นักวิเคราะห์มอง “บิตคอยน์” ปรับฐานในระยะสั้น แต่ “ทองคำ” น่าลงทุนในระยะยาว

นักลงทุนรุ่นใหม่เตือนระยะสั้น บิตคอยน์” อาจมีการปรับฐานลง หลังราคาพุ่งขึ้นมาอย่างร้อนแรงจนสามารถเอาชนะราคาทองคำได้  แต่ระยะยาวยังสามารถลงทุนได้ เช่นเดียวกันกับ ทองคำ อาจอาศัยช่วงที่ปรับฐานช่วงนี้ เป็นจังหวะเข้าเก็บลงทุนเพิ่มเติม ระยะยาวเชื่อว่ายังมีแนวโน้มขาขึ้น

บิตคอยน์พุ่งแรง ต้องระมัดระวัง

ณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า

“จากการที่ราคาบิตคอยน์ปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา จนถึงต้นปีนี้ล่าสุดอยู่ที่ 35,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือปรับเพิ่มขึ้นกว่า 22% สาเหตุคาดว่ากลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ทั้งนักลงทุนสถาบันและรายย่อย มองโอกาสเข้าไปซื้อบิตคอยน์ หลังจากที่สร้างจุดสูงสุดใหม่เหนือ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐในปี 2017 และกราฟเทคนิคเป็นขาขึ้น แต่การลงทุนในระยะสั้นๆ ที่ระดับราคาดังกล่าวถือว่ามีความเสี่ยงต่อการปรับฐานลง เพราะมีผู้ที่ได้กำไรจำนวนมากแล้ว อาจเกิดแรงเทขายทำกำไรออกมา และเครื่องมือทางเทคนิคยังบอกว่าราคาเข้าสู่ภาวะ Overbought มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ผู้ที่คิดจะเข้าซื้อบิตคอยน์ในช่วงนี้ต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง”

ดังนั้น หากไม่หลุดลงมาต่ำกว่าระดับ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ราคาจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นที่ 3 ซึ่งเป็นขาขึ้นที่ยาวนานที่สุด โดยมีเป้าหมายแนวต้านตามแนว Fibonacci 261.8 อยู่ที่ 47,000

ทั้งนี้มองโอกาสซื้อลงทุนทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เมื่อราคาย่อตัวลง ส่วนในระยะกลางและระยะยาวของบิตคอยน์ กราฟเทคนิคบ่งบอกว่า เป็นขาขึ้นค่อนข้างแน่ชัด

“ทองคำ” ราคาไม่ขึ้น แต่ยังน่าลงทุนระยะยาว

ด้านความเคลื่อนไหวราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์สหรัฐได้ และถูกเทขายลงมาจนผลตอบแทนติดลบ 2.3% เนื่องมาจากดัชนีดอลลาร์สหรัฐ พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นแรงสองวันติดกัน ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1.1% ในสัปดาห์ที่ผ่าน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.. 2020 ทำให้นักลงทุนบางส่วนหันมาย้ายพอร์ตลงทุนไปยังพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แทน

(Photo by Yoray Liberman/Getty Images)

อย่างไรก็ตาม มองว่าในระยะยาวทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน เพราะแนวโน้มใหญ่ของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ยังคงอ่อนค่า ซึ่งส่งผลดีต่อราคาทองคำ ขณะที่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังของสหรัฐฯ ยังส่งผลให้แนวโน้มเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทองคำจะเป็นทางเลือกในการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดี ประกอบกับอัตราดอกเบี้ย ยังไม่เห็นโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีนี้

มองว่า การปรับตัวลดลงแรงของทองคำในสัปดาห์ก่อน ถือเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเพื่อหวังกำไรในระยะกลางถึงยาว จากปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจมหภาคที่ยังหนุนราคาทองคำ ประกอบกับกราฟเทคนิคยังไม่เปลี่ยนแนวโน้มแต่อย่างไร หากไม่หลุดระดับ 1,760 ดอลลาร์สหรัฐ โดยมองเป้าหมายแรก หากราคาฟื้นตัว จะมีแนวต้านที่ 1,966 ดอลลาร์สหรัฐ และแนวต้านถัดไปที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ

เป็นไปได้ว่านักลงทุนที่ลงทุนในบิตคอยน์ และทองคำอาจจะเป็นคนละกลุ่มกัน แม้ว่าทั้งสองสินทรัพย์จะมีคุณสมบัติที่เป็น Store Of Value เหมือนกัน และถูกคาดหวังในการเป็นตัวแทนของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนในทองคำอาจจะเป็นกลุ่มอนุรักษนิยม ซึ่งยึดติดกับทฤษฎีการลงทุนเก่าที่ว่าทองคำจะเคลื่อนไหวผกผันกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และเงินเฟ้อ

ส่วนนักลงทุนในบิตคอยน์น่าจะเป็นนักลงทุนรุ่นใหม่ ทั้งรายย่อยและสถาบัน ที่ให้น้ำหนักกับปัจจัยเรื่องเทคโนโลยีที่มีอยู่ในบิตคอยน์ ซึ่งเหมาะสมกับการเป็นสินทรัพย์ในยุคดิจิทัลมากกว่าทองคำ

ทำให้ช่วงที่ผ่านมาราคาบิตคอยน์สามารถเอาชนะทองคำในแง่ผลตอบแทนมาได้ตลอด จากความคาดหวังว่าบิตคอยน์ จะเป็นสินทรัพย์แห่งอนาคต ถึงอย่างไรทั้งสองสินทรัพย์ต่างมีอนาคตที่ดีทั้งคู่

ทั้งบิตคอยน์ และทองคำ ต่างมีศักยภาพในการที่จะสร้างจุดสูงสุดใหม่ในแง่ของราคาได้ นักลงทุนอาจเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเหมาะสมกับตัวเอง ถ้ารับในความเสี่ยงและความหวือหวาได้ ก็เลือกเทรดทำกำไรในบิตคอยน์ ส่วนนักลงทุนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงเรื่องราคามากนัก ก็เลือกลงทุนในทองคำ