5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก…. “TIME FOR NATURE ถึงเวลา….คืนลมหายใจให้ธรรมชาติ”

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดความตื่นตัวในด้านวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมขึ้นทั่วโลก และร่วมกันหาหนทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประเทศต่างๆ กำลังเผชิญอยู่ โดยได้ออกแนวทางและแนวปฏิบัติที่ทุกภาคส่วนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยกันป้องกันปัญหา

ในปีพ.ศ. 2563 นี้หัวข้อรณรงค์ของวันสิ่งแวดล้อมโลกได้ถูกกำหนดให้เป็นเรื่อง “TIME FOR NATURE ถึงเวลา….คืนลมหายใจให้ธรรมชาติ” เชิญชวนผู้คนทั่วโลกมาปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เพื่อคืนสมดุลให้กับธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นปีที่เน้นความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ เรียกร้องให้ดำเนินการเพื่อต่อสู้กับการสูญเสียทางสายพันธุ์และความเสื่อมโทรมของธรรมชาติ “Biodiversity – A call to action to combat the accelerating species loss and degradation of the natural world” จากผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่าร้อยละ 25 ของพันธุ์พืชและสัตว์ถูกคุกคามจากการกระทำของมนุษย์ โดยมีกว่าล้านสายพันธุ์ที่กำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ในทศวรรษนี้1 วันสิ่งแวดล้อมโลกจึงถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ทำให้เราทุกคนหยุด และคิดใหม่ว่าวิวัฒนาการของระบบเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลอย่างไรต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม

บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล หรือ GC ก็เป็นอีหนึ่งบริษัทที่พร้อมในการร่วมรับมือจากสถานการณ์ต่างๆ ที่ธรรมชาติกำลังส่งสัญญาณผ่านการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน โดยยึดหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ในการสร้างสรรค์เคมีภัณฑ์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต GC  คำนึงถึงความสำคัญของการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมกับการเร่งพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของระบบนิเวศทางธุรกิจร่วมกับพันธมิตรและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง ดังจะเห็นผ่านนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ โครงการ ความร่วมมือในมิติต่างๆ ที่บริษัทได้ริเริ่มและเป็นผู้ขับเคลื่อนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา

GC เล็งเห็นถึงความสำคัญและมีเป้าหมายในการดำเนินงานเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจน สอดรับกับเป้าของประเทศและของโลก โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การลงทุนในเทคโนโลยีประหยัดพลังงานและโครงการด้านพลังงานทดแทน ตลอดจนการติดตามผลการดำเนินงานด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งถือเป็นพันธกิจหลักของบริษัทฯ

นอกจากนั้นจีซียังมีการให้การสนับสนุนรับมือกับทุกสถานการณ์ไปกับประเทศไทย  เช่นสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น GC Group และพันธมิตร ได้ร่วมบริจาคผลิตภัณฑ์พลาสติกและเคมีภัณฑ์ พร้อมทั้งริเริ่มโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ อย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย และผู้ได้รับผลกระทบ รวมถึงพนักงานของ GC Group เพื่อให้ผ่านพ้นทุกสถานการณ์ไปด้วยกัน

หากมองถึงปัญหาที่เกิดจากผลของการใช้พลาสติกและการจัดการพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastic) GC ได้คิดค้นและพัฒนาพลาสติกชีวภาพ ที่มีฉลาก GC Compostable รับรองความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาขยะพลาสติกตกค้าง ซึ่งพลาสติกชีวภาพนี้สามารถสลายตัวได้ภายใน 6-24 เดือน หากอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมถือเป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อโลกอย่างมาก

จะเห็นได้ว่าพลาสติกหากได้รับการผลิต ใช้ และจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและรู้คุณค่านั้น สามารถสร้างประโยชน์ ยกระดับประสิทธิภาพความเป็นอยู่ต่อทุกภาคส่วนได้ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคธุรกิจ สังคม ชุมชน และประชาชนทั่วไป จนก่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ ถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะให้เวลากับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เท่าๆ กับให้เวลากับตัวเรา เพราะสัญญาณที่ธรรมชาติส่งถึงเราจากวิกฤตการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 นี้เป็นเพียงสัญญานเดียว คงไม่มีใครที่อยากเผชิญกับความท้าทายของธรรมชาติที่คาดไม่ถึง ผ่านการเผชิญกับวิกฤติและภัยพิบัติหลายเหตุการณ์พร้อมๆ กัน

เราต่างเปลี่ยนเข้าสู่ยุคของการมีวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) การเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตและการบริโภคของเราให้สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง GC พร้อมสนับสนุนและขับเคลื่อนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีสำนึกรับผิดชอบ และร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืน … เพื่อให้ทุกวัน คือวันที่เราจะดูแลสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน