เมื่อกล่าวถึงการนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง 5G, AI, ICT, และ IoT มาประยุกต์ใช้กับบริการหรือสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน เรามักจะนึกถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มความสะดวกสบายในอุตสาหกรรมที่มีการใช้เทคโนโลยีเครือข่ายเป็นหัวใจสำคัญอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นในอุตสาหกรรมไอทีซึ่งนำนวัตกรรมใหม่ดังกล่าวมาช่วยให้การจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นไปได้อย่างรวดเร็วการนำ5G มาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเพื่อให้บริการเครือข่ายการเชื่อมต่อความเร็วสูงสุดแก่ทั้งผู้บริโภคและองค์กร หรือแม้แต่ด้านสาธารณสุขที่นำ ICT มาประยุกต์ใช้ในการดูแลรักษาผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเทคโนโลยีดังกล่าวนอกจากจะส่งผลให้บริการมีความรวดเร็วมากกว่าเดิมหลายเท่าตัวยังช่วยเพิ่มศักยภาพให้แก่กระบวนการดำเนินงานในอุตสาหกรรมนั้น ๆ ได้เป็นอย่างมากอย่างไรก็ตาม การนำนวัตกรรมล้ำสมัยดังกล่าวมาปรับใช้ด้านคมนาคมและการสัญจรนั้นยังเป็นเรื่องที่ไม่ได้รับการพูดถึงอย่างแพร่หลายมากนัก ทั้งที่การคมนาคมถือเป็นหัวใจสำคัญของเมืองใหญ่ทุกแห่งบนโลก
เมื่อไม่นานมานี้ หัวเว่ยได้ร่วมนำนวัตกรรมดังกล่าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับการเปิดให้บริการทางด่วนอัจฉริยะจากเวียงจันทน์ถึงวังเวียง ซึ่งร่วมก่อสร้างและพัฒนาโดยบริษัท Yunnan Construction and Investment Holding Group ด้วยความร่วมมือจากรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวทางด่วนเวียงจันทน์-วังเวียงนี้ถือเป็น “ทางด่วนอัจฉริยะแห่งแรก” ของประเทศลาวทั้งนี้ หัวเว่ยและพันธมิตรYunnan Huayuan Electronics Co., Ltd ได้ร่วมสร้างแพลตฟอร์ม ICT อัจฉริยะที่มีความเสถียรและปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี ICTเทคโนโลยีประมวลผลบน Cloud และระบบจัดการความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกโดยติดตั้งอุปกรณ์การสื่อสารและส่งสัญญาณตลอดเส้นทางเสริมความแกร่งด้วยระบบวิเคราะห์ Big Data และวิธีการทางเทคนิคอื่น ๆเพื่อสร้างโซลูชันดิจิทัลผสมผสานที่สามารถรองรับการบริการและการจัดการได้ทุกรูปแบบ เช่น ระบบตรวจสอบติดตามอัจฉริยะแบบเรียลไทม์ ระบบเก็บค่าบริการ ระบบรับมือเหตุฉุกเฉิน และการวิเคราะห์อื่น ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ โครงข่าย 5G ที่จะนำมาใช้งานในประเทศลาวในปี พ.ศ.2564ยังจะถูกนำมาประยุกต์ใช้กับทางด่วนอัจฉริยะเส้นนี้ด้วย โดยเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ผสมผสาน 5G และ AI จะยกระดับและเสริมประสิทธิภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ของประเทศลาวด้วยเช่นกัน
จุดเริ่มต้นของทางด่วนเวียงจันทน์-วังเวียง ตั้งอยู่ในเมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทศลาว และสิ้นสุด ณ เมืองวังเวียง หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อที่สุดของประเทศลาว การเปิดให้บริการทางด่วนสายนี้จะช่วยยกระดับประสิทธิภาพการคมนาคมในท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง รวมทั้งสร้างประโยชน์และเสริมคุณภาพชีวิตให้กับผู้คนในท้องถิ่น
นักท่องเที่ยวในพื้นที่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าตนประทับใจกับประสบการณ์การเดินทางบนทางด่วนสายเวียงจันทน์-วังเวียงตลอดสาย โดยชื่นชมสิ่งปลูกสร้างวิศวกรรมไฮเทค คอนเซ็ปต์ที่ทันสมัย และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่เสริมการขับขี่ให้มีความปลอดภัย นอกจากนี้ระบบชำระค่าทางด่วนแบบอิเล็กทรอนิกส์(ETC) ยังช่วยเสริมให้การจราจรคล่องตัวเป็นระเบียบเรียบร้อย และสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ปัจจุบัน เทคโนโลยี ICT รูปแบบต่าง ๆมีบทบาทในระบบคมนาคมรวมทั้งอุตสาหกรรมอื่น ๆ มากกว่าที่เคยนอกจากนี้ เทคโนโลยียังช่วยเสริมให้การคมนาคมมีความปลอดภัยยิ่งขึ้นช่วยมอบความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของผู้คนให้มากขึ้นทั้งยังเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมด้านอื่น ๆผ่านโลกแห่งการเชื่อมต่ออัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย