กำหนดวันชี้ชะตาอนาคตหุ้น IFEC จะกลับมาซื้อขายใหม่อีกครั้ง ในการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้น วันที่ 30 ก.ค.นี้ ณ สนามกีฬากองทัพบก (วิภาวดี ) เวลา 10.00 น. แต่งตั้ง “เอ.เอ็ม.ที.แอสโซซิเอท” เป็นผู้สอบบัญชี จัดทำงบการเงิน 4 ปีรวด (2560-2563 )
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักในชื่อ ไอเฟค เป็นปัญหาที่คล้ายคลึงกับ บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในตลาดหลักทรัพย์ คือ การค้างส่งงบการเงินภายในเวลาที่ทางการกำหนด แต่ที่หนักกว่าหลายบริษัท คือ การที่บริษัทไม่สามารถหาผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ยินยอมเป็นผู้บัญชีของบริษัทมาเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการแต่งตั้ง มาเป็นเวลาหลายปี จนทำให้ ไอเฟค มีเหตุแห่งการเพิกถอน จาก การค้างส่งงบการเงินล่าสุด เป็นจำนวนถึง 11 งวด คือ งบการเงินสอบทาน/ตรวจสอบ ไตรมาส 1/2560, ไตรมาส 2/2560, ไตรมาส 3/2560, งบประจำปี 2560, ไตรมาส 1/2561, ไตรมาส 2/2562, ไตรมาส 3/2561, งบประจำปี 2561, ไตรมาส 1/2562, ไตรมาส 2/2562, และไตรมาส 3/2562 รวมทั้งถูกขึ้นเครื่องหมาย SP จากการไม่ส่งงบการเงินตรวจสอบสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และงบการเงินสอบทานไตรมาส 1/2563 รวมทั้งการไม่ส่งแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี และรายงานประจำปี ตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งต้องรอให้งบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบแล้วเสร็จก่อน จึงจะสามารถจัดเตรียมและนำส่งเอกสารตามมาตรา 56 ดังกล่าวได้
ดังนั้น แนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ที่คณะกรรมการบริษัทให้ความสำคัญ คือ การเตรียมความพร้อมให้บริษัทมีเอกสารทางบัญชีที่สมบูรณ์เพียงพอ ในการจัดทำงบการเงินทั้งของบริษัทและบริษัทย่อย เพื่อให้ผู้สอบบัญชี ทำการสอบทานและ/หรือ ตรวจสอบ ได้ และการหาผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ยินยอมเข้ามาเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท และที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทต้องอนุมัติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีรายดังกล่าวได้ คณะกรรมการตรวจสอบได้มีการติดต่อผู้สอบบัญชีหลายราย แต่ได้รับการปฏิเสธ จนมีเพียงรายเดียวที่พร้อมเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้สอบบัญชีของไอเฟคและบริษัท โดยต้องพร้อมจะเข้ามาสอบทานและ/หรือตรวจสอบ งบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย 4 ปีรวด (ปี 2560-2563) และมีการจัดทำข้อเสนอในการเป็นผู้สอบบัญชีให้คณะกรรมการไอเฟคได้พิจารณา และคณะกรรมการไอเฟคได้พิจารณาด้วยความรอบคอบโดยไม่มีทางเลือกอื่นและได้คำนึงความจำเป็นที่ต้องเสนอผู้สอบบัญชีรายดังกล่าวให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา คือ บริษัท เอ.เอ็ม.ที.แอสโซซิเอท จำกัด
นายทวิช เตชะนาวากุล ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ไอเฟค ได้ชี้แจงว่า ค่าสอบบัญชีรวม 4 ปีของ เอ.เอ็ม.ที.ที่เสนอที่ดูสูง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับค่าสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีเดิม เมื่อปี 2559 จะเห็นได้ว่า ค่าสอบบัญชีของ เอ.เอ็ม.ที.จะสูงมากเพียงในปี 2560 ซึ่งผู้สอบบัญชีอาจเห็นว่า เป็นปีที่มีความยุ่งยากในการทำงาน ทั้งการสอบทานเอกสารทางบัญชีเดิมของปี 2559 และการตรวจสอบเอกสารทางบัญชีของบริษัทและบริษัทย่อยในปี 2560 แต่ในปีถัดๆมา ค่าสอบบัญชีที่เสนอ ก็มีความใกล้เคียงกับค่าบัญชีเดิมที่ผู้ถือหุ้นเคยอนุมัติไว้ในปี 2559
นายทวิช ยังกล่าวต่ออีกว่า คณะกรรมการบริษัท ตระหนักดีว่า การที่ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น จะพิจารณาอนุมัติการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีของบริษัท เป็นเรื่องสำคัญ ที่จะชี้ถึงอนาคตของบริษัท ในการที่หุ้นของไอเฟค จะได้กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้อีก หากบริษัทสามารถแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนได้ครบถ้วนแล้ว และการที่คณะกรรมการ จัดเป็นการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เนื่องจาก ตามข้อบังคับของบริษัท ที่มีเงื่อนไขที่เข้มกว่า พระราชบัญญัติบริษัทมหาชน คือ การแต่งตั้งผู้สอบบัญชี ต้องกระทำโดยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทเท่านั้น และตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ทุกบริษัทมหาชนจะจัดประชุมสามัญประจำปี ได้ปีละครั้ง คณะกรรมการ จึงพยายามดำเนินการกำหนดวาระการประชุมที่จำเป็นต้องมี เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนและข้อบังคับบริษัท และอยากเชิญชวนให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมด้วยตนเอง โดยต้องมาตรการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดในการป้องกันจากโรค โควิท-19 หรือมอบฉันทะให้แก่บุคคลอื่นหรือกรรมการตรวจสอบของไอเฟค ตามแบบใบมอบฉันทะที่บริษัทส่งให้ในหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินการแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอน และสามารถนำหลักทรัพย์ของ ไอเฟค กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเจตนารมย์ทั้งของผู้ถือหุ้นไอเฟคและคณะกรรมการชุดนี้