เกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 รายวันเพิ่มสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือนวันนี้ ขณะที่ทางการยังคงเร่งติดตามยับยั้งการแพร่เชื้อแบบกลุ่มก้อน ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าเชื้ออาจจะกลับมาระบาดใหญ่ระลอกสองในแดนกิมจิ
เกาหลีใต้ได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบที่สามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสได้ดี ซึ่งช่วยให้ภาครัฐสามารถผ่อนคลายข้อจำกัดต่างๆ ลงได้บ้าง ทว่าล่าสุดเกาหลีใต้เริ่มเผชิญปัญหาจากการพบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนหลังจากที่ประชาชนเริ่มกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคแห่งเกาหลีใต้ (KCDC) ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อใหม่ 79 รายในวันนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนในเขตกรุงโซล ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมขยับขึ้นไปอยู่ที่ 11,344 ราย
ตัวเลข 79 รายนี้นับว่าสูงที่สุดถัดจากสถิติผู้ติดเชื้อรายวัน 81 รายเมื่อวันที่ 5 เม.ย.
KCDC ระบุด้วยว่า เวลานี้ยอดผู้ติดเชื้อจากโกดังสินค้าของบริษัทอี-คอมเมิร์ซ คูปัง (Coupang) ในเมืองบูชอนทางตะวันตกของกรุงโซลเพิ่มขึ้นเป็น 69 รายแล้ว
คิม กังลิป รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ ระบุว่า มีพนักงานและผู้ที่เดินทางไปยังโกดังสินค้าถูกสั่งกักกันโรครวมทั้งสิ้น 4,100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดกรองเชื้อ COVID-19 ไปแล้วกว่า 80%
“เราคาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จากโกดังสินค้าของ คูปัง คงจะเพิ่มขึ้นไม่เกินวันนี้ เนื่องจากการตรวจคัดกรองจะเสร็จสิ้นลงแล้ว” คิม กล่าว
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม และอนุญาตให้สถานที่สาธารณะ เช่น พิพิธภัณฑ์และโบสถ์เปิดทำการได้ ขณะที่การแข่งขันกีฬาอาชีพ เช่น เบสบอลและฟุตบอล ก็เริ่มต้นเปิดฤดูกาลใหม่ในเดือนนี้ ทว่ายังคงต้องจัดการแข่งขันในสถานที่ปิด
เด็กๆ ในเกาหลีใต้เริ่มเดินทางไปโรงเรียนได้อีกครั้งตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ทว่าบางโรงเรียนก็ถูกสั่งปิดเกือบจะทันทีหลังมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ในชุมชน
เกาหลีใต้เคยเป็นชาติที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รุนแรงที่สุดรองจากจีนแผ่นดินใหญ่ และแม้ว่ารัฐบาลจะไม่ใช้วิธีล็อกดาวน์ปิดเมือง แต่ก็มีการรณรงค์ให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวดตั้งแต่เดือน มี.ค. และยังมีมาตรการ “ติดตาม ตรวจหาเชื้อ และรักษา” อย่างกว้างขวางและเป็นระบบซึ่งทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในที่สุด
