เมื่อเร็ว ๆ นี้ เอมิเรตส์ สกายคาร์โก (Emirates SkyCargo) ประกาศครบรอบ 1 ปีของการให้บริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสาร ซึ่งนับเป็นหนึ่งในสายการบินแรกของโลกที่ริเริ่มการใช้เครื่องบินโดยสารโดยเฉพาะ เพื่อขนส่งอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment: PPE) และอุปกรณ์จำเป็นอื่น ๆ
หลังจากที่องค์การอนามัยโลกประกาศให้ไวรัสโควิด-19 เป็นภาวะการระบาดใหญ่ทั่วโลกได้เพียง 4 วัน สายการบินเอมิเรตส์ก็ได้พลิกโฉมประวัติศาสตร์การให้บริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสาร EK 2503 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารลำแรกที่บรรทุกสินค้าหนัก 34 ตัน ใต้ท้องเครื่อง จากดูไบสู่คูเวต ในวันที่ 16 มีนาคม 2563 ภายหลังจากนั้นเป็นต้นมา เอมิเรตส์ สกายคาร์โก ได้ให้บริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสารกว่า 27,800 ลำ ภายในระยะเวลา 1 ปี ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งเชื่อมต่อการสื่อสารและจัดส่งเวชภัณฑ์ อาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ทั่วโลก ในระหว่างการแพร่ระบาดของไวรัส
นะบิล สุลต่าน รองประธานอาวุโสฝ่ายคลังสินค้าสายการบินเอมิเรตส์ กล่าวว่า “นับเป็นเวลาหนึ่งปีแล้วตั้งแต่เราได้เริ่มทำในสิ่งที่อุตสาหกรรมการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงและมีประสิทธิภาพ โดยก่อนเริ่มการระบาดใหญ่ของไวรัส สองในสามของสินค้าทั้งหมดของเราถูกบรรทุกใต้ท้องเครื่องบินโดยสาร ทั้งนี้ เมื่อเกิดการระงับเที่ยวบินและมีข้อบังคับการเดินทางของผู้โดยสารมากขึ้น สืบเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมของปีที่ผ่านมา เราเล็งเห็นว่าการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบเดิมนั้นไม่เพียงพอต่อการขนส่งอุปกรณ์และสิ่งจำเป็นอื่น ๆ อีกต่อไป”
“กลยุทธ์การให้บริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสารของเราถือเป็นกำลังสำคัญในการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศในช่วงการระบาดของไวรัสสู่กว่า 125 จุดหมายปลายทาง ครอบคลุม 6 ทวีปทั่วโลก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านการปรับตัวในฐานะผู้ให้บริการด้านการค้าและการขนส่งระดับสากล และเนื่องจากตอนนี้เริ่มมีการกลับมาใช้บริการเที่ยวบินโดยสารเพิ่มขึ้น เราจึงทยอยกลับไปให้บริการในรูปแบบเดิมมากขึ้น แต่บริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสารของเรายังคงเป็นอีกหนึ่งเสาหลักเพื่อเสริมการขนส่งในช่วงระบาดของไวรัสโควิด-19” นะบิล กล่าวเสริม
เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลและอุปกรณ์จำเป็นอื่น ๆ ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ เอมิเรตส์ สกายคาร์โก ได้ปฏิบัติตามแนวทางการให้บริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสาร พร้อมนำนวัตกรรมวิธีการขนส่งอื่น ๆ อาทิ การบรรทุกสินค้าบนที่นั่งโดยสารและบนชั้นวางสัมภาระเหนือศีรษะภายในห้องโดยสาร รวมถึงริเริ่มการใช้ ‘เครื่องโดยสาร’ (mini freighters) ซึ่งใช้เครื่องบิน Boeing 777-300ER แบบที่ได้ปรับที่นั่งออกในชั้นประหยัด เพื่อขยายพื้นที่บรรทุกสินค้าภายในตัวเครื่อง ปัจจุบันเอมิเรตส์ สกายคาร์โก มีเครื่องโดยสารขนาดมินิ Boeing 777-300ER จำนวน 16 ลำ สำหรับให้บริการขนส่งสินค้า
เมื่อปีที่ผ่านมา เอมิเรตส์ สกายคาร์โก ให้บริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสารกว่า 27,800 ลำ โดยเป็นการช่วยเหลือการขนส่งอุปกรณ์จำเป็นต่าง ๆ อาทิ อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล ชุดอุปกรณ์ตรวจไวรัสโควิด-19 เครื่องช่วยหายใจ ยารักษาโรค วัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 และอาหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 ตัน ซึ่งคิดเป็นการขนส่งสินค้าทางอากาศมากกว่า 1,000 เที่ยวบิน จากเครื่องบินโดยสาร Boeing 777
เที่ยวบินของ เอมิเรตส์ สกายคาร์โก ช่วยรักษาความปลอดภัยของอาหารสู่ตลาดนำเข้าสินค้าเพื่อการบริโภคให้มั่นใจและเชื่อถือได้ อีกทั้งยังช่วยกระจายรายได้สู่ตลาดที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าทางการเกษตรหลายราย และใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำเพื่อขนส่งสินค้าทางอากาศโดยเฉพาะอีกด้วย
เอมิเรตส์ สกายคาร์โก เป็นผู้นำอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศระดับโลกที่ร่วมต่อต้านการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-9 โดยมีศูนย์ปฏิบัติการทางอากาศในดูไบที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GDP (Good Distribution Practice) และร่วมมือกับองค์กรจัดส่งวัคซีนชั้นนำต่างๆในดูไบ และองค์กรยูนิเซฟ (UNICEF) เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดส่งวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อย่างรวดเร็วและปลอดภัยให้กับเหล่าประเทศกำลังพัฒนาผ่านทางดูไบ ดังนั้นบริการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินโดยสารของ เอมิเรตส์ สกายคาร์โก จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการขนส่งวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ไปทั่วโลกอีกด้วย