ภาพรวมการแข่งขันทางการค้าในโลกของธุรกิจไอทีภายหลังสถานการณ์วิกฤต COVID-19 ผ่านไปหลายองค์กรต้องประเมินความพร้อมด้านธุรกิจและด้านนโยบายต่างๆ ทั้งเงื่อนไขขีดความสามารถในการแข่งขัน การรองรับตลาดในยุคดิจิทัล กฎระเบียบด้านดิจิทัลของประเทศ กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความเป็นส่วนตัวรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของผู้บริโภคหลังจากนี้ เพื่อการขับเคลื่อนองค์กรสู่ New Normal และDigital Age เต็มตัว สำหรับ SVOA พร้อมประกาศโครงสร้างคณะผู้บริหารใหม่ ประกอบด้วย
- นางสาวกุลภา อิงค์ธเนศ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ
บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)
- นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางการจำหน่าย
บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)
- นายกฤชกุลทรัพย์ไพศาล ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจโครงการไอที
บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)
- นายอดิศร แก้วบูชา ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)
- นางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ
บริษัท ดิจิเทค วัน จำกัด
- ดร.วิวสัน เตียว ยอง เพ็ง ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการเงินและบัญชี
บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)
นางสาวกุลภา อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าสถานการณ์วิกฤตCOVID-19 เริ่มผ่านพ้นช่วงเวลาที่หนักไปแล้ว แต่แน่นอนว่าภาครัฐและภาคเอกชนยังต้องเฝ้ารอจังหวะที่เหมาะสมในการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก จะเห็นว่าช่วงแรกของวิกฤตหน่วยงานภาครัฐและองค์กรธุรกิจมีการปรับตัวโดยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วย ไม่ว่าจะเป็นในด้านการประชุมในรูปแบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ การเว้นระยะห่างทางสังคมโดยทำงานที่บ้าน (Work From Home) เพื่อให้ธุรกิจและวิถีชีวิตยังสามารถดำเนินต่อไปได้ สำหรับการปรับตัวดังกล่าวขององค์กรและพฤติกรรมของผู้บริโภคยังก่อให้เกิดตลาดใหม่ หรือ Next New Normal ซึ่งหลังสิ้นสุดวิกฤตCOVID-19 ไปแล้วเชื่อว่าตลาดใหม่ที่เกิดขึ้นจะเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพเชิงการแข่งขันขององค์กรต่อไป
สำหรับ SVOA เป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ครบวงจร มีเครือข่ายในการให้บริการที่ครอบคลุมทุกบริการด้านไอที ดำเนินธุรกิจอย่างแข็งแกร่งมาอย่างยาวนาน โดยมีจุดเด่นคือพันธมิตรธุรกิจและคู่ค้ามีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ภายใต้การนำของคณะผู้บริหารใหม่ ที่จะร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายแผนการดำเนินงานเชิงรุกและกลยุทธ์ธุรกิจ จะสามารถขับเคลื่อนองค์กรสู่ Next New Normal และก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) อย่างเต็มรูปแบบ
โดย บริษัทและทีมคณะผู้บริหารพร้อมนำเทคโนโลยีเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนองค์กรธุรกิจต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ ที่มีศักยภาพ และจากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของ SVOA อันยาวนานเกือบ 40 ปี จะส่งเสริมให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง โดยปัจจุบันมีหลายธุรกิจที่มุ่งเน้น ประกอบด้วย สินค้าและบริการไอทีครบวงจรจากแบรนด์ชั้นนำสินค้าเกมมิ่งที่ครอบคลุมทั้ง โน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อป อุปกรณ์คอมโพเนนท์ ไปจนถึงเก้าอี้เกมมิ่ง เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการเครื่องเล่นที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นอีกตลาดที่ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องนอกจากนี้ยังมีโรโบติกส์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สำหรับการศึกษา อุตสาหกรรมและการบริการ รวมทั้งโซลูชั่นสำหรับภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและรูปแบบการใช้ชีวิตที่หลากหลายของผู้บริโภค
ด้านนายอนันต์พล นนทพันธุ์ ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจช่องทางการจำหน่าย บริษัท เอสวี
โอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า บริษัทมุ่งเดินหน้าเน้นการพัฒนาธุรกิจอยู่บนแพลตฟอร์ม ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ก้าวสู่นวัตกรรมใหม่ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีดิจิทัลสานต่อเรื่องของปัญญาประดิษฐ์สู่อนาคต “Step of Evolution” ตอบสนองการบริการและเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตร ผ่านตัวแทนร้านค้าปลีก ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดให้ครอบคลุมทุกพื้นที่โดยเน้นตลาดโมเดิร์นเทรดเป็นหลัก
บริษัทได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการเรียนการสอนหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ สนับสนุนให้เด็กไทยต้องได้เรียนโค้ดดิ้ง พร้อมทั้งพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับครูและนักเรียนเพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการเรียนรู้หุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ให้เป็นรูปธรรมเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจในอนาคต
สำหรับธุรกิจช่องทางจัดจำหน่าย (IT Distribution) บริษัทได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของอุปกรณ์ชิ้นส่วนประกอบ การจำหน่ายหุ่นยนต์สำหรับภาคการศึกษา หุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ในทุกช่องทางการกระจายสินค้า และธุรกิจการขายส่งให้ทั่วทุกภูมิภาค พร้อมกับการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีแบรนด์ชั้นนำ และบริการหลังการขายที่ครบวงจร รวมถึงการวางกลยุทธ์แบบผสมผสานสร้างความสัมพันธ์ระหว่างร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเพื่อเป็นการสร้างการซื้อซ้ำและต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นยอดขาย
ด้านนายกฤช กุลทรัพย์ไพศาล ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจโครงการไอทีบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจ SVOA มีจุดแข็งค่อนข้างมากในการนำเสนอโครงการไอทีแบบเบ็ดเสร็จครบวงจรให้กับหน่วยงานราชการ และปัจจุบันหน่วยงานราชการในหลายๆ กระทรวงล้วนมีความต้องการในการวางระบบคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อการให้บริการที่ดีและทั่วถึง โดยบริษัทพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานราชการในทุกระบบและทั้งโซลูชั่นตามการใช้งาน ทั้งนี้เพื่อให้หน่วยงานรัฐได้บรรลุเป้าหมายการให้บริการประชาชน และขับเคลื่อนไปตามนโยบายThailand4.0 ของรัฐบาล
ด้านนายอดิศร แก้วบูชา ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นอกจากกลุ่มธุรกิจราชการแล้ว ในภาคธุรกิจธนาคารและประกันภัย ทางบริษัทให้ความสำคัญเช่นกัน โดยจะนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อมุ่งตอบสนองต่อธุรกิจธนาคารของการให้บริการสมัยใหม่ และธนาคารจำเป็นต้องใช้ข้อมูลยุคใหม่ที่กำกับโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ธนาคารต่างๆต้องมีเครื่องมือเทคโนโลยีในการทำงานและให้บริการทางธุรกรรม ทั้งการโอนเงินระหว่างธนาคารในประเทศ และการโอนเงินระหว่างธนาคารในภูมิภาค ซึ่งบริษัทจะเข้าไปตอบโจทย์ตรงนี้ เช่นเดียวกันกับธุรกิจประกันภัย ล้วนต้องปรับตัวเรื่องการให้บริการกับลูกค้าจากสาขาประกันภัยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องมีเครื่องมือเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยเช่นกัน
ด้านนางสาวพิรดา อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการบริษัทดิจิเทควัน จำกัด เปิดเผยว่าธุรกิจของบริษัทจะเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมโยงธุรกิจต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเข้าถึงการบริการรูปแบบใหม่โดยไม่ต้องขอข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแต่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลของตนผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือซึ่งบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการลงทะเบียนพิสูจน์ยืนยันตัวตนออนไลน์ (e-KYC) โดยมีการใช้เทคโนโลยีBiometric ในการตรวจสอบใบหน้าเพื่อให้การทำธุรกรรมออนไลน์ปลอดภัยมากขึ้นหรือการใช้ดิจิทัลไอดีผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือเช่นบริษัทNDID โดยมีการบริการตั้งบล็อกเชนโหนดให้แก่องค์กรธุรกิจต่างๆเพื่อเชื่อมเข้าสู่เครือข่ายยืนยันตัวตนข้ามองค์กร (cross verification)ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรมสะดวกมากขึ้นเช่นการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์หรือการเปิดบัญชีการลงทุนทางออนไลน์ รวมถึงการยินยอมเปิดเผยข้อมูลเครดิตในการขอสินเชื่อออนไลน์
นอกจากนี้เพื่อลดปริมาณการใช้กระดาษและการนำส่งเอกสารสำคัญองค์กรสามารถทำสัญญาหรือลงนามเอกสารสำคัญต่างๆผ่านระบบ Document Signing ซึ่งก็คือแอพพลิเคชั่นออนไลน์โดยสามารถสร้างเทมเพลตPDF และระบุตำแหน่งลายเซ็นและ Workflow ของผู้ที่ต้องลงนามตามลำดับชั้นส่งไปยังผู้ลงนามผ่านช่องทางออนไลน์และลงนามด้วยDigital Certificate โดยเทคโนโลยีPublic Key Infrastructure นี้ได้รับมาตรฐานสากลผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าเอกสารนั้นได้มีการลงนามอย่างถูกต้องและมีผลตามกฎหมายเช่นพ.ร.บ.ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย
รวมทั้งระบบการกู้ยืมดิจิทัลที่ช่วยให้ธนาคารและ Fintech เข้าถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้าของธนาคารให้เข้าถึงบริการทางการเงินได้สะดวกผ่านช่องทางออนไลน์สอดคล้องกับแนวโน้มการลดสาขาของธนาคารในปัจจุบันและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปให้สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา
ด้าน ดร.วิวสัน เตียว ยอง เพ็ง ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการเงินและบัญชี บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทมีเครดิตและความแข็งแกร่งทางการเงิน มีเสถียรภาพโดยไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากวิกฤต COVID-19 รวมทั้งบริษัทมีธนาคารมากกว่า 10 แห่ง ทั้งในและต่างประเทศให้การสนับสนุนทางการเงิน ทั้งนี้เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคที่เกิดจากวิกฤต และความท้าทายของธุรกิจในอนาคต ฝ่ายการเงินและบัญชีเป็นแหล่งข้อมูลเชิงกลยุทธ์แก่หน่วยธุรกิจต่างๆ เช่น การให้ข้อมูลการวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงการจัดการเงินทุนหมุนเวียนและประเมินศักยภาพทางการเงินของงานโครงการต่างๆ เน้นการใช้เงินทุนให้เกิดประโยชน์สูงสุดและบริหารจัดการอัตราส่วนหนี้สินต่อสัดส่วนของผู้ถือหุ้นเพื่อเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีเอื้อต่อความแข็งแกร่งและการเติบโตของกลุ่มSVOA
“โครงสร้างผู้บริหารใหม่ดังกล่าวเป็นการผสมผสานระหว่างผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนานกับนักบริหารรุ่นใหม่โดยจะทำงานประสานรวมกันอย่างมืออาชีพ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของ SVOA เติมโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป” นางสาวกุลภากล่าวทิ้งท้าย