บมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น หรือ TQM เผยผลประกอบการประจำปี 2563 โชว์ผลงานด้วยกำไร 702 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 38.4% อานิสงส์โควิดดันเบี้ยประกันทะลุเป้าอยู่ที่ 15,020 ล้านบาท ผนวกความเป็นผู้นำ Insurtech เสนอบริการตอบโจทย์ยุค New normal กางกลยุทธ์ปี 2564 เตรียมโปรดักท์ประกันตีตลาดเจาะเฉพาะกลุ่ม คุ้มค่า คุ้มราคา เต็มสูบ ลุยแผน TQM Digital Transformation ต่อเนื่อง เร่งพัฒนา TQM 24 ให้บริการ “เคลม ดู ต่อ จ่าย” อุ่นใจ ใกล้ตัว จบในแอปฯ เดียว พร้อมเตรียมปล่อย Home Platform สำหรับประกันบ้าน แย้มเดินหน้านโยบายการเข้าซื้อกิจการ (M&A) เสริมแกร่งสร้างศักยภาพให้ธุรกิจเติบโตเพิ่ม ตั้งเป้ายอดขายปี 2564 ที่ 17,250 ล้านบาท ผนึกการ M&A ในปี 2564 กับ 3 บริษัท โดยเริ่มจากบริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ 3 บริษัท รวมเบี้ยประกันราว 10,000 ล้านบาท มั่นใจรายได้รวมโต 25,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 60 %
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยว่า ในปี 2563 สิ่งที่ส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจ TQM เติบโตตามเป้ายังคงเป็นผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลัก ๆ ของบริษัท แต่จากวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ซึ่งท้าทายและสร้างโอกาส เนื่องด้วยผู้บริโภคหันมาทำประกันสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะประกันเฉพาะโรคอย่างประกันโควิด-19 ทำให้ TQM มีลูกค้าเพิ่มขึ้นจากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่แล้วกว่า 2 ล้านรายทั่วประเทศ กลับเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านราย รวมเป็น 3 ล้านราย จากการซื้อประกันโควิดภายในระยะเวลา 3 เดือน และยังคงมีการสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบต่ออายุและซื้อใหม่ เนื่องจากยังมีการระบาดรอบใหม่ ประกอบกับวิกฤติโควิด-19 กลับเป็นตัวช่วยเร่งด่วนในการผลักดันให้ TQM ได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ ทั้งด้านงานขายและงานบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ลูกค้าเกิดการเรียนรู้ในการซื้อและรับบริการด้านประกันภัยผ่านช่องทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7%โดยเป็นรายได้จากการให้บริการ เป็นจำนวน 3,082.5 ล้านบาท และรายได้จากดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากเงินลงทุน 53.5 ล้านบาท ภายใต้การบริหารจัดการการทำงานและควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรเพิ่มสูงขึ้น ด้วยกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 311.2 ล้านบาท คิดเป็น 24.8% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 194.7 ล้านบาท คิดเป็น 38.4% โดยจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 22กุมภาพันธ์ 2564 มีมติจ่ายเงินปันผล 1.15 บาทต่อหุ้น ซึ่งกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นได้รับสิทธิ (RD) ในวันที่ 10 มีนาคม 2564 และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 14 พฤษภาคม 2564
ด้านดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาตลาดอีคอมเมิร์ชมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากการระบาดของโควิด-19 กระตุ้นให้การซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์สูงขึ้น รวมถึงตลาดประกันภัยด้วย ดังนั้น ในปี 2564 TQM จึงจะเริ่มโฟกัสกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยสร้างความต้องการที่เหมาะสมและตอบโจทย์ในทุกเจนเนอร์ชั่น ขยายช่องทางการขายที่ไม่ได้มีเพียงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่น แต่จะเพิ่มช่องทางที่สะดวกอื่น ๆ อีก เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีในการซื้อประกัน นอกจากนี้ ยังมีนโยบายในการร่วมลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการ (M&A) ของบริษัทที่จะให้การสนับสนุนและส่งเสริมธุรกิจระหว่างกัน เพื่อเสริมศักยภาพของ TQM ให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2569
สำหรับกลยุทธ์ TQM ในปี 2564 ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำดิจิทัลอินชัวร์รันส์โบรคเกอร์ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ เน้นความคุ้มครองแบบคุ้มค่า คุ้มราคา ด้วยหลากหลายความคุ้มครองอาทิ ประกันภัยสำหรับรถยนต์ที่ใช้น้อย ประกันรถยนต์ซึ่งพัฒนาความคุ้มครองให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานและมีแผนที่จะส่งนวัตกรรมประกันภัยประเภทต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องในปีนี้กว่า 20 ผลิตภัณฑ์ประกัน ในส่วนของกลุ่มลูกค้าองค์กรได้เตรียมแผนในการเข้าทำตลาดมากขึ้น ด้วยแผน Corporate Solutions ที่มีทั้งงานขายและงานบริการแบบครบวงจรสำหรับลูกค้าองค์กร และยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาใช้เทคโนโลยีตามแผน TQM Digital Transformations มุ่งต่อยอดพัฒนา Mobile Application ภายใต้บริการ TQM 24 ให้เป็นบริการ “เคลม ดู ต่อ จ่าย” สามารถดาวน์โหลดให้อุ่นใจใกล้ตัวยิ่งขึ้น พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น เช่น ขยายงานขายประกันบ้าน ด้วย Home Platform ช่วยให้ลูกค้าสามารถทราบความเสี่ยงของบ้านเพื่อการทำประกันที่เหมาะสม รวมทั้งบริการเรียกร้องค่าสินไหมผ่านระบบ Home Platform และร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ คิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ
ทั้งนี้ แผนการดำเนินงานในปี 2564 ของ TQM ยังคงขับเคลื่อนด้วย 5 กลยุทธ์หลักขององค์กรตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี คือ 1. Strengthen existing channels การรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายโดยแบ่งความต้องการของลูกค้าตามราย Segment พร้อมขยายช่องทางการขายทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ และรุกตลาดลูกค้าองค์กรมากขึ้น ด้วยงานขายและบริการกับบริการรับให้คำปรึกษาด้านการจัดการสินไหมทดแทนแบบครบวงจร (Corporate Solutions) 2. Grow sales through cross-selling นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันที่เพิ่มโอกาสในการขายกับลูกค้าเดิมมากยิ่งขึ้น 3. Enhance insurance ecosystem through strategic partnership การร่วมกับพันธมิตรผ่านโครงการ TQM Transformation เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับระบบงานของ TQM และกลุ่มบริษัท ให้เกิดความเชื่อมโยงแบบไร้รอยต่อระหว่างลูกค้าและบริษัทฯ ด้วยแนวคิด ‘ลูกค้าเข้าถึงเรา เราเข้าถึงลูกค้า’ 4. Grow inorganic through M&A การร่วมลงทุนหรือเข้าซื้อกิจการของบริษัทที่มีธุรกิจที่ส่งเสริมระหว่างกัน เช่น การร่วมลงทุนใน บริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR ซึ่งเดิม TQM เป็นพันมิตรทางธุรกิจกับ TQR มานานในแง่ของผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และผู้จำหน่าย ดังนั้น โดยโครงสร้างธุรกิจของทั้ง 2 บริษัท เป็นการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ด้านการลงทุนนั้นในอนาคต TQM เองมีแผนจะขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนการเติบโตของกิจการ ขณะเดียวกัน TQR ก็จะหาพันธมิตรเพิ่มเสริมความแข็งแกร่งในอนาคตด้วยเช่นกัน 5. Expand regional เตรียมแผนขยายตลาดไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มที่กลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีกำลังซื้อสูงในกลุ่มประเทศ CLMV เช่น กัมพูชา และลาว ที่ได้ดำเนินการไปแล้วและอยู่ระหว่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อส่งมอบให้ผู้บริโภค