LINE MAN และ Wongnai ประกาศเสร็จสิ้นกระบวนการควบรวมกิจการ เปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการในชื่อ “LINE MAN Wongnai” ภายใต้การบริหารโดย ยอด ชินสุภัคกุล ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 2 กันยายนเป็นต้นไป เผยแผนธุรกิจ 3 ปี เดินหน้าสู่การเป็น Food Platform อันดับหนึ่งด้วยการสร้าง End-to-end Ecosystem ที่แข็งแกร่งที่สุดของไทย หลังจากได้รับเงินลงทุนมูลค่า 3,300 ล้านบาท (110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) จาก BRV Capital Management ตามประกาศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ยอด ชินสุภัคกุล CEO แห่ง LINE MAN Wongnai อธิบายเหตุผลเบื้องหลังการควบรวมว่า LINE MAN และ Wongnai เป็นพันธมิตรที่ต่างส่งเสริมธุรกิจกันมาตั้งแต่เริ่มแรก ซึ่งเราต่างมีความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาว จึงทำให้เกิดการควบรวมเป็นหนึ่งเดียวในครั้งนี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับอีโคซิสเต็ม Online-to-offline ที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับทั้งผู้ใช้และร้านอาหาร สามารถสร้างคุณค่าให้กับทุกฝ่ายในธุรกิจและตอบสนองต่อสภาพตลาดธุรกิจอาหารที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ การที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงจากเดิมมากโดยเฉพาะช่วงหลัง COVID-19 การเชื่อมต่อ LINE MAN กับ Wongnai เข้าด้วยกันจึงเกิด End-to-End Food Platform แพลตฟอร์มด้านอาหารครบวงจรที่ครอบคลุมทั้งผู้ใช้ ร้านอาหาร และบริการส่งอาหาร เริ่มตั้งแต่ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลและรีวิวร้านอาหารบน Wongnai จากนั้นกดสั่งอาหารเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN และร้านอาหารสามารถรับออเดอร์เดลิเวอรีผ่านระบบจัดการร้านอาหาร Wongnai POS (Restaurant Solutions) ของ Wongnai ได้อย่างสะดวก
ยอด ยังเผยแผนธุรกิจ 3 ปีของ LINE MAN Wongnai ประกอบด้วย
- ระยะสั้น (ภายใน 1 ปี) : โฟกัสที่การทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ทุกฝ่ายในธุรกิจ โดยเฉพาะด้านฟู้ดเดลิเวอรี่ ผู้ใช้งานจะได้สั่งอาหารจากร้านที่หลากหลายมากที่สุด ด้วยค่าส่งเริ่มต้นฟรี รวมถึงขยายพื้นที่ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรีไปสู่หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ สำหรับพันธมิตรร้านอาหาร จะได้เห็นฟีเจอร์ O2O ใหม่ๆ เช่น การเชื่อมต่อกับ LINE Official Account, Mini App, Smart Menu และ Self Promotion ฯลฯ เพื่อช่วยให้ร้านค้ามีเครื่องมือใหม่ๆ ในการทำการตลาดและการขายให้ดียิ่งขึ้น
- ระยะกลาง (3 ปี) : มุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มด้านอาหารอันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยการสร้าง อีโคซิสเต็มด้านอาหารที่สมบูรณ์ที่สุด ซึ่งจะเกิดได้จากความเข้าใจผู้บริโภคคนไทย และการผนวกเอาความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์ม LINE, LINE MAN และ Wongnai เข้าด้วยกัน
CEO แห่ง LINE MAN Wongnai ยังเผยอีกว่า “LINE MAN Wongnai เป็นบริษัทที่ก่อตั้งและบริหารโดยคนไทย เรามั่นใจว่า เราเข้าใจพฤติกรรมของคนไทยได้ดีที่สุดว่าเรื่องกินคือเรื่องใหญ่ เราจริงจังด้านร้านอาหารและอยากเชื่อมต่อผู้บริโภคกับร้านอร่อยเข้าด้วยกัน เพราะฉะนั้น โจทย์ใหญ่ที่เราต้องเดินหน้าอย่างเต็มกำลังต่อจากนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เพิ่มยอดดาวน์โหลดแอปฯ หรือเพิ่มยอดสั่งเท่านั้น แต่คือการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของธุรกิจอาหารในประเทศด้วยอีโคซิสเต็ม Online-to-offline ที่ผนวกเอาความแข็งแกร่งของ 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ LINE ที่เข้าถึงผู้ใช้กว่า 47 ล้านคน LINE MAN ที่มีพาร์ทเนอร์ร้านอาหารหลากหลายมากที่สุดกว่า 200,000 ร้าน และ Wongnai ที่เป็นพันธมิตรที่ดีกับร้านอาหารกว่า 430,000 ร้านทั่วประเทศมาอย่างยาวนาน เราเชื่อว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญในธุรกิจอาหารของไทยที่จะสร้างความตื่นเต้นและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับทุกฝ่ายในธุรกิจอย่างแน่นอน”
หลังจากประกาศควบรวมกิจการ ทีมงาน LINE MAN และ Wongnai ก็ร่วมมือกันพัฒนาบริการทันที สิ่งที่เห็นผลแล้วในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้เปิดให้บริการในจังหวัดใหม่ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา, เชียงใหม่, ภูเก็ต, นครราชสีมาและสงขลา โดยตั้งเป้าขยายไปยังเมืองหลักและเมืองรองรวม 20 จังหวัดทั่วประเทศภายในสิ้นปี และพัฒนาระบบรับชำระเงินผ่านบัตรเดบิตและบัตรเครดิตที่ใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
แอปพลิเคชัน LINE MAN และ แอปพลิเคชัน Wongnai ยังคงชื่อในการให้บริการตามเดิม ผู้ใช้สามารถใช้งานทั้ง 2 แอปฯ ได้ตามปกติ
เกี่ยวกับ LINE MAN Wongnai
LINE MAN Wongnai ผู้นำแพลตฟอร์มออนดีมานด์และข้อมูลร้านอาหารของไทย เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง LINE MAN และ Wongnai ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 110 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากบริษัท BRV Capital Management เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 มีเป้าหมายยกระดับธุรกิจอาหารในไทยแบบครบวงจร ตั้งแต่ออนไลน์ไปถึงออฟไลน์ (O2O) ทั้งการค้นหาข้อมูล การรีวิวร้านอาหาร การสั่งอาหารเดลิเวอรี บริการขนส่งออนดีมานด์อื่นๆ รวมถึงโซลูชันสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร