บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR คาดการณ์หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID–19 คลี่คลาย หลังหลายประเทศเริ่มทยอยฉีดวัคซีน จะทำให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ภาคธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์กลับมาเปิดกิจการได้ ส่งผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมถุงยางอนามัยฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา วางเป้าหมายผลักดันยอดขายของบริษัทฯ ในปีนี้เติบโต 10% เตรียมความพร้อมรุกเจรจาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายสินค้าแบรนด์ PLAYBOY ในภูมิภาค
นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID–19) ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในรอบปีที่ผ่านมา โดยหลายประเทศได้บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมสถานการณ์และแก้ไขปัญหาโรคระบาดที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจรวมถึงภาพรวมอุตสาหกรรมถุงยางอนามัยที่มีความต้องการใช้สินค้าลดลงเมื่อเทียบกับปี 2562 เนื่องจากธุรกิจด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ได้รับผลกระทบจากการถูกจำกัดช่วงเวลาการเปิดให้บริการ
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าในปี 2564 แนวโน้มอุตสาหกรรมถุงยางอนามัยมีโอกาสฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ หลังจากที่วงการแพทย์ได้พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค COVID–19 ได้เป็นผลสำเร็จและหลายประเทศได้เริ่มทยอยฉีดวัคซีนแก่ประชาชน เพื่อให้สถานการณ์การแพร่ระบาดคลี่คลายกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งจะส่งผลดีต่อการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ภาคธุรกิจด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์กลับมาเปิดดำเนินกิจการได้เช่นเดียวกับช่วงก่อนเกิด COVID–19 และทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกทยอยฟื้นตัวดีขึ้น หากเริ่มมีการผ่อนคลายเปิดประเทศให้สามารถเดินทางเจรจาธุรกิจกับประเทศต่าง ๆ ได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่หลายประเทศใช้นโยบายคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มงวด ดังนั้นบริษัทฯ จึงวางเป้าหมายผลักดันยอดขายปี 2564 เติบโต 10% โดยได้เตรียมความพร้อมด้านกำลังการผลิตเพื่อรองรับโอกาสในการขายสินค้า รวมถึงวางแผนเตรียมความพร้อมด้านการเพิ่มผู้แทนจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ PLAYBOY ในต่างประเทศ เช่น ทวีปยุโรป อเมริกาใต้ เป็นต้น
Related