แกรนด์ ทรีนีตี้ งัดกลยุทธ์สู้ศึกอสังหาฯ ย้ำจุดยืนชัด คุณภาพ ความคุ้มค่าเหมาะสม ตั้งเป้ารายได้โต 20% พร้อมเปิดอีก 2 โครงการ

แกรนด์ ทรีนี้ตี้ เตรียมเปิดอีก 2 โครงการ เน้นการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคเชิงลึก มั่นใจ Work Hard จะช่วยให้พร้อมชนแบรนด์ใหญ่ ไม่หวั่น Brand Royalty สู้ด้วยคุณภาพ และความคุ้มค่าเหมาะสม มองตลาดภาคเหนือศักยภาพสูง เร่งพัฒนารองรับกำลังซื้อแพทย์ นักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ หวังยอดรายได้โตทั้งปี 20 %

นายดิษย์ฐา จิราศิริวรภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ ทรีนีตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “ตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจเหตุผลมาจากทั้งโรคระบาดโควิด 19 และการชะลอตัวของภาพรวมเศรษฐกิจโลก ทำให้การเติบโตในธุรกิจอสังหาในช่วง 2-3 ปีนี้อาจจะต้องเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นนัก โดยแกรนด์ ทรีนีตี้เริ่มขยายธุรกิจตั้งแต่ช่วง Q3 ในปีที่ผ่านมา เปิดโครงการบ้านเดี่ยว Luxury Cluster Housing 3 โครงการ มูลค่ารวม 480 ล้านบาท ทำเลพหลโยธิน, สุคนธสวัสดิ์ และ สตรีวิทยา ทั้งหมด 18 ยูนิต สุดเอ็กซ์คลูซีฟ อีกทั้งยังได้ผลตอบรับที่ดีโดยเฉพาะโครงการ วัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลฯ โดยเปิด Sale Gallery ที่เมเจอร์ฯ รัชโยธิน (บริเวณชั้น 2 ทางเชื่อมBTS) ปัจจุบันทั้ง 3 โครงการมียอดขายราว 20% แม้ประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว และสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ระลอกใหม่ ทั้งนี้คาดการณ์ว่าจะปิดการขายภายใน Q2 ปี 2022”

ภาพรวมธุรกิจของ แกรนด์ ทรีนีตี้ ในปี 2021 ยังคงเป็นในเรื่องของการพัฒนาโครงการบ้านแนวราบทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดตามแผนงานที่ได้วางไว้ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของการเปิดตัวบางโครงการออกไปในระยะเวลาสั้น ๆ บ้าง โดยช่วงปี 2021 จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ เป็นโครงการบ้านแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม ราคาขายเริ่มต้น 2.9-4.5 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมอยู่ที่ประมาณ 750 ล้านบาท  และจะสามารถทยอยเปิดให้ชมบ้านตัวอย่างได้ช่วงไตรมาสที่ 3-4 ปีนี้ บริษัทฯ คาดว่ายอดขายจะเริ่มเข้ามามากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 พร้อมทั้งตั้งเป้าอัตราการเติบโตยอดขายราว 20% พร้อมกันนี้จะได้พบกับบ้านตัวอย่างโครงการ วัน แอททีเลียร์ ไพรเวท เรสซิเดนซ์ พหลโยธิน  Luxury Cluster Home 4.5 ชั้น การออกแบบสไตล์ Model Classic และโครงการ วัน แอททีเลียร์ สตรีวิทยา บ้านแฝด 3 ชั้น New Modern Luxury

อีกทำเลธุรกิจที่โดดเด่นมากของ แกรนด์ ทรีนีตี้ คือทำเลภาคเหนือ เรามองว่ายังเป็นทำเลที่พร้อมสำหรับการพัฒนา กลุ่มลูกค้ามีความต้องการบ้านคุณภาพ ดีไซน์สวย อยู่อาศัยได้อย่างลงตัวและสะดวกสบายต่อการเดินทาง บริษัทมีพื้นที่เตรียมพัฒนาในจังหวัดน่าน โดยแบ่งพัฒนาไปตามแผนงานบริษัท สำหรับโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น (CITY CITE NAN) บ้านเดี่ยวหรูสไตล์ Nordic ทำเลที่ดีที่สุด ใจกลางจังหวัดน่าน ติดถนนใหญ่ ให้คุณได้สัมผัส “สุขมากกว่า กับชีวิตที่ลงตัว” มูลค่าโครงการ 237 ล้านบาท พื้นที่โครงการ ประมาณ 14 ไร่ ในอำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน จำนวน 57 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 170-190 ตารางเมตร พื้นที่ดิน 50-100 ตารางวา และด้วยแนวคิดในการพัฒนาโครงการที่เน้นคุณภาพของบ้าน และดีไซน์ที่สวย เรียบโก้ เพื่อการอยู่อาศัยที่ลงตัวพร้อมจับกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ แพทย์ ข้าราชการ

ทิศทางในการทำงาน และแผนพัฒนาโครงการในช่วงนี้เชื่อว่าการคัดสรรที่ดินในทำเลที่ตั้งศักยภาพสูง คุ้มค่ามาพัฒนาโครงการ และการสำรวจความต้องการผู้บริโภคเพื่อออกแบบฟังก์ชันบ้านให้ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทฯอยู่แล้ว อีกทั้งสามารถช่วยให้โครงการของเรามีคุณค่าทั้งในเชิงความรู้สึก และมูลค่าของทรัพย์สินซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของการพิจารณาซื้อบ้านกับทางบริษัทฯ โดยยังคงเน้นตลาดแนวราบ จับกลุ่ม Real demand ทั้งระดับ Luxury และ Economy ด้วยกลยุทธ์ การจัดวางฟังก์ชันและราคาที่คุ้มค่าที่สุด ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยในปัจจุบันและอนาคต

“ในช่วงวิกฤติแบบนี้ ผู้ประกอบการทุกรายต่างมุ่งพัฒนาสินค้าให้ดีที่สุด และงัดกลยุทธทุกอย่างออกมาแข่งขันกัน แต่เชื่อว่าการทำการบ้านมากพอหรือ Work Hard ยังคงใช้ได้อยู่ทุกยุค สำหรับ แกรนด์ ทรีนีตี้ เรามีการทำวิจัยพฤติกรรมลูกค้า ศึกษาเชิงลึกในรายละเอียดและพบว่ากลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบันนี้ (Gen Y , Gen Z) ไม่มีพฤติกรรมประเภท Brand loyalty ที่ให้ความสำคัญกับแบรนด์สินค้ามากกว่าคุณภาพ จะให้ความสำคัญกับตัวสินค้ามากกว่า เน้นตัดสินใจเลือกสิ่งที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด อีกทั้งท่ามกลางวิถีชีวิตในปัจจุบันที่เร่งรีบ และต้องแข่งขันกับเวลา ซึ่งในยุคปัจจุบันที่สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ (รีวิว) ได้อย่างง่ายดาย ยิ่งทำให้ทุก ๆ ดีเวลลอปเปอร์ที่ทำการบ้านมากพอ มีโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เทียบเท่ากันหมด และงานหลักของ แกรนด์ ทรีนีตี้ คือทำการบ้านอย่างหนักเพื่อสร้างบ้านที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบัน ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในแง่ความสะดวก หรือความคุ้มค่า” นายดิษย์ฐา  จิราศิริวรภัทร กล่าวเสริม

“เราเชื่อว่าในปี 2021 หรืออีก 2-3 ปีข้างหน้าต่อจากนี้ เรื่องที่ส่งผลกระทบอย่างมาก และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็คือโรคระบาด COVID-19 ที่ยังคงเป็นปัจจัยด้านลบที่สำคัญ ส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรม และจะส่งผลต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยอย่างมากเนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศทั่วโลกถูกหยุดลง ส่วนอีกเรื่องคือการโยกย้ายฐานผลิตของอุตสาหกรรมหลัก ๆ ไปประเทศเพื่อนบ้านเนื่องจากปัจจัยส่งเสริมด้านการค้าภายในประเทศ โดยอุปสรรคทั้ง 2 เรื่องนี้ น่าจะเป็นเรื่องหลัก ๆ ที่ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศไทยในช่วง 1-5 ปี หรืออาจเป็น 10 ปีต่อจากนี้อย่างแน่นอน หากยังไม่มีปัจจัยบวกอื่น ๆ เข้ามาเสริม”

“แกรนด์ ทรีนีตี้ นอกจากการ Work Smart แล้ว ยังคงมุ่งมั่นที่จะ Work Hard เพราะเชื่อว่าการที่เราใส่ใจ และให้ความสำคัญกับสิ่งที่เราต้องการจะส่งมอบไปให้กับลูกค้า ต้องเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ลูกค้าจะได้สัมผัสกับความคุ้มค่าและตอบโจทย์การเลือกที่อยู่อาศัยที่เปรียบเสมือนที่ที่จะเติมพลังกาย พลังใจในการใช้ชีวิต และบ้านในแบบของแกรนด์ ทรีนีตี้ จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกคุณภาพสำหรับลูกค้าที่จะมอบความไว้วางใจให้เราดูแล” นายดิษย์ฐา จิราศิริวรภัทร กล่าวปิดท้าย