เนสท์เล่ ตอกย้ำบริษัทผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก คว้า 2 รางวัลใหญ่แห่งปี ได้แก่ รางวัลองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2020 (HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2020) ในฐานะหนึ่งในองค์กรต้นแบบด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลของเอเชีย และรางวัล Thailand’s Most Admired Company 2020 สุดยอดองค์กรครองใจผู้บริโภคในกลุ่มธุรกิจอาหาร สะท้อนความมุ่งมั่นในการให้ความสำคัญกับบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ควบคู่กับการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและโภชนาการเหมาะสมให้แก่ผู้บริโภค
นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า “ในปีแห่งความท้าทายนี้ ทั้ง 2 รางวัลถือเป็นการตอกย้ำถึงการเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับบุคลากรทุกคนในฐานะทรัพยากรที่สำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงจุดเด่นของเนสท์เล่ที่สามารถนำเสนอนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มใหม่ ๆ เป็นรายแรกของตลาดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่มีความหลากหลาย รวมถึงการให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จนทำให้เนสท์เล่ ประเทศไทย สามารถครองใจผู้บริโภคชาวไทย ด้วยปรัชญาในการทำงานภายใต้ Good food, Good life อาหารที่ดีเพื่อสุขภาพที่ดี เราต้องการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีโภชนาการที่ดี ควบคู่ไปกับความอร่อย เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรง สอดคล้องเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ (Nestlé Purpose) ในการเปิดพลังแห่งอาหารเพื่อเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับทุกคนในวันนี้และในอนาคต
เนสท์เล่ ประเทศไทย ได้รับรางวัล องค์กรดีเด่นที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในเอเชีย เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รางวัลนี้จัดโดยนิตยสาร HR Asia สื่อชั้นนำด้านธุรกิจ ในทวีปเอเชีย โดยผลการตัดสินพิจารณาจากการประเมินของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละอุตสาหกรรม นักวิชาการ สื่อมวลชน ตัวแทนภาครัฐ รวมทั้งผลการสำรวจของพนักงานภายในองค์กร เพื่อตัดสินและคัดเลือกองค์กรชั้นนำที่ดีที่สุดและน่าทำงานด้วยในประเทศไทย
ขณะที่รางวัล Thailand’s Most Admired Company 2020 เนสท์เล่ได้คะแนนโดดเด่นในด้านนวัตกรรม ภาพลักษณ์องค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของเนสท์เล่ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจผู้บริโภคชาวไทยออกสู่ตลาดอยู่เสมอ และด้วยพันธกิจของเนสท์เล่ในการมุ่งสร้างอนาคตที่ปลอดขยะด้วยการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ภายในปี 2568 เนสท์เล่ จึงเป็นผู้นำในการนำเสนอนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง