บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยจำกัดเดินหน้าสนับสนุนการจัดหาโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ยางมะตอยเพื่อการปูพื้นผิวถนนอย่างยั่งยืน เผย 3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ธุรกิจยางมะตอยเชลล์ ในประเทศไทย ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทั้งการส่งมอบบริการอันเป็นเลิศเพื่อลูกค้าการสนับสนุนและตอบโจทย์นโยบายภาครัฐ และความสามารถในการรองรับปริมาณความต้องการได้อย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการลูกค้าครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการคลังยางมะตอย 24 ชั่วโมง ต้นปีหน้า
นายกมลพัทธ์ พหลโยธิน ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจยางมะตอย ไทย ลาว กัมพูชา และพม่า บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทยจำกัด กล่าวว่า “เชลล์มุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ยางมะตอย เพื่อใช้ในการสร้างถนนอย่างยั่งยืนมาโดยตลอด โดยมุ่งเน้นการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายภาครัฐและจัดหายางมะตอยให้เพียงพอต่อความต้องการอยู่เสมอ ทั้งนี้สอดคล้องกับพันธกิจของเราในการเป็นพันธมิตรที่สร้างถนนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของทุกคน ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 90 ปีของธุรกิจยางมะตอยในประเทศไทย เชลล์มีโซลูชั่นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพ มีความทนทานและคุณภาพสูง เราเชื่อมั่นว่าโซลูชั่นการปูพื้นผิวถนนด้วยยางมะตอยของเชลล์จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม และเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองหลักในการร่วมขับเคลื่อนเป้าหมายของรัฐบาลในอันที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านคมนาคมขนส่งในอาเซียนต่อไปในอนาคต”
โดย 3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ธุรกิจยางมะตอยประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างมาก ได้แก่
- การส่งมอบบริการอันเป็นเลิศเพื่อลูกค้าเชลล์ดูแลและให้การช่วยเหลือลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงที่ลูกค้าประสบปัญหา ธุรกิจยางมะตอยเชลล์ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าหลากหลายด้านไม่ว่าจะเป็น การช่วยบรรเทาปัญหาสภาพคล่องทางการเงินของลูกค้าแนะนำโซลูชั่นบริหารจัดการความเสี่ยงเกี่ยวกับต้นทุนของยางมะตอยปรับเวลาทำงานที่คลังยางมะตอยของเชลล์ให้เหมาะสมกับช่วงประกาศเคอร์ฟิวตามมาตรการป้องกันความปลอดภัยจากโควิด-19ของภาครัฐ จัดระบบความปลอดภัยขั้นสูงสุดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าตามความต้องการด้วยนวัตกรรมยางมะตอยมากกว่า 200 ชนิด
- สนับสนุนและตอบโจทย์นโยบายภาครัฐ ผลิตภัณฑ์ยางมะตอยทุกชนิดของเชลล์ มีคุณภาพในระดับสูงสุดของมาตรฐานอุตสาหกรรม และมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์นโยบายของภาครัฐในหลายระดับทั้งความต้องการตามมาตรฐานอุตสาหกรรมความต้องการเฉพาะที่ภาครัฐระบุเป็นพิเศษ เช่น Shell Mexphalte NRMA ที่สนับสนุนแนวคิดของรัฐบาลในการใช้ยางมะตอยที่มียางพาราเป็นส่วนผสมเพื่อการปูพื้นผิวถนน รวมถึงความต้องการที่เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เช่น ผลิตภัณฑ์ Shell Bitumen40-50 ซึ่งมีความคุ้มค่า แข็งแรงทนทาน และผลิตภัณฑ์ Shell Bitumen FreshAir ซึ่งมีทั้งเกรด 40-50 และ 60-70 และมีคุณสมบัติลดฝุ่น ลดกลิ่น ทั้งในขั้นตอนการผลิตและขณะปูผิวถนนเมื่อเทียบกับยางมะตอยทั่วไป
- รองรับปริมาณความต้องการได้อย่างต่อเนื่อง เชลล์สามารถบริหารจัดการส่งมอบผลิตภัณฑ์ยางมะตอยได้เพียงพอและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างฉับไว ในทุกสถานการณ์ โดยจัดส่งยางมะตอยให้ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเชลล์มีศักยภาพแบบครบวงจรและมีโครงข่ายโรงงานผลิตยางมะตอยทั้งในและนอกประเทศ นอกจากนี้ เครือข่ายศูนย์เทคโนโลยียางมะตอยระดับภูมิภาคของเชลล์ยังช่วยสนับสนุนให้การบริหารจัดการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าทำได้อย่างราบรื่นโดยเฉพาะในช่วง Peak Seasonที่มีความต้องการสูงขึ้น ในช่วงที่ประเทศมีความต้องการสูงหรือผลิตภัณฑ์ยางมะตอยในประเทศอาจมีไม่เพียงพอเชลล์พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตได้ตลอดเวลา โดยตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เชลล์เตรียมเปิดให้บริการคลังยางมะตอยตลอด 24 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า และรองรับความต้องการที่สูงขึ้นอย่างเต็มที่