จากการปรับตัวอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลาของ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป ส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563 เติบโตโดดเด่นด้วยรายได้จากธุรกิจคอมเมิร์ซที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2 ไตรมาสติดกันกว่า 644 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 45% จากไตรมาส 3 ปีก่อน หนุนกำไรสุทธิสูงถึง 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสที่ผ่านมากว่า 41% และ 20% ตามลำดับ แม้จะต้องเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจไทยและผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ อาร์เอส กรุ๊ป ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce เน้นการเติบโตเชิงรุกด้วยการเข้าถึงลูกค้า นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ผนวกกับการใช้โฆษณาและนำเสนอสินค้าที่แตกต่างแต่ตรงจุด ดันแคมเปญและโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้า สร้างการเติบโตนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 ในทุกธุรกิจ และมั่นใจว่าไตรมาส 4 การเติบโตของรายได้และกำไรจะดีต่อเนื่อง เปิดเกมออกผลิตภัณฑ์เพื่อเข้าสู่ตลาด Mass market อย่างเต็มตัว รุกการบริหารและสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ผนวกกับการเปิดตัวศิลปินใหม่ ผลักดันรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายปี 2563
นายวิทวัส เวชชบุษกร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 มีทิศทางปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 2 หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ในขณะที่ อาร์เอส กรุ๊ป ซึ่งมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ใช้กลยุทธ์การบริหารคอนเทนต์จากทุกธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงการบริหารข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ไตรมาส 3 ปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 938 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 6% และไตรมาสก่อนหน้าถึง 13% ในขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนกว่า 41% และไตรมาสก่อนหน้า 20% เป็นผลมาจากการเติบโตสูงจากรายได้ธุรกิจคอมเมิร์ซจำนวน 644 ล้านบาท รายได้ธุรกิจสื่อ 255 ล้านบาท รายได้ธุรกิจเพลงและอื่นๆ 40 ล้านบาท”
ทั้งนี้ รายได้ธุรกิจคอมเมิร์ซมาจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ไลฟ์สตาร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาร์เอส กรุ๊ป และสินค้าจากพันธมิตร ผ่านแบรนด์ RS Mall และ COOLanything บนแพลตฟอร์มช่อง 8 ช่องดิจิทัลทีวีพันธมิตร ทีวีดาวเทียม วิทยุ และสื่อออนไลน์ รวมถึงจำหน่ายผ่านร้านโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ นอกจากนี้ ความหลากหลายของโฆษณาที่แตกต่างแต่ตรงจุดในแต่ละคอนเทนต์ ส่งผลให้ฐานลูกค้ารวมทะยานสู่ 1.5 ล้านราย และบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการบริหารข้อมูลลูกค้า และพัฒนาความแม่นยำระบบ Predictive Dialing System (PDS) อย่างต่อเนื่อง ทำให้พนักงานเทเลเซลล์สามารถติดต่อลูกค้าได้เพิ่มขึ้น และเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มุ่งดูแลสุขภาพ ออกโปรโมชั่นที่ได้รับการตอบรับที่ดีทั้ง “Happy Mom รักสุดใจมอบให้แม่” “RS Mall 1st Anniversary ฉลอง 1 ปีแจกฟรี 3 ต่อ” และมีการทำ “Flash Sale” กระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง รวมถึงมุ่งสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าทุกคนผ่านการสะสมคะแนนทุกการใช้จ่ายเพื่อใช้เป็นส่วนลด หนุนให้รายได้ทั้งจากกลุ่มลูกค้าใหม่และลูกค้าเดิมเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนรายได้ธุรกิจสื่อมาจากการปรับตัวทั้งด้านการขาย และการบริหารคอนเทนต์เพื่อขยายไปในตลาดต่างประเทศและบนแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ (OTT) ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ “เก้าอี้สี่ขา” กลยุทธ์บริหารความเสี่ยง ที่สร้างรายได้แบบค้ำยันซึ่งกันและกัน ด้วยการวางเป้าหมายสร้างรายได้ช่อง 8 ให้แข็งแรงจากศักยภาพภายในอย่างแท้จริง ไม่พึ่งพารายได้ช่องทางใดมากเกินไป เพื่อสร้างการเติบโตตามที่ตั้งไว้ รวมถึงสื่อวิทยุ COOLfahrenheit เริ่มกลับมาจัดกิจกรรมสำหรับผู้ฟังได้อีกครั้ง ทำให้รายได้ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และการทำกำไรยังทำได้ดี
ด้าน นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อาร์เอส กรุ๊ป มุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้โมเดล Entertainmerce ขยายฐานให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าทุกแพลตฟอร์ม ในไตรมาส 4 นี้ จะยังคงเห็นพัฒนาการของอาร์เอส กรุ๊ป อย่างต่อเนื่อง และเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นทั้งช่องทางทั้งออฟไลน์และออนไลน์ จะได้เห็นผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ๆ มุ่งสู่ตลาด Mass Market ในส่วนของธุรกิจทีวี หรือช่อง 8 ยังคงผลักดันการบริหารและสร้างคอนเทนต์ใหม่บุกทั้งตลาดต่างประเทศและแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตสูงขึ้น และการกลับมาอย่างเต็มรูปแบบของคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมช่อง 8 ทั้งละครไทยและกลุ่มกีฬามวยนำโดย “Thai Fight” ยกระดับการแข่งขันมวยไทยขึ้นสู่ระดับสากล เพื่อสร้างเรตติ้งต่อเนื่องสู่ปี 2564 ในส่วนของธุรกิจเพลง เตรียมแผนเปิดตัวศิลปินใหม่ เพื่อต่อยอดสู่การดำเนินงานแบบ Star Commerce ร่วมกับธุรกิจคอมเมิร์ซเต็มรูปแบบ”
จากกลยุทธ์ของทุกกลุ่มธุรกิจในเครือภายใต้โมเดล Entertainmerce ที่ทำงานสอดประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงทำให้รายได้ของบริษัทฯ ทั้ง 2 ไตรมาสที่ผ่านมาเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด แม้ต้องเผชิญภาวะที่ยากลำบากจากสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นการยืนยันให้เห็นว่า อาร์เอส กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถดึงศักยภาพจากความเชี่ยวชาญของแต่ละกลุ่มธุรกิจขึ้นมาใช้ได้อย่างเต็มที่ คาดว่ารายได้ภายในสิ้นปี 2563 จะเป็นไปตามเป้าที่บริษัทฯ ตั้งไว้
สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามข่าวสาร และความเคลื่อนไหวต่างๆ ของ อาร์เอส กรุ๊ป ได้ทาง www.rs.co.th