แม้ว่าจะเพิ่งกระโดดเข้าสู่สนาม E-Commerce ได้เพียงแค่ 2 ปีกว่า แต่ เจดีเซ็นทรัล มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นทุกปี ล่าสุดได้เผยตัวเลขปี 2563 ที่ผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพึงพอใจ โดยเมื่อเทียบกับปี 2562 พบว่ายอดขายสูงขึ้นถึง 165% อัตราการเติบโตของผู้ใช้งานใหม่สูงถึง 43% และยอดซื้อเฉลี่ยต่อบิลเพิ่มขึ้น 25% โดยกลุ่มสินค้าที่ทำรายได้อย่างต่อเนื่องเป็นอันดับแรก ๆ คือ สินค้าในหมวดไอที สมาร์ทโฟน และแทปเล็ต หมวดสินค้าแม่และเด็ก หมวดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หมวดสินค้าสุขภาพและความงาม ตลอดจนหมวดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สำนักงาน
นอกจากจะได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าแล้ว เจดีเซ็นทรัลยังได้รับความเชื่อมั่นจากผู้ประกอบการทั้งแบรนด์อินเตอร์ และแบรนด์ชั้นนำในประเทศ ไปจนถึงผู้ประกอบการรายย่อยที่จำหน่ายสินค้ากับเจดีเซ็นทรัล ทำให้มีผู้จำหน่ายสินค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 87% มีคลังสินค้ากระจายไปในเส้นทางที่จะออกหัวเมืองหรือภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการจัดส่ง อีกทั้งเจดีเซ็นทรัลยังมีเจ้าหน้าที่จัดส่งสินค้าหรือเจดีแมน ที่คอยให้บริการจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีพาร์ทเนอร์ที่เป็นผู้ประกอบการขนส่งเอกชนร่วมจัดส่งสินค้าไปยังปลายทาง ล่าสุด เจดีเซ็นทรัลได้ทำสถิติการจัดส่งสินค้า “ถึงมือลูกค้าได้เร็วที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 55 นาที”
“เราใช้ Innovation & Technology จากเจดีดอทคอม ผสานกับความเข้าใจใน insight และ journey ของลูกค้า และความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อเซ็นทรัลกรุ๊ปมายาวนานกว่า 70 ปี ทำให้เจดีเซ็นทรัล กลายเป็นแพลตฟอร์มในดวงใจของลูกค้าที่มองหาสินค้าคุณภาพของแท้ 100% ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์จากผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย จากทั้งในและต่างประเทศ” นายวินเซนต์ หยาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจดีเซ็นทรัล กล่าว
ตลอดปี 2563 ที่ผ่านมา เจดีเซ็นทรัล ยังมีกิจกรรมตอบแทนสังคม ด้วยการประสานความร่วมมือกิจกรรมกับทุกภาคส่วน อาทิ การร่วมบริจาคสมทบทุนแก่มูลนิธิรามาธิบดี เพื่อสมทบทุนซื้อเครื่องมือแพทย์แก่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ และในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เจดีเซ็นทรัลยังได้สมทบทุนจัดซื้อเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ให้กับโรงพยายาล 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลลำปาง โรงพยาบาลขอนแก่น โรงพยาบาลมหาสารคาม โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลสงขลา และโรงพยาบาลปัตตานี รวมถึงเข้าร่วมโครงการร่วมมือกับภาครัฐ ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการที่เป็นกลุ่มร้านค้าขนาดกลางและขนาดย่อม และเครือข่ายจากภาครัฐ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเยาวชน ในการเปิดร้านจำหน่ายบนแพลตฟอร์มเจดีเซ็นทรัล เช่น โครงการตลาดรวมใจไทยช่วยไทย, โครงการ JOY ฟาร์ม, โครงการ JOY ช่วยไทย ชาวสวนอยู่ได้ ประเทศไทยอยู่รอด, โครงการชวนกันมาช้อป น้อง ๆ สุขใจ เป็นต้น โดยมีมาตรการช่วยเหลือร้านค้าเหล่านี้ด้วยการยกเว้นค่าแรกเข้า ค่าเปิดร้าน ค่าสมัคร ค่าดำเนินการ และค่าคอมมิชชั่นนาน 3 เดือน และบริการฝึกอบรมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง
สำหรับปี 2564 เจดีเซ็นทรัล ยังคงมุ่งมั่นที่จะตอกย้ำการรับรู้ในการเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีความน่าเชื่อถือ ตลอดจนสร้างความมั่นใจในมิติต่าง ๆ
– ในมิติของลูกค้า คือการได้รับประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ดีพร้อมกับได้รับความสะดวกสบายจากการช้อปปิ้งกับเจดีเซ็นทรัล
– ในมิติของผู้ประกอบการ เจดีเซ็นทรัลมีศักยภาพและมีความพร้อมที่จะช่วยดูแลผู้ประกอบการทุกรายในแพลตฟอร์มให้เติบโตไปด้วยกัน ด้วยการทำการตลาดร่วมกับผู้ขายทุกระดับ
– ในมิติของพันธมิตรทางการค้า เจดีเซ็นทรัลจะสามารถช่วยให้คู่ค้ามีผลกำไรและเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างยั่งยืน
– ในมิติของชุมชนและสังคม เจดีเซ็นทรัลก็เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย ได้มีโอกาสเปิดร้านจำหน่ายบนแพลตฟอร์มเจดีเซ็นทรัลโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาที่ซับซ้อน ทั้งการเปิดรับผู้ประกอบการรายย่อยช่วงการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือการจับมือกับกลุ่มเกษตรกรในการนำผลผลิตทางการเกษตรมาจำหน่ายบนแพลตฟอร์ม
ด้วยวิสัยทัศน์ของเจดีเซ็นทรัล ที่ตอกย้ำเรื่องการจำหน่ายสินค้าคุณภาพ การันตีแบรนด์ของแท้ 100% มาโดยตลอดนั้น ทำให้เจดีเซ็นทรัลพลิกเกมการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซ จากสงครามราคามาสู่การสร้างความไว้วางใจ โดยส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุด ในทุก ๆ ด้านให้แก่ลูกค้า ทั้งเรื่องคุณภาพสินค้า ความเชื่อมั่นในมาตรฐานการจัดส่งที่รวดเร็ว และความปลอดภัยจากการจัดส่งสินค้าในช่วงสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตลอดจนกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ จึงทำให้เจดีเซ็นทรัลสามารถครองใจเหล่านักช้อปออนไลน์ที่มองหาของแท้จากอีคอมเมิร์ซที่ได้เต็ม ๆ เพราะถ้าเมื่อไรที่พูดถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์แท้ 100% แล้วละก็ แน่นอนว่า เจดีเซ็นทรัลเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน