เซลส์ฟอร์ซ อัพฟีเจอร์ Work.com เสริมประสิทธิภาพให้คนทำงานยุค New Normal

เซลส์ฟอร์ซ [NYSE: CRM] ผู้นำด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ระดับโลก ขยายบริการ Work.com โดยเพิ่มเครื่องมือเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้กับพนักงานบริษัท ตอบรับการทำงานในยุค New Normal ให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

โซลูชั่น Work.com เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายในการช่วยธุรกิจและคอมมิวนิตี้ให้สามารถกลับมาเปิดให้บริการหลังภาวะวิกฤตได้อย่างปลอดภัย และเป็นตัวช่วยสำหรับธุรกิจเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของลูกค้าและผู้บริโภคหลัง COVID-19

โซลูชั่น Work.com ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง  โดยเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เซลส์ฟอร์ซได้มีการขยายบริการโซลูชั่นดังกล่าวภายใต้ชื่อ Work.com for Vaccines เพื่อเป็นเครื่องมือให้กับหน่วยงานทางด้านสาธารณสุข หน่วยภาครัฐ และองค์กรอนามัยต่าง ๆ นำไปใช้เพื่อจัดการการแจกจ่ายวัคซีนที่จะถูกผลิตขึ้นในอนาคต

วันนี้โซลูชั่น Work.com ได้พัฒนาและขยายบริการขึ้นอีกขั้นด้วยการเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ต่อการทำงานของพนักงานบริษัทและองค์กร โดยเป็นเครื่องมือให้พนักงานทำงานได้สะดวก มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น

ฟังก์ชั่นเพิ่มเติมของโซลูชั่น Work.com เวอร์ชั่นล่าสุดสำหรับการทำงานของพนักงาน:

  • ฟังก์ชั่น Employee Workspace เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพโดยพนักงานสามารถเข้าใช้งาน Employee Workspace ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นศูนย์รวมเครื่องมือในการทำงานต่าง ๆ ไม่ว่าพนักงานนั้นจะอยู่ในหรือนอกสถานที่ทำงานก็สามารถเข้าใช้งานได้ โดยเครื่องมือที่รวมอยู่ใน Employee Workspace นั้นได้แก่ แอปพลิเคชั่นสำหรับการทำงานอย่าง Google Workspace และ Quip, แพลตฟอร์มการเรียนรู้อย่าง myTrailhead รวมไปถึงระบบบัญชีเงินเดือน เป็นต้น นอกจากนี้ Workspace ยังมาพร้อมเครื่องมือสำหรับติดต่อสื่อสาร การแจ้งเตือน เพื่อให้ความมั่นใจว่าพนักงานจะสามารถสื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามกำหนดแม้เมื่อต้องทำงานจากต่างสถานที่
  • ฟังก์ชั่น Employee Helpdesk ที่จะช่วยให้พนักงานสามารถสอบถามและรับการช่วยเหลือจะบริษัทหรือองค์กรได้อย่างรวดเร็วจากทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นข้อสงสัยเรื่องทางเทคนิคใกล้ตัวอย่าง IT support  หรือเรื่องใหญ่ขึ้นอย่างข้อมูลนโยบายบริษัท หรือรับทราบข้อมูลสิทธิพนักงานจากแผนก HR เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี Einstein chatbot ที่ใช้ AI เป็นตัวช่วยสำหรับพนักงานหากเมื่อต้องการค้นหาข้อมูลที่สนใจได้อย่างครอบคลุมในหลากหลายด้าน

ฟังก์ชันเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้การติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานและลูกค้าได้อย่างปลอดภัย

  • ฟังก์ชัน Queue Management ที่ช่วยให้ธุรกิจที่มีหน้าร้านสามารถจัดการคิวของลูกค้าได้อย่างปลอดภัยโดยเปลี่ยนการยืนรอคิวหน้าร้านให้เป็นแบบ Virtual เพื่อลดความแออัด โดยลูกค้าสามารถจองคิวแบบออนไลน์เพื่อเข้ารับบริการของร้านผ่านแอปพลิเคชั่น  และเมื่อถึงคิว ลูกค้าจะได้รับ SMS แจ้งเตือนให้เข้ามาที่ร้านเพื่อรับบริการ
  • ฟังก์ชัน Broadcast Messaging ช่วยให้ธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ อาทิ การอัพเดทเวลาเปิดและปิดให้บริการ, เปลี่ยนแปลงเวลานัดหมาย, แจ้งเตือนเรื่องข้อปฏิบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัยให้กับทั้งลูกค้าและพนักงานผ่านช่องทางสื่อสารที่ใช้ อาทิ ข้อความ SMS, WhatsApp, Facebook Messenger ธุรกิจสามารถตอบกลับคำขอบริการ หรือคำถามที่ลูกค้าอาจมีได้อย่างรวดเร็วผ่านแชทบอทอัตโนมัติ หรือส่งข้อความการสื่อสารเฉพาะบุคคล
  • ฟังก์ชัน Digital Trust Cards ช่วยให้พนักงานในแต่ละพื้นที่สามารถอัพเดตเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของพื้นที่ที่ตนให้บริการนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อาทิ มาตรการรักษาระยะห่าง หรือ นโยบายการทำความสะอาด เพื่อสร้างความไว้ใจและความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มารับบริการของแต่ละสาขาพื้นที่

ราคาและการให้บริการ

  • ฟังก์ชัน Queue Management เปิดให้ใช้งานแล้ววันนี้ และรวมอยู่ในแพ็คเกจ Asset Scheduler ในราคา 15 เหรียญสหรัฐต่อผลิตภัณฑ์ต่อเดือน
  • ฟังก์ชัน Broadcast Messaging เปิดให้ใช้งานแล้ววันนี้ในราคา 100 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อเดือน โดยฟังก์ชั่นดังกล่าวอยู่ในแพ็คเกจ Digital Engagement ในราคา 75 เหรียญสหรัฐต่อคนต่อเดือนเพิ่มใน Service Cloud
  • ฟังก์ชัน Trust Cards เปิดให้ใช้งานแล้ววันนี้ และรวมอยู่ในบริการ Service Cloud หรือ Sales Cloud ใน Enterprise Edition หรือบริการข้างต้น
  • ฟังก์ชัน Employee Workspace คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการภายในปี 2020 โดยราคาจะประกาศให้ทราบในภายหลัง
  • ฟังก์ชัน Employee Help Desk คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการภายในครึ่งปีแรกของ 2021 โดยราคาจะประกาศให้ทราบในภายหลัง