ในปี 2020 นี้ ถือเป็นปีแรกที่ประเทศไทยมี ‘5G’ ใช้ แม้ว่าจะเป็นช่วงเริ่มต้นทำให้การใช้งานยังครอบคลุมแค่หัวเมืองใหญ่ใน 77 จังหวัดเท่านั้น แต่เหล่า ‘แบรนด์สมาร์ทโฟน’ ต่างก็เร่งชิงพื้นที่ในการเปิดตัว ‘สมาร์ทโฟน 5G’ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ออปโป้’ (Oppo) ที่ประกาศชัดว่าต้องการจะขึ้นเป็น ‘เบอร์ 1’ ในสมาร์ทโฟน 5G
ตลาด 5G เดือดแน่ปีหน้า
ชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร ออปโป้ ประเทศไทย กล่าวว่า แม้ว่าปีนี้ในตลาดสมาร์ทโฟนจะมี ‘สมาร์ทโฟน 5G’ จัดจำหน่ายเกือบ 20 รุ่นก็ตาม แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นรุ่นเรือธงราคา 2 หมื่นบาทขึ้นไป แต่คาดว่าตั้งเเต่ช่วงสิ้นปีจนถึงในไตรมาสแรกปีหน้า ทุกแบรนด์จะมุ่งเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ดังนั้น มีโอกาสที่จะเริ่มเห็นสมาร์ทโฟน 5G ในราคาประมาณหมื่นต้น ๆ ซึ่งจากนี้จะถือเป้นช่วง ‘เปลี่ยนถ่าย’ ของ 4G ไปยัง 5G
“โอเปอเรเตอร์ค่อนข้างพร้อม และดีไวซ์ก็เริ่มมี ดังนั้นยังไงก็มาแน่ แต่ที่ยังไม่ดังเปรี้ยงปร้างก็เพราะผู้บริโภคยังไม่ตื่นเต้น ดังนั้นตอนนี้ยังเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านกำลังนับ 1 ก็ต้องดูกันว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน”
ปักธงขึ้น ‘เบอร์ 1’ สมาร์ทโฟน 5G
ออปโป้ได้เริ่มเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G ไปตั้งแต่ปี 2019 แต่ในปี 2020 นี้ ออปโป้ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G 3 รุ่นรวด ได้แก่ OPPO Reno4 Z 5G ราคา 12,990 บาท, OPPO Reno 4 Pro 5G ราคา 24,990 บาท และ OPPO Find X2 Pro 5G Green Vegan Leather Edition ราคา 40,990 บาท ซึ่งจะเห็นว่า “ครอบคลุมทุกระดับราคา” ตั้งแต่กลางถึงเรือธง
อย่างไรก็ตาม การที่ออปโป้จะขึ้นสู่ ‘เบอร์ 1’ สมาร์ทโฟน 5G ไม่ใช่แค่มีสมาร์ทโฟนที่ราคาจับต้องได้ เพราะ 5G มีหลายส่วนที่ประกอบกัน ไม่ใช่แค่โครงข่ายหรือดีไวซ์แต่ราคา ‘แพ็กเกจ’ ก็มีส่วนสำคัญ เพราะต่อให้สมาร์ทโฟนราคาถูกแต่แพ็กเกจแพง คนก็ไม่ใช้
“โจทย์คือ เราจะกินแชร์ไฮเอนด์ได้แค่ไหน เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ สามารถจ่ายค่าแพ็กเกจได้ หรือในปีหน้า 5G ที่จะมีสมาร์ทโฟน 5G ราคาต่ำหมื่นมาจริง แต่ผู้บริโภคจะตอบรับกับราคาแพ็กเกจได้แค่ไหน เพราะ 599 ก็ถือว่าสูงไป ดังนั้น ถ้าราคาแพ็กเกจคนรับได้ เราเชื่อว่าจะครองตลาด 5G ได้แน่นอน”
เดินหน้าสร้าง ‘ออปโป้ อีโคซิสเต็มส์’
ภายใน 3 ปีนี้บริษัทมีแผนใช้งบประมาณการลงทุนมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์ และมีทีม R&D สำหรับวิจัยและพัฒนาด้าน 5G, AI, AR และ Big Data กว่า 1 หมื่นคน ซึ่งส่วนนี้ไม่ได้จำกัดแค่พัฒนาสมาร์ทโฟน แต่กำลังพัฒนา ‘อีโคซิสเต็มส์’ โดยปัจจุบัน ออปโป้ได้แบ่งสินค้าเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ใช้ทั่วไป (สมาร์ทโฟน, หูฟัง, นาฬิกา), ของใช้ในบ้าน (ทีวี, เครื่องฟอกอากาศ) ซึ่ง 2 กลุ่มนี้ได้เริ่มทำตลาดในไทยแล้ว ส่วนอีก 2 กลุ่มที่จะทำตลาดในอนาคตได้แก่ กลุ่มออฟฟิศ และท่องเที่ยว
ตลาดสมาร์ทโฟนไทย -20%
สำหรับภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้คาดว่าจะติดลบถึง 20% โดยยอดที่หายไปมากสุดคือช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมที่มีการล็อกดาวน์ ขณะที่ไตรมาสที่ 3 ก็ยังเป็นช่วงโลว์ซีซัน เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ มักเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 อย่างไรตอนนี้เศรษฐกิจเป็นปัญหาทั่วโลก แต่ในความโชคดีของอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน คือ เป็นสินค้าจำเป็น ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าภาคอื่น ๆ
คงต้องมารอดดูกัน ว่าอานุภาพของ 5G จะช่วยดันให้ตลาดสมาร์ทโฟนปีหน้าฟื้นกลับมาได้หรือไม่ และ ‘ออปโป้’ เองจะก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 1 ได้ตามที่หวังหรือไม่ เพราะต้องอย่าลืมว่ายังมี ‘Apple’ ที่เตรียมเปิดตัว ‘IPhone 12’ ที่เป็นรุ่น 5G ในช่วงปลายปีนี้เป็นก้างชิ้นใหญ่ในการจะจับตลาด 5G ไฮเอนด์