ธุรกิจอสังหาฯ หลายค่ายจัดโปรโมชันลักษณะใกล้เคียงกันในช่วงนี้ โดยเป็นโปรฯ ที่บริษัทจะออกค่าผ่อนชำระสินเชื่อบ้านให้นาน 24-36 เดือน พร้อมโปรฯ เสริมอื่นๆ อีกเพียบ เพื่อดึงคนที่ไม่มั่นใจอนาคตเศรษฐกิจให้ตัดสินใจซื้อตอนนี้ ด้าน “เน็กซัส” ชี้ ช่วงไตรมาส 1/63 ตลาดอสังหาฯ มีการลดราคาลงเฉลี่ย 13% โดยพื้นที่ “ใจกลางเมือง” โลเคชันคอนโดฯ สุดหรูเป็นกลุ่มที่ลดแรงที่สุด
Positioning สำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงนี้ พบว่าหลายบริษัทมีการจัดโปรโมชันในรูปแบบ “ผ่อนให้” หรือ “อยู่ฟรี” เป็นจุดดึงดูดลูกค้า โดยส่วนใหญ่จัดโปรฯ ผ่อนให้ถึง 24-36 เดือน นั่นหมายความว่า ลูกค้าจะไม่ต้องชำระค่างวดสินเชื่อบ้านนาน 2-3 ปี
นับว่าเป็นการจัดโปรโมชันที่ค่อนข้างแรงเทียบกับในอดีต โปรฯ อยู่ฟรีหรือผ่อนให้แบบนี้มักจะเปิดมาที่ 6-12 เดือน การให้โปรฯ อยู่ฟรี 24-36 เดือนเทียบได้กับการได้ส่วนลด 10-20% เลยทีเดียว ยังไม่รวมโปรฯ เสริมอื่นๆ ที่บางรายระบุ อย่าง “ฟรีค่าส่วนกลาง” หรือส่วนลดจากราคาเต็ม ของแถม ฯลฯ สะท้อนให้เห็นสภาวะตลาดที่ต้องสู้ยิบตาของธุรกิจอสังหาฯ
ส่วนการจัดโปรฯ ที่เน้นเรื่องการผ่อนชำระสินเชื่อบ้าน เป็นเพราะต้องการยิงตรงไปที่ความต้องการของลูกค้า โดย “อุทัย อุทัยแสงสุข” ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ให้ความเห็นว่า แคมเปญแบบนี้จะตอบรับความกังวลของลูกค้าโดยตรง ทำให้ลูกค้าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องสภาพเศรษฐกิจ เพราะโครงการออกให้นาน 2 ปี ในกรณีของแสนสิริ หลังจากเริ่มจัดโปรฯ “แสนสิริผ่อนให้ 24 เดือน” ตั้งแต่เดือนเมษายน พบว่าลูกค้าตอบรับดี บริษัททำยอดขายได้ 6,300 ล้านบาทภายในเดือนเดียว
ข้อมูลนี้ยังสอดคล้องกับบทวิจัยจากวันเดอร์แมน ธอมสัน โดย “ภูวดล ธาราศิลป์” ผู้อำนวยการฝ่ายดิจิทัลและ CRM ของ วันดอร์แมน ธอมสัน ระบุว่า สินค้าลงทุนสูงและต้องใช้เวลาตัดสินใจอย่างอสังหาฯ หรือยานยนต์ ช่วงนี้อาจจะขายยาก แต่การจัดโปรฯ ที่ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ซื้ออย่างการช่วยผ่อนชำระในช่วงแรก จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สถานการณ์คอนโดฯ ลดแรงกว่า
เมื่อชำแหละโปรโมชันของบางบริษัทจะพบว่าโปรฯ ของคอนโดฯ ลดกระหน่ำมากกว่ากลุ่มโครงการแนวราบ ยกตัวอย่างเช่น ค่าย “พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” เข็นคอนโดฯ 9 แห่งเปิดโปรฯ อยู่ฟรีสูงสุด 30 เดือน แต่กลุ่มโครงการแนวราบให้เป็นโปรฯ ผ่อนปีแรก 1,000 บาทต่อเดือน ปีที่สอง 2,000 บาทต่อเดือน
หรือค่าย “ออริจิ้น” ที่จัดโปรฯ กลุ่มคอนโดฯ ระดับกลางล่างถึงระดับกลาง เช่นแบรนด์นอตติ้ง ฮิลล์, ไนท์บริดจ์, เคนซิงตัน อยู่ฟรีสูงสุด 3 ปี ส่วนคอนโดฯ ระดับไฮเอนด์ ได้แก่ ไนท์บริดจ์ ไพรม์ สาทร และ พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ ได้สิทธิ์อยู่ฟรีสูงสุด 2 ปีพ่วงฟรีค่าส่วนกลางสูงสุด 3 ปี แต่กลุ่มโครงการแนวราบของบริษัทจะจัดโปรฯ อยู่ฟรีสูงสุด 2 ปีเท่านั้น
สาเหตุเป็นเพราะธรรมชาติของตลาดคอนโดฯ ผู้ซื้อไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยเอง แต่มีนักลงทุนทั้งเก็งกำไรและปล่อยเช่าด้วย ที่ผ่านมานักวิเคราะห์และอสังหาฯ หลายบริษัทประเมินไว้แล้วว่าตลาดคอนโดฯ ปี 2563 จะซบเซาต่อเนื่องจากปีก่อนเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ การจำกัด LTV สินเชื่อบ้าน และกฎหมายภาษีที่ดินล้วนไม่เอื้อต่อกลุ่มนักลงทุน ทำให้หลายเจ้าปรับกลยุทธ์เน้นหนักที่โครงการแนวราบแทนในปีนี้ และนำสต็อกคอนโดฯ มาระบายแทนการเปิดโครงการใหม่
ยิ่งเผชิญสถานการณ์ COVID-19 ระบาด ยิ่งกระทบเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อตลาดคอนโดฯ ตอกย้ำให้ต้องอัดโปรฯ แรงให้กับตลาดนี้
“เน็กซัส” ประเมินคอนโดฯ ลดเฉลี่ย 13% พื้นที่หรูลดหนักสุด
ก่อนหน้านี้ “นลินรัตน์ เจริญสุพงษ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยข้อมูลวิจัยตลาดคอนโดฯ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ช่วงไตรมาส 1/63 พบว่าผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ผู้ประกอบการลดการเปิดโครงการใหม่ลง 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
อีกทั้งมีการจัดโปรโมชันหลากหลายโดยคิดเป็น ส่วนลดเฉลี่ย 13% ทั้งตลาด และพบว่าบางเจ้ามีการลดราคาสูงสุด 30-40%
หากแบ่งตามโลเคชันคอนโดฯ พบว่า พื้นที่ที่มีการลดราคาสูงสุดคือพื้นที่ “ใจกลางเมือง” เช่น สาทร หลังสวน ปทุมวัน สุขุมวิท-เอกมัย ลดเฉลี่ย 18% สังเกตว่าพื้นที่โซนนี้คือพื้นที่คอนโดฯ ระดับลักชัวรีที่ปกติจะไม่มีการจัดโปรโมชันมากนัก
ส่วนโลเคชันที่ลดน้อยที่สุดคือโซนลาดพร้าว-รามอินทรา-สะพานใหม่ ลดเฉลี่ย 4% เน็กซัสวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะพื้นที่นี้เป็นโซนใหม่ของคอนโดฯ ทำให้ราคาตั้งต้นไม่สูงอยู่แล้ว โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 81,000 บาทต่อตร.ม.เท่านั้น
ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสทองของคนที่พร้อมช้อนซื้อคอนโดฯ และบ้านในราคาโปรโมชัน จากสถานการณ์ COVID-19 ส่งให้อสังหาฯ เป็นตลาดของผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น!
