เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศแก้ไขรายชื่อเทคโนโลยีที่อยู่ภายใต้ข้อเพิ่มรวม 23 รายการ อาทิ AI, เทคโนโลยีการจดจำเสียงและการออกแบบชิป ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 ที่มีการแก้ไข โดยบริษัทใดก็ตามที่จะซื้อ-ขาย หากมีเทคโนโลยีที่มีรายชื่อ จะต้องได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลตามกระทรวงพาณิชย์ของจีน
หลังจากที่มีการแก้ไข ‘ByteDance’ บริษัทแม่ของ ‘TikTok’ ที่กำลังจะขายกิจการในสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า จะปฏิบัติตามกฎที่แก้ไขใหม่ของจีนที่เกี่ยวกับการส่งออกเทคโนโลยี และนั่นอาจทำให้การขายการกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ มีความซับซ้อนมากขึ้น
โดย TikTok นั้นมีเทคโนโลยีอัลกอริทึมการนำเสนอผู้ใช้ด้วยวิดีโอที่น่าสนใจ หรือ recommendation of personalized information services based on data analysis โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ อาทิ วิดีโอที่เลือกรับชม รวมถึงที่อยู่อาศัย
“เรากำลังศึกษากฎระเบียบใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ เช่นเดียวกับการทำธุรกรรมข้ามพรมแดน เราจะปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ซึ่งในกรณีนี้รวมถึงของสหรัฐฯและจีน” Erich Andersen ที่ปรึกษาทั่วไปของ ByteDance กล่าวในแถลงการณ์
ด้าน Cui Fan ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศแห่งประเทศจีนและที่ปรึกษาการค้าของรัฐบาล กล่าวว่า “ByteDance อาจต้องผ่านขั้นตอนการออกใบอนุญาต ไม่ว่าเจ้าของใหม่ของ TikTok จะเป็นใครก็ตาม ByteDance มีแนวโน้มที่จะต้องโอนรหัสซอฟต์แวร์จากประเทศจีนไปยังต่างประเทศและอาจต้องให้บริการด้านเทคนิคด้วย”
สำหรับการซื้อขาย TikTok นั้นมีจุดเริ่มต้นจากรัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่า TikTok เป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติเพราะอาจส่งข้อมูลจากสหรัฐฯ ไปยังจีน จนเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งผู้บริหารที่จะห้ามการทำธุรกรรมใด ๆ กับ ByteDance ภายใต้เขตอำนาจศาลของสหรัฐฯ ภายใน 45 วัน เพื่อกดดันให้ ByteDance ต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ และในวันที่ 14 สิงหาคม รัฐบาลให้เวลา ByteDance 90 วันในการยกเลิกการดำเนินงาน TikTok ของสหรัฐฯ
โดยหลังจากที่มีการประกาศขาย TikTok บริษัท Microsoft และ Walmart ได้ร่วมมือกันเพื่อเสนอราคา TikTok ในขณะที่ Oracle อยู่ในระหว่างดำเนินการ
