-
เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จัดงาน SCG Home & Living Fair สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าอยากรีโนเวต-ต่อเติมบ้าน หนึ่งในเทรนด์สำคัญมาแรงของปีนี้คือ “ห้องทำงานเก็บเสียง” หลัง COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนวิถีชีวิต ทำงานที่บ้านมากขึ้น
-
เปิดข้อมูลตลาดรีโนเวตบ้านมูลค่าปีละ 2.34 แสนล้านบาท เติบโตทุกปี แม้ในช่วงเศรษฐกิจฝืดยังโตได้ เนื่องจากบ้านเก่ามีเติมเข้าตลาดทุกปี ปีละ 4 แสนหลัง
-
สำหรับเอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ ซึ่งเป็นบริการรีโนเวต ต่อเติม ตกแต่งบ้านครบวงจร โจทย์สำคัญกับผู้บริโภคคือ ต้องทำให้รู้สึกว่า “การทำบ้านเป็นเรื่องง่าย”
“สุพรศรี นาคธนสุกาญจน์” Managing Director บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด ในเครือ SCG แถลงการจัดงาน SCG Home & Living Fair งานแฟร์สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้ารีโนเวต-ต่อเติมบ้าน จัดระหว่างวันที่ 16-25 ต.ค. 63 ณ SCG Experience คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (CDC)
ภายในงานมีบูธตัวอย่างการต่อเติมหรือปรับบ้านตามเทรนด์สำคัญที่บริษัทมองว่ากำลังมาแรง ได้แก่
1) บ้านวัยเก๋า – ปรับให้บ้านเหมาะกับผู้สูงวัย ทั้งห้องนอน บันได ห้องน้ำ ฯลฯ
2) บ้านเย็น – เทคโนโลยีผนังและหลังคาช่วยให้บ้านเย็นขึ้น
3) บ้านอัจฉริยะ – ระบบอัจฉริยะเพิ่มความสะดวกหรือความปลอดภัย
4) Sound Solution – เช่น ห้องเก็บเสียง เหมาะกับการกั้นห้องทำงานเพิ่ม
โดยเฉพาะ “ห้องทำงานเก็บเสียง” เป็นหนึ่งในเทรนด์ประจำปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้หลายคนต้องต่อเติม กั้นห้องทำงานเพิ่มเพื่อทำงานจากบ้าน (Work from Home) และด้วยเหตุผลเดียวกันคือการอยู่บ้านมากขึ้น สิ่งที่มีการรีโนเวตมากเป็นอันดับ 2 และ 3 ตามมาคือ “ครัว” และ “ชานบ้านและแลนด์สเคป” เพราะเริ่มทำอาหารทานเองบ่อยขึ้น พร้อมกับต้องการสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในบ้าน
ตลาดรีโนเวตบ้านยังไม่ติดลบ
สุพรศรีให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดรีโนเวตบ้าน มีมูลค่าประมาณปีละ 2.34 แสนล้านบาท เป็นตลาดที่มีมูลค่าสูงมากเพราะประเทศไทยมีบ้าน 23.4 ล้านหลังคาเรือน และแต่ละปีจะมีบ้านที่ถือว่าเป็น “บ้านเก่า” เพิ่มขึ้น 4 แสนหลังคาเรือน บ้านเก่าเหล่านี้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยอายุ 10 ปีขึ้นไปจะต้องเริ่มปรับปรุงรีโนเวตครั้งใหญ่
สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ สุพรศรีประเมินว่าธุรกิจรีโนเวตบ้านได้รับผลกระทบจากปัจจัยนี้บ้าง ทำให้เติบโตน้อยกว่าปีที่ผ่านๆ มา (ทั้งนี้ ไม่ระบุตัวเลขการเติบโต) แต่ถือว่ายังดีกว่าตลาดขายบ้านใหม่ซึ่งโดยรวมชะลอตัวถึงจุดติดลบ มองว่าเป็นเพราะผู้บริโภคอยู่บ้านมากขึ้นและต้องต่อเติมปรับบ้านให้เหมาะสมดังกล่าว
“ทำบ้านเป็นเรื่องง่าย” สิ่งที่ SCG อยากสื่อสาร
ด้านโจทย์ธุรกิจของ SCG Experience และตลาดค้าปลีก SCG HOME ในวันนี้ สุพรศรีมองว่า “ต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่า การทำบ้านเป็นเรื่องง่าย” โดยให้ลูกค้าเข้ามาสัมผัสแรงบันดาลใจจาก SCG Experience และแนะนำบริการของบริษัทที่เป็นโซลูชันแบบครบวงจร
สุพรศรีกล่าวว่า จากการเซอร์เวย์ผู้บริโภค ข้อหนึ่งที่ผู้บริโภคพูดถึง SCG Experience คือราคาค่อนข้างสูง แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจกับผู้บริโภคว่า บริการที่ได้มีความแตกต่างและคุ้มค่ากว่าการทำบ้านแบบดั้งเดิม เพราะการทำบ้านแบบเดิมที่ลูกค้าดีลหาช่างทั่วไปมาทำงาน มักจะพบปัญหาหลักๆ คือ งานไม่ได้มาตรฐาน, งบบานปลาย และช่างทิ้งงานกลางคัน สิ่งเหล่านี้ถ้าใช้โซลูชันของบริษัทก็จะแก้ปัญหาได้หมด ไม่ต้องกังวล การทำบ้านก็ง่ายขึ้น
ความพร้อมของ SCG ในการบริการ คือการมีทีมช่างอินทีเรีย 300 คนในเครือ สามารถเซอร์เวย์หน้างาน ให้คำปรึกษาและออกแบบอย่างมีมาตรฐาน รวมถึงมีทีมเครือข่ายช่างทุกประเภทรวม 10,000 คนที่คัดกรองความเป็นมืออาชีพมาแล้ว สามารถจัดคิวเข้าไปบริการลูกค้าได้เลย
ปัจจุบันค้าปลีก SCG มีสมาชิกสมัครบัตร SCG Family Card อยู่ 1 แสนราย (ครึ่งหนึ่งเป็นช่างมืออาชีพ อีกครึ่งหนึ่งเป็นเจ้าของบ้าน end users) และกำลังพยายามผลักดันให้มีฐานลูกค้าสมัครบัตรให้มากที่สุด เพื่อเริ่มต้นการทำบิ๊กดาต้า เข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้นในอนาคต