ช่วง 2-3 ปีมานี้หลายธุรกิจมีการปรับตัวในรูปแบบใหม่ๆ “Collaboration Marketing” ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เราได้เห็นกันบ่อย เช่นเดียวกับสองนิตยสารแบรนด์ดังจากค่ายสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ อย่างนิตยสารการ์ตูนไทยขายหัวเราะ แห่งบริษัทวิธิตากรุ๊ป จำกัด และนิตยสารบ้านและสวน แห่งบริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่หันมา Collaboration สร้างคอนเทนต์ให้ผู้อ่านของทั้งสองกลุ่มได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่
นางสาวพิมพ์พิชา อุตสาหจิต กรรมการบริหาร บริษัทวิธิตากรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ขายหัวเราะธีม “บ้านและสรวล” เกิดจากไอเดียที่ช่วงนี้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้าน ทำงานที่บ้านกันเป็นส่วนมาก เนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ขายหัวเราะมีโอกาสได้คุยกับทางนิตยสารบ้านและสวน นิตยสารเกี่ยวกับบ้านและการตกแต่งอันดับต้นๆของเมืองไทย ถึงการสร้างสรรค์คอนเทนต์ร่วมกัน และเห็นว่าแบรนด์ของเราสามารถ Collaboration กันได้ในธีมฉบับนี้
นอกจากหน้าปกที่ Collaboration จนทำให้ทั้งสองแบรนด์ดูแปลกตาขึ้น เนื้อหาข้างในเล่มก็มีการแลกเปลี่ยนคอนเทนต์ในแบบที่แต่ละฝ่ายเชี่ยวชาญ อย่างเล่มขายหัวเราะ นอกจากมีการ์ตูนอารมณ์ดีและมุกตลกทั่วไปให้อ่านเช่นเคยแล้ว ยังจะมีส่วนพิเศษเพิ่มเติม เช่น เกร็ดพิเศษสนุกๆ เกี่ยวกับการอยู่บ้านที่ทางนิตยสารบ้านและสวนนำเนื้อหามาให้เล่าในสไตล์สนุกสนาน หรือการออกแบบบ้านด้วยกิมมิกคาแร็กเตอร์การ์ตูน เช่น ห้องนอนของปังปอนด์ สวนหลังบ้านของหนูหิ่น หรือบ้านอยู่สบายสไตล์คู่รักเกษียณสำราญของครอบครัวคุณโฉลง รวมถึงหน้าปกที่มีความพิเศษจากฉบับทั่วไป ด้วยการใช้ฉากภาพจริงมาผสมผสานกับการ์ตูน ในขณะที่นิตยสารบ้านและสวนก็เล่าเรื่องต่างๆ ผ่านลายเส้นขายหัวเราะ หรือเล่าเรื่องราวของนักเขียนขายหัวเราะในแบบฉบับของบ้านและสวนเช่นกัน
การ Collaboration ในครั้งนี้ ทั้งสองแบรนด์หวังให้ต่างฝ่ายต่างเข้าถึงกลุ่มคนอ่านของกันและกัน คุณพิมพ์พิชาบอกว่า นับเป็นความสนุกในการทำงาน และปรากฏการณ์ใหม่ที่แบรนด์คอนเทนต์สององค์กรที่มีกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่ม มาสร้างสรรค์เพื่อนำพาความสนุกรูปแบบใหม่ให้แก่คนอ่าน
คุณพิมพ์พิชากล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จักรวาลของขายหัวเราะมีอยู่ 4 Pillar หลัก คือ พลังของภาพวาดการ์ตูน & คาแร็กเตอร์ / พลังของการเล่าเรื่อง storytelling / ความคิดสร้างสรรค์ / อารมณ์ขันและความสุขสนุกสนาน ซึ่งทั้ง 4 Pillar สามารถเพิ่มมูลค่า ต่อยอดแบรนด์ และทำให้ขายหัวเราะเข้าถึงได้ทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นการตลาด การศึกษา edutainment หรือการสร้าง creative economy โดยเฉพาะปัจจุบันที่เป็นโลกของ Content Marketing ที่ทุกแบรนด์ต้องสื่อสารสตอรี่และจุดเด่น ทำให้หลายองค์กรหันมาทำการตลาดผ่านคาแร็กเตอร์การ์ตูน หรือใช้อารมณ์ขันเป็นสื่อโฆษณามากขึ้น เนื่องจากสามารถเล่าเรื่องยากหรือซับซ้อนให้กลายเป็นเรื่องเข้าใจง่ายสนุกสนาน และเข้าถึงผู้รับสาร ซึ่งเหมาะกับรสนิยมของคนไทยที่ชอบความบันเทิง ดังนั้น ขายหัวเราะจึงเป็นแบรนด์ที่ต่อยอดได้ไม่จำกัด ทั้งในส่วนของ Product และ Service ของขายหัวเราะเอง รวมถึงความร่วมมือกับแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าแบรนด์นั้นจะอยู่ในอุตสาหกรรมอะไรก็ตาม หลังโปรเจ็กต์ ‘ขายหัวเราะ ฉบับ บ้านและสรวล’ นี้ ในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็นสินค้า Merchandise เกี่ยวกับการใช้ชีวิตที่บ้านเป็นลายเส้นของขายหัวเราะก็ได้
ทางด้าน นายดำรง ลี้ไวโรจน์ บรรณาธิการอำนวยการ นิตยสารกลุ่ม Living บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการร่วมมือกันในครั้งนี้ว่า บ้านและสวนและขายหัวเราะมีความเกี่ยวข้องและคล้ายคลึงกันหลายๆอย่าง ด้วยเนื้อหาที่พูดถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย แต่แตกต่างกันด้วยมุมมองและรูปแบบในการนำเสนอ บ้านและสวนเน้นไปในเรื่องที่อยู่อาศัย นำเสนอด้วยการให้ข้อมูลความรู้ ส่วนขายหัวเราะเป็นการสะท้อนเรื่องชีวิตของผู้อยู่อาศัยด้วยมุมมองแบบอารมณ์ขัน โดยทั้งคู่มีเป้าหมายที่เป็นจุดร่วมกันคือการให้ผู้อ่านมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านเนื้อหาในรูปแบบของตัวเอง
“ปกติในทุกๆปีนิตยสารบ้านและสวนจะตั้งโจทย์ในการทำงานร่วมกับศิลปินและนักวาดภาพประกอบที่มาร่วมสร้างสรรค์ปกนิตยสารในฉบับกันยายนของทุกปี ซึ่งเป็นเดือนเกิดอยู่แล้ว แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานร่วมกับสิ่งพิมพ์สอง แบรนด์ ความพิเศษของนิตยสารบ้านและสวนฉบับนี้จึงไม่ใช่แค่การได้รับเกียรติจาก ‘อาวัฒน์’ นักเขียนการ์ตูนระดับตำนาน มาร่วมวาดภาพปกให้ ในเล่มยังมีการผสมกลิ่นอายความสนุกสนานแบบขายหัวเราะลงไป ทั้งเนื้อหาและภาพประกอบที่เป็นลายเส้นการ์ตูนจากนักเขียนหลายคน”
นายดำรง ลี้ไวโรจน์กล่าวถึงแนวคิดของบ้านและสวนฉบับนี้ว่า เมื่อนึกถึงส่วนผสมระหว่างบ้านและสวนกับขายหัวเราะ สิ่งแรกที่นึกถึงคือเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นในบ้าน นิตยสารบ้านและสวนฉบับพิเศษนี้จึงนำเสนอด้วยแนวคิด ‘Happy Home’ ซึ่งเราเชื่อว่าความสุขจะเกิดขึ้นในบ้านได้ สิ่งสำคัญต้องมาจากการมีสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่ดีและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในบ้าน โดยเราจะพาไปถึงบ้านของ “คุณต่าย ขายหัวเราะ” ซึ่งเป็นต้นกำเนิดคาแร็กเตอร์การตูนดังปังปอนด์ และอาสาไปปรับแต่งมุมทำงานของ “คุณเฟน แห่งสาวดอกไม้กับนายกล้วยไข่” ให้สวยงามน่าใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ยังฝากไอเดียในการตกแต่งบ้านและการเลือกต้นไม้ไปฝากผู้อ่านในเล่มขายหัวเราะอีกด้วย
“จากวันแรกที่บ้านและสวนเปิดตัวบนแผงนิตยสารตั้งแต่ปีพ.ศ 2519 จนถึงวันนี้ที่กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 ในขณะที่ขายหัวเราะมีอายุ 48 ปี ปัจจุบันบ้านและสวนได้ขยาย Platform ในการนำเสนอออกไปในหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆให้ผู้อ่านในมิติต่างๆ ทั้งงานบ้านและสวนแฟร์ ออนไลน์คอนเทนต์ รายการทีวี รวมถึงรูปแบบล่าสุดคือ Online Learning Classroom นอกจากนั้นยังต่อยอดเป็น Sub brand เพื่อให้สามารถถ่ายทอดเนื้อหาไปในกลุ่มที่เกี่ยวข้องได้อย่างลงลึกมากขึ้น ทั้งบ้านและสวน Pets ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง และบ้านและสวน Garden & Farm ซึ่งเป็นเรื่องการทำเกษตรกรรม
“โดยโปรเจ็กต์พิเศษในการทำงานร่วมกันระหว่างขายหัวเราะไม่ได้มีเพียงแค่นิตยสารสองเล่มนี้เท่านั้น แต่ยังกระจายไปยังออนไลน์คอนเทนต์ในช่องทางต่างๆ รวมถึงกิจกรรมสนุกๆที่ทำร่วมกันในงานบ้านและสวนแฟร์ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17-21 มีนาคม 2564 ณ ไบเทค บางนา”
สามารถ Pre-Order นิตยสารบ้านและสวน ฉบับที่ 535 ประจำเดือน มีนาคม 2564 + นิตยสารขายหัวเราะ ฉบับ บ้านและสรวล ราคา 150 บาท ได้ทาง https://www.naiin.com/category?bannerid=4608 หรือร้านหนังสือนายอินทร์ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้-1มีนาคม 2564
Related