‘บิวตี้ เบลนด์’ ยกระดับนวัตกรรมเสริมความงามเส้นผมสู่ยุคนิวนอร์มอล รีแบรนด์บริษัทและผลิตภัณฑ์ “นิกาโอะ” ครั้งใหญ่

บิวตี้ เบลนด์ (Beauty Blend) จับจังหวะเปลี่ยนผ่านธุรกิจเข้าสู่ยุคนิวนอร์มอล พลิกวิกฤตโควิด-19 เป็นโอกาสทอง รีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบทศวรรษ เทียบขั้นบริษัทเสริมความงามระดับโลก ซุ่มปรับรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ NIGAO (นิกาโอะ) ใหม่ ยกระดับสินค้าสู่ความงามระดับอินเตอร์ เสริมความแกร่งธุรกิจ ลุยทำการตลาดรูปแบบใหม่เต็มสูบ ทั้งการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ มั่นใจองค์กรเติบโตยั่งยืน วางเป้าหมายยอดขายสิ้นปีนี้ เติบโตกว่า 200 ล้านบาท

นายภูริวัฒน์ เขียนขำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ผู้สร้างแรงบันดาลใจแห่งความงาม บริษัท บิวตี้ เบลนด์ จำกัด หรือ Beauty Blend ผู้นำตลาดนวัตกรรมเพื่อความงามและสุขภาพของเส้นผม สูตรลับเฉพาะของบริษัทคนไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจเสริมความงามเส้นผมในประเทศไทยเป็นตลาดที่มีโอกาสที่สูงมาก แม้ว่าบริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ในการทำธุรกิจตลอดระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจกว่า 13 ปี บริษัทฯ นับเป็นบริษัทคนไทยที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มลูกค้าด้วยดีเสมอมา ส่งผลให้บริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นการเติบโตในลักษณะที่ผู้ใช้งานจริงแนะนำกันแบบปากต่อปาก อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการสร้างความแข็งแกร่งด้วยการพัฒนานวัตกรรมเพื่อความงามและสุขภาพของเส้นผมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์กับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพยอดเยี่ยมสูงสุดของบริษัทฯ ภายใต้ปรัชญา “ความงามคืออำนาจ” (The Power Of Beauty)

ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคยุคนิวนอร์มอล บิวตี้ เบลนด์ เตรียมลงทุนปรับภาพลักษณ์องค์กร (Rebranding) ครั้งใหญ่ เทียบขั้นองค์กรเสริมความงามเส้นผมระดับโลก พร้อมปรับรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ NIGAO (นิกาโอะ) ยกระดับแบรนด์สู่ความเป็นสากลยิ่งขึ้น เพิ่มความทันสมัย เพิ่มความพรีเมี่ยม พิถีพิถันใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์ให้ลูกค้าสัมผัสกับความงามที่มีอำนาจ แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยการปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ถูกพัฒนามาเพื่อสุขภาพของเส้นผมที่ดียิ่งกว่า ซึ่งผลิตภัณฑ์รูปลักษณ์ใหม่ออกสู่ตลาดแล้วในเดือนตุลาคม

นอกจากนั้น บริษัทฯ เตรียมรุกทำการตลาดแบบ ออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง อย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปสู่ยุคดิจิทัล และเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคโดยตรง พร้อมเล็งขยายช่องทางการตลาดสู่กลุ่มโมเดิร์นเทรด นับเป็นการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าเดิมของบริษัทฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นร้านตัวแทนจำหน่ายและร้านเสริมสวยชั้นนำ โดยในกลุ่มลูกค้าเดิม บริษัทฯ ก็ยังคงทำการตลาดอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

“นับเป็นความกล้าหาญครั้งใหญ่ของบริษัทฯ ในการรีแบรนด์ ภายใต้ความกดดันของปัจจัยลบรอบด้านทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ส่อแววซบเซาทั่วโลก แต่เชื่อมั่นใจว่าวิกฤตครั้งนี้จะเป็นโอกาสทองของ บิวตี้ เบลนด์ เพราะศักยภาพขององค์กรและคุณภาพของสินค้าแบรนด์ NIGAO ที่ตรงใจผู้บริโภค ซึ่งบริษัทฯ ได้พิถีพิถันใส่ใจทุกขั้นตอนโดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ใช้งานสูงสุด ตลอดจนกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล ทั้งนี้มั่นใจว่าการรีแบรนด์องค์กร และแบรนด์ NIGAO จะได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า และหนุนให้ยอดขายปีนี้จะเติบโตมาอยู่ที่ 200 ล้านบาทได้” นายภูริวัฒน์ กล่าวปิดท้าย