ทรัสต์ ‘เอไอเอ็ม คอมเมอร์เชียล โกรท’ หรือ ‘AIMCG’ โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2563 ตามเป้า พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลที่ 0.20 บาทต่อหน่วย ตอกย้ำความมั่นใจด้วยคุณภาพทรัพย์สินแข็งแกร่ง ชูจุดแข็งโครงการตอบโจทย์ New Normal
นางสาวญาณิชศา ชาติวุฒิกอบกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ เอไอเอ็มกรุ๊ป ผู้จัดการกองทรัสต์ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม คอมเมอร์เชียล โกรท หรือ ‘AIMCG’ เปิดเผยว่า “ภายหลังจากการเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมสำเร็จในเดือนพฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของทรัสต์ ‘AIMCG’ ในไตรมาสแรกของปี 2563 เติบโตจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากมีการรับรู้รายได้ของทรัพย์สินทั้ง 4 โครงการเต็มไตรมาส โดยไตรมาส 1/2563 ทรัสต์ ‘AIMCG’ มีรายได้รวมเท่ากับ 98.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเท่ากับ 57.5ล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์ สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ในอัตรา 0.20 บาทต่อหน่วย หรือประมาณ 0.80บาทต่อหน่วยต่อปี โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 มิถุนายน 2563นี้”
นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ็มกรุ๊ป กล่าวว่า “ผลประกอบการไตรมาส 1/2563 ของทรัสต์ ‘AIMCG’ ยังเป็นไปตามเป้า ทำให้สามารถจ่ายปันผลได้ตามคาดการณ์สำหรับสถานการณ์ COVID-19 บริษัทฯ และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของแต่ละโครงการได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และได้ให้ความร่วมมือและร่วมรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และแนวทางที่ภาครัฐประกาศและกำหนดอย่างเคร่งครัด ในขณะเดียวกันก็ได้มีการติดต่อประสานงานกับผู้เช่าและใช้ความพยายามอย่างเต็มความสามารถในการบริหารจัดการพื้นที่เช่าภายในโครงการมาโดยตลอด ซึ่งรวมถึงการอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดสรรพื้นที่และจัดระเบียบตามมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยรวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในโครงการ”
นายจรัสฤทธิ์ อรรถเวทยวรวุฒิ กรรมการผู้จัดการ เอไอเอ็มกรุ๊ป เปิดเผยว่า “ณ วันนี้สถานการณ์COVID-19 ในประเทศไทยเริ่มคลี่คลายแล้ว โครงการภายใต้การบริหารจัดการของทรัสต์ ‘AIMCG’ สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ตามปกติบริษัทฯ คาดว่าจากนี้ไปลูกค้าจะเริ่มกลับมาใช้บริการในโครงการเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากจุดเด่นของโครงการที่มีลักษณะเป็นพื้นที่เปิดกว้าง (Open-Air) ขนาดใหญ่อากาศถ่ายเท สามารถตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่มีแนวโน้มพฤติกรรมภายหลังสถานการณ์ COVID-19 ที่เปลี่ยนไปหรือ New Normal ที่คำนึงถึงอนามัยในสถานที่สาธารณะและการเว้นระยะห่างทางสังคมมากขึ้น นอกจากนี้ทุกโครงการยังมีมาตรการเชิงรุกในการป้องกัน COVID-19 ด้วยการยกระดับและคุมเข้มมาตรการคัดกรองและจัดการความสะอาดในทุกจุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทุกคนที่มาใช้บริการ”
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.aimcgreit.com