· FPT ได้รับความไว้วางใจจากเอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด (“FNDT”) ในการพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) เต็มรูปแบบแห่งแรก ซึ่งลงทุนโดย FNDT คลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่ และการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ของ FNDT ได้เป็นอย่างดี
· โครงการแฟลกชิพแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ของเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ ในจังหวัด อยุธยา ซึ่งเป็นทำเลกลยุทธ์สำหรับใช้เป็นฐานการผลิตและซัพพลายเชนของอุตสาหกรรมประเภทอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ เอื้อต่อการขนส่งและการกระจายสินค้าไปยังภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด
· FPT สามารถสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตโฟลิโอของธุรกิจประเภทคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ หรือ Built-to-Suit ได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มให้เพิ่มมากขึ้น คาดว่าอาคารคลังสินค้าของ FNDT จะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 นอกจากนี้ FPT ยังมีโครงการ Built-to-Suit ในไปป์ไลน์อีกหลายโครงการ
บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ “FPT” ผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรของประเทศไทย ประกาศก้าวสำคัญของ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ FPT ที่ได้เริ่มก่อสร้างโครงการศูนย์กระจายสินค้าระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) เต็มรูปแบบแห่งแรกของ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “FNDT” ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านอาหารและเครื่องดื่มในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ภายใต้ความร่วมมือนี้ FPT ได้ใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ ในการให้บริการโซลูชั่นครบวงจรแก่ FNDT สำหรับการพัฒนาคลังสินค้าระบบออโตเมชั่นเต็มรูปแบบตามมาตรฐานระดับสากล ซึ่งระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) คิดเป็นมูลค่า 416 ล้านบาท จะช่วยตอบสนองต่อความต้องการใช้งานเฉพาะด้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่คลังสินค้าและการปฏิบัติงานได้อย่างสูงสุด
ศูนย์กระจายสินค้าระบบ ASRS ของ FNDT ตั้งอยู่ในโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ จังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ของ FPT มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 20,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 25 ไร่ อาคารแห่งนี้จะมีความสูงถึง 40 เมตร และสามารถรองรับน้ำหนักได้มากถึง 11 ตันต่อตารางเมตร เมื่อพัฒนาแล้วเสร็จอาคารแห่งนี้จะเป็นศูนย์กระจายสินค้าระดับภูมิภาคของ FNDT โดยมีแบรนด์ยอดนิยม อาทิ นมข้นทีพอท, นมข้นคาร์เนชัน, นมแมกโนเลีย พลัส กิงโกะ ยูเอชที, นมตราหมี สเตอริไลส์, นมตราหมีโกลด์, และ นมปรุงแต่งอัดเม็ดแมกโนเลีย มิลค์กี้ส์ ทั้งนี้ FPT มีกำหนดการส่งมอบอาคารในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เพื่อรองรับการดำเนินงานในปัจจุบันและการเติบโตทางธุรกิจของFNDT ในระดับภูมิภาคต่อไปในอนาคต
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “บริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับ เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) ในการพัฒนาโครงการแฟลกชิพแห่งนี้ ด้วยแนวคิดของ FPT ที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer-Centric) จึงทำให้บริษัทฯ สามารถส่งมอบโซลูชั่นครบวงจรเพื่อตอบสนองการใช้งานของ FNDT ได้อย่างครบถ้วน ศูนย์กระจายสินค้าระบบจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) แห่งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของ FPT ในการยกระดับมาตรฐานการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมสู่ยุคใหม่ ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงและคุณภาพการพัฒนาอาคารที่เป็นเลิศ”
นอกเหนือจากโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ จังหวัดอยุธยา แล้ว FPT ยังมีโครงการโลจิสติกส์เซ็นเตอร์ในพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่ โครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ วังน้อย 1 และ 2 ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ แวดล้อมด้วยนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญหลายแห่ง อีกทั้งตั้งอยู่ใกล้กับทางหลวง และถนนวงแหวนอุตสาหกรรมรอบนอก ที่เชื่อมต่อไปยังภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งส่งเสริมให้การดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และการกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพสูงสุด
การร่วมมือกับ FNDT เป็นการตอกย้ำความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของบริษัทฯ ในการสร้างพอร์ตฟอลิโอที่แข็งแกร่งให้แก่คลังสินค้าประเภทสร้างตามความต้องการ หรือ Built-to-Suit “FPT วางแผนที่จะพัฒนาโลจิสติกส์เซ็นเตอร์ในทำเลวังน้อย และพื้นที่อื่นในจังหวัด อยุธยา เป็นศูนย์โลจิสติกส์สำหรับกระจายสินค้าไปยังภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เพื่อรองรับดีมานด์ของภาคธุรกิจหลายกลุ่ม ปัจจุบัน FPT ก้าวสู่การเป็นผู้นำการให้บริการแพลตฟอร์ม Built-to-Suit ที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาคลังสินค้าของบริษัทฯ ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจากลูกค้าเสมอมา ถึงแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม แต่บริษัทฯ ยังคงมั่นใจว่าในปีงบประมาณ 2563 FPT จะสามารถสร้างการเติบโตของธุรกิจพัฒนาคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit จำนวน 120,000 – 150,000 ตารางเมตร ตามเป้าหมายที่เคยกล่าวไว้ได้อย่างสำเร็จ” นายโสภณ กล่าวเสริม
นายสุชิต ริ้วจรูญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าว “จากความร่วมมือในครั้งนี้ เรามั่นใจว่า FPT จะพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าแห่งภูมิภาคที่มีความโดดเด่นและเหนือระดับในด้านของนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของภูมิภาคได้อย่างยั่งยืน ด้วยความสามารถในการบริหารจัดการคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าได้ตามเป้าหมาย”
Related