JobsDB เปิดข้อมูลตลาดงานยุค COVID-19 คนไทย 1 ใน 4 ได้รับผลกระทบถูกเลิกจ้างหรือให้หยุดงานชั่วคราว คนที่ยังมีงานทำ 37% ถูกลดเงินเดือนหรืองดการให้โบนัส/งดขึ้นเงินเดือน แต่ข่าวดีก็คือ เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาสถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้น โดย 88% ของบริษัทที่สำรวจพร้อมรับพนักงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง และสายงานไอทีคืออาชีพที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด
“พรลัดดา เดชรัตน์วิบูลย์” ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยข้อมูลจากการสำรวจบริษัทและพนักงานในช่วงวันที่ 14-30 พฤษภาคม 63 พบว่า สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 มีผลต่อการจ้างงานค่อนข้างมาก แต่เมื่อการระบาดเริ่มคลี่คลาย ตลาดงานก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้วเช่นกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
พนักงาน 1 ใน 4 ถูกเลิกจ้าง/หยุดงานชั่วคราว
สำหรับผลกระทบในช่วงหลังล็อกดาวน์เดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าพนักงานถึง 1 ใน 4 ได้รับผลกระทบต่อการจ้างงาน แบ่งเป็น 9% ถูกเลิกจ้าง และ 16% ถูกให้หยุดงานชั่วคราว
แม้แต่พนักงานที่ยังมีงานทำก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพราะ 37% ของนายจ้างมีการปรับโครงสร้างการให้เงินเดือน โดยนโยบายที่นำมาใช้มากที่สุดคือ 21% งดการขึ้นเงินเดือนพนักงาน 20% ลดเงินเดือนพนักงาน 18% งดการจ่ายโบนัส
ช่วงเดือนเมษายนยังเป็นช่วงที่นายจ้างถึง 39% มีนโยบายหยุดรับพนักงานใหม่เพิ่ม และพบว่าการประกาศรับสมัครงานทั้งตลาดลดลง 35% เทียบกับเดือนมีนาคม
4 กลุ่มเสี่ยงที่ถูกเลิกจ้างมากที่สุดในช่วง COVID-19
สำหรับกลุ่มพนักงานที่ถูกเลิกจ้างมากที่สุดจากวิกฤต COVID-19 มักจะมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
1.รายได้ต่ำกว่า 16,000 บาทต่อเดือน
2.เป็นพนักงานสัญญาจ้างไม่ประจำ
3.อยู่ในองค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงานไม่เกิน 50 คน
4.อายุมากกว่า 45 ปี
4 กลุ่มที่มีความมั่นคงทางการงานสูงสุดช่วง COVID-19
ส่วนพนักงานที่มีความมั่นคงทางการงานมากที่สุดในช่วง COVID-19 มักจะมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
1.รายได้มากกว่า 30,000 บาทต่อเดือน
2.เป็นพนักงานประจำ
3.อยู่ในองค์กรขนาดกลาง มีพนักงาน 51-500 คน
4.อายุ 25-34 ปี
88% มีแผนกลับมาจ้างงานใหม่ครึ่งปีหลังปีนี้
JobsDB พบว่า ตลาดงานในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยช่วงพฤษภาคมมีการรับสมัครงานสูงขึ้นจากเดือนเมษายนแล้ว แม้จะยังไม่เท่ากับเดือนมีนาคม และจากการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการ 88% มีแผนการจ้างงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 ในจำนวนนี้ 53% ต้องการจ้างพนักงานระดับ entry level หรือเด็กจบใหม่จนถึงอายุงานไม่เกิน 3 ปี
พรลัดดาให้ความเห็นจากการพูดคุยกับผู้ประกอบการ พบว่า แนวโน้มการจ้างงานหลัง COVID-19 คลี่คลาย เป็นไปได้ว่าบริษัทจะเน้นพนักงานแบบสัญญาจ้างมากกว่าจ้างประจำ และต้องการพนักงานที่สามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้ (remote work) เพราะบริษัทยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่อาจเกิดการระบาดระลอกสอง นำไปสู่การล็อกดาวน์และการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจอีกครั้ง การจ้างแบบสัญญาจ้างจึงยืดหยุ่นกว่า
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของฐานเงินเดือนพนักงานเข้าใหม่เชื่อว่าจะยังไม่มีการปรับลด เพียงแต่ตำแหน่งงานที่จะประกาศหา จะผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบมากขึ้นว่ามีความจำเป็นกับบริษัทแค่ไหน ก่อนรับสมัครพนักงานเข้ามา
“งานไอที” ฮอตสุด “ท่องเที่ยว/โรงแรม” กลับมาแล้ว
ด้านสายงานที่ผู้ประกอบการตอบว่าน่าจะมีการรับสมัครในช่วงครึ่งปีหลัง 2563 มากที่สุด 5 อันดับมีดังนี้
1.งานไอที
2.งานการตลาด ประชาสัมพันธ์
3.งานขาย งานบริการลูกค้า พัฒนาธุรกิจ
4.งานท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหารและเครื่องดื่ม
5.งานฝ่ายจัดซื้อ
พรลัดดาชี้ว่า ตลาดงานที่น่าจะกลับมา สอดคล้องกับการฟื้นตัวหลังคลายล็อกดาวน์ งานขาย ท่องเที่ยว โรงแรม สามารถกลับมาทำธุรกิจได้ ตลาดงานจึงคึกคักอีกครั้ง ส่วนงานไอทียังคงมีดีมานด์สูงต่อเนื่อง เพราะบริษัทต่างๆ เห็นชัดถึงความสำคัญของการทำตลาดออนไลน์
“ดีมานด์กลุ่มไอทีมีสูงมาก ซัพพลายไม่เคยพอเลย ที่ผ่านมาหลายบริษัทต้องใช้วิธีรับคนต่างชาติมาทำงาน ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติที่อยู่ในไทยหรือให้ remote เข้ามาทำก็ตาม” พรลัดดากล่าว
ด้านกลุ่มงานที่น่าจะยังซบเซาต่อไป มองว่าเป็นกลุ่มที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมก่อสร้าง-อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะเป็นสินค้าลงทุนสูง ในสภาวะเศรษฐกิจที่ผู้บริโภครัดเข็มขัด ทำให้บริษัทต้องระมัดระวังการจ้างงานเพิ่ม
ทั้งนี้ พรลัดดาทิ้งท้ายว่า JobsDB มีการจัดโปรโมชันสำหรับผู้ประกอบการที่ลงประกาศหางานกับ JobsDB จะได้สิทธิประกาศหางานฟรี 4 ตำแหน่ง เฉพาะตำแหน่งงานรายได้ไม่เกิน 16,000 บาทต่อเดือน หรือตำแหน่งงานที่รับสมัครนิสิตนักศึกษาจบใหม่ ประสบการณ์ 0 ปี เพราะต้องการมีส่วนช่วยให้คนที่ได้รับผลกระทบสูงเด็กจบใหม่ได้มีงานทำในช่วงวิกฤตนี้