Drivehub ประสบความสำเร็จอีกขั้นกับการระดมทุนกว่า 30 ล้านในรอบ Series A นำโดย KK Fund และนักลงทุนอื่นๆ

Drivehub แพลตฟอร์มรถเช่าออนไลน์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ซึ่งรวบรวมผู้ให้บริการรถเช่าทั้งรายใหญ่ (ระดับนานาชาติ) และรายย่อย (ระดับท้องถิ่น) หลายร้อยรายในประเทศเข้าไว้ด้วยกัน ได้ประกาศผลการระดมทุนในรอบ Series-A มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท จากทั้งบริษัทในประเทศและต่างประเทศ นำโดยโตโยต้าทูโช (ไทยแลนด์), CAC Capital (CVC จากประเทศญี่ปุ่น) และ KK Fund โดย Drivehub ได้มีแผนที่จะนำเงินทุนส่วนนี้ไปใช้สำหรับการขยายฐานลูกค้า พัฒนาซอฟต์แวร์ และระบบเทคโนโลยี ตลอดจนขยายการบริการสู่ตลาดใหม่สู่ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์

ข้อมูลอ้างอิงจากธนาคารโลกปี 2017 พบว่าสัดส่วนตัวเลขจำนวนผู้ถือครองบัตรเครดิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีเพียงเล็กน้อย โดยแบ่งเป็น มาเลเซีย 21%, อินโดนีเซีย 2% และประเทศไทย 10% ผู้ที่ไม่ได้ถือครองบัตรเครดิตจึงมีข้อจำกัดในการเลือกเช่ารถมากกว่า ซึ่งจำเป็นต้องเช่ารถผ่านผู้ให้บริการรถเช่าท้องถิ่นเท่านั้น โดยส่วนแบ่งตลาดของการเช่ารถโดยไม่ใช้บัตรเครดิต(เช่ารถด้วยเงินสด)ในประเทศไทยนั้นมีมากถึง 52% ทีเดียว

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมนี้มีรูปแบบการให้บริการและใช้จ่ายผ่านระบบออนไลน์มากยิ่งขึ้น ผู้ให้บริการรถเช่าท้องถิ่นหลายเจ้าจึงขาดซึ่งกำลังทรัพย์ และองค์ความรู้ที่จะพัฒนาช่องทางออนไลน์ในการให้บริการด้วยตัวเอง Drivehub ผู้ซึ่งเล็งเห็นถึงปัญหานี้จึงตอบสนองต่อความต้องการของผู้เช่าด้วยการรวบรวม และให้บริการที่สนับสนุนต่อการเช่าทั้งสองรูปแบบ คือการเช่ารถด้วยบัตรเครดิต จากผู้ให้บริการรายใหญ่ระดับนานาชาติ (เช่น Hertz, Dollar, Sixt ฯลฯ) และการเช่ารถด้วยเงินสดจากผู้ให้บริการรายย่อยระดับท้องถิ่น

ด้วยการร่วมมือกับนักลงทุนใหม่ โตโยต้าทูโช (ไทยแลนด์) ผู้ซึ่งมีความหลากหลายในการทำธุรกิจ และการให้บริการ อาทิเช่น การขาย-รับซื้อรถยนต์ใหม่หรือใช้แล้ว, ไฟแนนซ์รถยนต์, ประกันรถยนต์ ตลอดจนการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ จะสามารถสนับสนุนเพื่อต่อยอด และส่งเสริมธุรกิจของ Drivehub ให้เติบโตขึ้นอย่างมั่นคง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มอย่างหลากหลายมากขึ้นในอนาคต รวมถึงผู้ให้บริการเช่ารถรายย่อยระดับท้องถิ่นบนแพลตฟอร์มของ Drivehub ทุกคน ที่จะได้เข้าถึงโอกาสในการพัฒนา และต่อยอดธุรกิจของตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป

จากช่องทางในการพัฒนาธุรกิจที่มีเพิ่มขึ้นอย่างหลากหลาย พร้อมกับวิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ได้พิสูจน์แล้วว่าประสบผลสำเร็จ ทำให้ Drivehub เติบโตขึ้นถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทำให้ยอดขายตกลงกว่า 90% ในช่วงเดือนเมษายน แต่ Drivehub ก็สามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว

“Drivehub จะนำเงินทุนที่ได้มาไปใช้เพื่อขยายธุรกิจให้ไปสู่ระดับภูมิภาค ในขณะเดียวกันเราก็ยังคงเปิดกว่าและมองหาช่องทางอื่นๆที่จะพัฒนารูปแบบธุรกิจรถเช่าแบบดั้งเดิมนี้ให้เข้าไปสู่ Mobility Sector มากขึ้น เช่น การเช่ารถในรูปแบบ Subscription Model รวมถึงการให้เช่ารถแบบ Peer-2-Peer (Sharing Economy)” คุณธัชชัย เชื้อประไพศิลป์ CEO และ Co-founder กล่าว

คุณพิทยา ญาณสมบูรณ์ COO และ Co-founder ของ Drivehubได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป้าหมายของเราคือการเป็นแพลตฟอร์มให้บริการค้นหารถเช่าแบบครบวงจรที่รวบรวมผู้ประกอบการที่มีมาตรฐาน และความเป็นมืออาชีพเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของเราทุกคนจะได้รับประสบการณ์การเช่ารถที่ดี ทั้งในด้านความสะดวกสบายในการจอง การเปรียบเทียบราคา และความมั่นใจในคุณภาพ เพราะได้เห็นรูปจริงของรถที่ต้องการจะใช้บริการ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนทำการจอง ตลอดจนได้รับการบริการที่มีมาตรฐานจากทั้งพนักงานของ Drivehub และผู้ประกอบการรถเช่าที่อยู่ในแพลตฟอร์มของเรา”

เกี่ยวกับ Drivehub

Drivehub คือ แพลตฟอร์มออนไลน์เจ้าใหญ่ และเจ้าแรกในไทยที่รวบรวมผู้ให้บริการเช่ารถทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ในรูปแบบ B2C ซึ่งสามารถรองรับทั้งผู้ที่ต้องการเช่ารถที่มีบัตรเครดิต และไม่มีบัตรเครดิต กับทั้งที่ต้องการเช่ารถเพื่อขับเอง หรือเช่ารถพร้อมคนขับ

เกี่ยวกับ Toyota Tsusho ประเทศไทย

Toyota Tsusho (Thailand) คือ คือผู้นำธุรกิจนำเข้า-ส่งออก ธุรกิจนายหน้าตัวแทน ธุรกิจบริการ ธุรกิจซื้อขาย และธุรกิจค้าปลีกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจร่วมทุนกับบริษัทต่างๆ มากกว่า 80 บริษัท และบริษัท โตโยต้าทูโช คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่มีบริษัทในเครือมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก

เกี่ยวกับ CAC Capital

CAC CAPITAL เป็นบริษัทนักลงทุนที่เน้นกลยุทธิ์การลงทุนอย่างหลากหลายกับบริษัททางด้านไอที และเทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ต่างๆ

เกี่ยวกับ KK Fund

KK Fund เป็นบริษัทลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่อยู่ในระยะเริ่มต้นของธุรกิจภายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งที่มากประสบการณ์และมีผลงานการลงทุนที่ผ่านมาอย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการ Exit จากบริษัทที่ลงทุนจนประสบผลสำเร็จไปแล้วหลายบริษัท รวมไปถึงการได้มีส่วนร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นอีกด้วย KK Fund ได้รับการสนับสนุนจากผู้ลงทุนในหลากหลายรูปแบบ นับตั้งแต่นักธุรกิจแนวหน้า บริษัทลงทุน ตลอดจนนักลงทุนทั่วไป โดย KK Fund จะคอยสนับสนุนผู้ก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพทั้งหลายในช่วงระยะเริ่มต้นธุรกิจของพวกเขา ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังจะช่วยดึงศักยภาพในตัวพวกเขาเหล่านั้นออกมา เพื่อมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจทำให้เติบโตและเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จต่อไป