ดีเคเอสเอช ร่วมมือกับ H&H Group เพื่อขยายตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพจากแบรนด์ “Swisse” ในประเทศไทย

ดีเคเอสเอช ผู้นำด้านการให้บริการขยายตลาดโดยมุ่งเน้นภูมิภาคเอเชีย ได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับ บริษัท H&H Group เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย ความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งเน้นไปยังการขยายตลาดของแบรนด์ “Swisse” ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพและอาหารเสริมอันดับหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย

หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) คู่ค้าแนวหน้าสำหรับบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภคที่ต้องการขยายตลาดในประเทศไทย ได้ประกาศความร่วมมือกับบริษัท H&H Group เพื่อนำเข้าผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามจากแบรนด์ Swisse อาทิ วิตามินอาหารเสริม และผลิตภัณฑ์บำรุงผิว มายังประเทศไทย โดยดีเคเอสเอชจะให้บริการด้านการขายและการตลาด รวมถึงด้านการกระจายสินค้าและบริการด้านโลจิสติกส์ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคไทยสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จาก Swisse ได้อย่างสะดวกง่ายดายทั่วประเทศ

Swisse เริ่มต้นในประเทศออสเตรเลียในช่วงปี ค.ศ. 1960 ซึ่งนับตั้งแต่นั้นมา แบรนด์ดังกล่าวได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูง พร้อมทั้งได้ให้ความรู้แก่ผู้บริโภคเกี่ยวกับความสำคัญในการดูแลสุขภาพ และได้สนับสนุนการใช้ส่วนผสมที่ยั่งยืน Swisse ผลิตในประเทศออสเตรเลียภายใต้ระเบียบข้อบังคับของคณะกรรมการอาหารและยา Therapeutic Goods  Administration (TGA) สำหรับผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริม จึงเป็นเหตุผลที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นในแบรนด์ตลอดมา กลุ่มผลิตภัณฑ์วิตามินรวมของ Swisse เหมาะสำหรับทุกเพศและทุกวัย พร้อมกันนี้ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบบธรรมชาติของแบรนด์มีส่วนผสมที่เลือกสรรจากภูมิภาคที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของโลก ไม่ว่าจะเป็นผลแครนเบอร์รี่จาก Cape Cod หรือส้มสีเลือดจากเชิงภูเขาไฟ Mount Etna ในซิซิลี

Swisse สร้างความผูกพันกับลูกค้าด้วยการสื่อสารผ่านคอนเทนต์ออนไลน์ที่น่าสนใจ น่าตื่นเต้น และให้ความรู้ รวมถึงการแบ่งปันประสบการณ์ร่วม นักแสดงชาวออสเตรเลียอย่าง นิโคล คิดแมน และ คริส เฮมสเวิร์ธ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ และจะมีการแต่งตั้งแบรนด์แอมบาสเดอร์ชาวไทยเพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์กับ Swisse ด้วยในอนาคต

มร. Charles Ravel, Group Managing Director ประจำภูมิภาคเอเชีย อเมริกาเหนือ และ Global Marketing ของ H&H Group กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ ดีเคเอสเอช เพื่อนําเข้าผลิตภัณฑ์ Swisse ระดับพรีเมี่ยมของเรามาสู่ผู้บริโภคในประเทศไทย เรามั่นใจว่าช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและความสามารถด้าน omni channel ที่แข็งแกร่งของดีเคเอสเอช จะสามารถช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการเปิดตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่องในตลาดนี้”

คุณ ขวัญชัย อัสนี รองประธานฝ่ายบริหารหน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราดีใจที่ได้รับเลือกให้เป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือสําหรับ H&H Group และได้มีโอกาสสร้างการเติบโตให้แก่แบรนด์นี้ในตลาดประเทศไทย เรามุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความพร้อมในการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Swisse ให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นเหล่านี้ได้ทั่วประเทศ”

เกี่ยวกับ H&H Group

H &H Group เป็นบริษัทด้านสุขภาพและโภชนาการระดับโลก ซึ่งขับเคลื่อนด้วยความกระตือรือร้น แกร่งกล้า และมุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจด้านสุขภาพ พร้อมกับการมีส่วนร่วมในเชิงบวกต่อความต้องการของสังคมและโลก บริษัทฯ มี 3 สายธุรกิจด้านผลิตภัณฑ์สารอาหารและการดูแล ได้แก่ ทารก ผู้ใหญ่ และสัตว์เลี้ยง ซึ่งสนับสนุนสุขภาพและความสุขของทั้งครอบครัว โดยมีแบรนด์ระดับพรีเมี่ยมที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านโภชนาการและสุขภาพที่พิสูจน์โดยหลักวิทยาศาสตร์ แบรนด์ผลิตภัณฑ์บริโภค ได้แก่ Biostime, Swisse, Solid Gold Pet, Dodie, Good Goût, Aurelia London และ CBII บริษัทฯ มีสํานักงานใหญ่อยู่ที่ฮ่องกง และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (“H&H INTL HLDG” รหัสหุ้น 1112) มีพนักงานกว่า 3,000 คน ประจำสำนักงานใน 14 ประเทศ อ่านเพิ่มเติมได้ที่: www.hh.global

เกี่ยวกับ ดีเคเอสเอช

ดีเคเอสเอช มีวัตถุประสงค์หลักคือการเพิ่มคุณค่าให้แก่ชีวิตผู้คน เราได้ให้บริการด้านการขยายตลาดแก่ธุรกิจในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลกมายาวนานกว่า 150 ปี ภายใต้หน่วยธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค หน่วยธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม และหน่วยธุรกิจเทคโนโลยี ในฐานะผู้นำด้านการให้บริการขยายตลาด เราให้บริการด้านการจัดหาวัตถุดิบ ข้อมูลการตลาด การตลาดและการขาย การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ การกระจายสินค้าและการจัดส่ง รวมถึงบริการหลังการขาย บริษัทฯ ได้จดทะเบียนใน SIX Swiss Exchange ดำเนินธุรกิจอยู่ใน 36 ประเทศ มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญ 32,450 คน มียอดขายสุทธิในปี พ.ศ. 2563 จำนวน 10.7 พันล้านฟรังก์สวิส หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค มุ่งเน้นภาคส่วน Fast Moving Consumer Goods ร้านอาหารและภัตตาคาร สินค้าประเภท luxury สินค้าด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ รวมถึงเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ด้วยผู้เชี่ยวชาญ19,430 ราย หน่วยธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมียอดขายสุทธิในปี พ.ศ. 2563 จำนวน 3.8 พันล้านฟรังก์สวิส (125.73 พันล้านบาท) www.dksh.com/cg