด้วยการแบ่งทีม Work From Home สลับกับทีมทำงานในออฟฟิศ เพื่อให้สามารถทำงานได้เต็มศักยภาพและปลอดภัย โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายดูแลพนักงานจำนวนกว่า 170 คน ให้ก้าวผ่านวิกฤติไปด้วยกัน
จากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ขณะนี้ บูทจำหน่ายสินค้าของอมาโด้กว่า 40 แห่งในห้างสรรพสินค้าต้องปิดตามคำสั่งประกาศใช้ พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 อย่างไรก็ดี อมาโด้ได้มีการเตรียมแผนรับมือวิกฤติดังกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่ทราบข่าวการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยได้ประเมินสถานการณ์ควบคู่ไปกับการปรับกลยุทธ์การตลาดให้เข้ากับสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า ด้วยการเตรียมเน้นการขายออนไลน์มากขึ้น พร้อมเน้นการขายสินค้าผ่านเทเลเซลล์ (Telesales) โดยสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสินค้าของบริษัทฯ โดยการนำสินค้าพร้อมโปรโมชันเข้าร่วมโปรโมทในรายการโทรทัศน์หลากหลายรายการในช่วงเวลา 6 เดือนที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งการเปิดตัวสินค้าใหม่ “อมาโด้ ไฮ-ทัช แอลกอฮอล์ สเปรย์ และอมาโด้ ไฮ-ทัช แอลกอฮอล์เจล” ในไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงผิว ในราคาที่สมเหตุสมผล ให้เป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคในยุคที่สินค้ากลุ่มดังกล่าวมีราคาสูงเกินความเป็นจริงและของขาดแคลนในตลาด นายธนากล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายตลาดลงสู่ตลาดมวลชน (Mass Market) มากขึ้น ด้วยการเปิดช่องทางการจำหน่ายใหม่ผ่านเซเว่น อีเลฟเว่น กว่า 7,000 สาขาทั่วประเทศ ด้วยบรรจุภัณฑ์ซองคอลลิจิ คอลลาเจน ซาเช่ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขนาดพิเศษที่ตอบความต้องการกลุ่มลูกค้าของเซเว่น อีเลฟเว่นโดยเฉพาะ ทั้งนี้ จะเริ่มกระจายและวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
“ในปี 2563 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ 1,200 ล้านบาท จากการปรับเปลี่ยนแผนการดำเนินงานเพื่อรับมือและลดผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลประกอบการภาพรวมในเดือนมกราคม-มีนาคม ที่ผ่านมาของอมาโด้ มีรายได้ 300 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 200% ของช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา อีกทั้งยอดขายผ่านเทเลเซลล์ หรือการขายสินค้าผ่านรายการโทรทัศน์ที่ลูกค้าจะโทรเข้ามาเพื่อสั่งซื้อสินค้า มาแรงคิดเป็น 33% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งเป็นเพราะปัจจุบันผู้บริโภคเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผู้คนเริ่มตระหนักและให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพของตัวเองให้สมบูรณ์แข็งแรง ดูดีอยู่เสมอ รวมทั้งมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่าง ๆ” นายธนากล่าวทิ้งท้าย