บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดผลประกอบการประจำปี 2563 มีรายได้รวม 32,062 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 9,557 ล้านบาท เดินหน้าลงทุนโครงการใหม่ตามแผน โดยโครงการใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และเซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา
รีเทลกระทบหนัก แต่ CPN ยังมีกำไร
นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยงของเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า
“ปี 2563 เป็นปีที่ท้าทายในการทำธุรกิจ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่กระทบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเป็นวงกว้าง โดยบริษัทฯ มีรายได้รวม 32,062 ล้านบาท ลดลง 17% และมีกำไรสุทธิ 9,557 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน”
แม้ว่าผลการดำเนินงานจะมีรายการที่มิได้เกิดขึ้นเป็นประจำ และผลกระทบจากมาตรฐานรายงานทางการเงินใหม่ แต่ในภาพรวมนั้นบริษัทฯ ได้บริหารจัดการอย่างสุดความสามารถ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจาก COVID-19 และดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือร้านค้าและผู้เช่าภายในศูนย์การค้า เพื่อร่วมกันเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา และการร่วมมือภาครัฐอย่างเต็มที่ในการเปิด-ปิดให้บริการศูนย์การค้าชั่วคราวเพื่อช่วยลดการแพร่ระบาด
โดยศูนย์การค้าได้กลับมาเปิดให้บริการทุกแห่งตามปกติ ตั้งแต่ช่วงกลางไตรมาส 2 ปี 2563 เป็นต้นมา ใช้มาตรการสะอาดปลอดภัยเชิงรุก สามารถเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ส่งผลให้จำนวนทราฟฟิกในสาขาส่วนใหญ่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็ว และกลับมามากกว่า 90% จากช่วงสถานการณ์ปกติ
แม้ว่าจะเกิดการระบาดของ COVID-19 ระลอกที่สองในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม 2563 และช่วงเดือนมกราคม 2564 แต่โดยรวมแล้วผลกระทบถือว่าไม่มากเท่าการระบาดรอบแรก และปัจจุบันเริ่มเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีขึ้นในหลายศูนย์การค้า
เปิด 2 โครงการในปลายปี
ในปีนี้ยังคงแผนการลงทุนในการเปิด 2 โครงการใหม่ โดยโครงการมิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา อยุธยา และเซ็นทรัลพลาซา ศรีราชา (กำหนดเปิดปี 2564)
เซ็นทรัลพลาซา จันทบุรี (กำหนดเปิดปี 2565) และโครงการ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) จะทยอยเปิดให้บริการในปี 2566-2567 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน เซ็นทรัลพัฒนา บริหารจัดการศูนย์การค้า 34 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.8 ล้านตารางเมตร (อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 15 โครงการ, ต่างจังหวัด 18 โครงการ และในมาเลเซีย 1 โครงการ) ศูนย์อาหาร 30 แห่ง อาคารสำนักงาน 10 อาคาร โรงแรม 2 แห่ง โครงการที่พักอาศัยอีก 18 โครงการ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ESCENT, ESCENT VILLE, ESCENT PARK VILLE, PHYLL PAHOL 34 และ BELLE GRAND RAMA 9
และโครงการแนวราบภายใต้แบรนด์ ESCENT TOWN พิษณุโลก (ทาวน์โฮม) นินญา กัลปพฤกษ์ (บ้านแฝด) โครงการนิยาม บรมราชชนนี (บ้านเดี่ยวระดับลักชูรี่) และโครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว ได้แก่ นีรติ เชียงราย และนีรติ บางนา โดยโครงการดังกล่าวได้รวมส่วนที่อยู่ภายใต้บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ที่เซ็นทรัลพัฒนา เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่