ค้าปลีกรวมใจ! เสนอตัวให้ใช้พื้นที่เป็นจุด “ฉีดวัคซีน” หวังกระจายทั่วประเทศ

กลุ่มอุตสาหกรรมค้าปลีก เป็นอีกหนึ่งตัวแทนภาคเอกชนที่ให้ความช่วยเหลือรัฐบาลในการฝ่าวิกฤต COVID-19 ระลอกใหม่อย่างเต็มที่ ได้เสนอตัวให้ใช้พื้นที่ศูนย์การค้า หรือห้างสรรพสินค้าในการเป็นจุดให้บริการฉีดวัคซีน เพื่อให้กระจายเข้าถึงประชาชนได้ทั่วประเทศ

ตอนนี้มีกลุ่มค้าปลีกได้ออกนโยบายนี้กันมากขึ้น นำร่องโดยกลุ่ม “เซ็นทรัลพัฒนา” หรือ CPN ในการใช้ 23 ศูนย์การค้าเพื่อรองรับการฉีดวัคซีน รวมทั้งบ้านใกล้เรือนเคียง “เซ็นทรัลรีเทล” ก็เสนอให้ใช้พื้นที่ของธุรกิจในเครือกว่า 109 แห่งในการฉีดวัคซีน

ส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่าง “บิ๊กซี” และ “โลตัส” ก็เริ่มเปิดโรดแมป นำร่องสาขาที่ให้บริการฉีดวัคซีนบ้างแล้วเช่นกัน

เซ็นทรัลพัฒนา

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล, เซ็นทรัล ภูเก็ต และ เซ็นทรัล วิลเลจ ได้เสนอให้ใช้พื้นที่ศูนย์การค้าของรวม 23 สาขา (จาก 33 สาขาทั่วประเทศ) ในการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้

CPN มีต้นแบบการใช้ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเป็นแห่งแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 21 เม.. 2564 ที่ เซ็นทรัล ระยอง โดยร่วมกับโรงพยาบาลระยอง

ล่าสุดเซ็นทรัล สมุย” ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 4 จุดที่ให้บริการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ให้กับประชาชนบนเกาะสมุย เมื่อวันที่ 23-27 เม.ย. 64 เตรียมความพร้อมในการดำเนินการในส่วนของจังหวัดนนทบุรี เสนอให้ใช้พื้นที่ 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และเซ็นทรัล เวสต์เกต

CPN ยังมีแผนในการสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานบริษัท และร้านค้าในศูนย์การค้า ได้นำร่องฉีดวัคซีนให้พนักงานที่ให้บริการลูกค้าของเซ็นทรัล ภูเก็ตไปแล้ว ซึ่ง 85% ของพนักงานจะได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ภายในกลางเดือน พ.ค. 64 นี้ นับเป็นอัตราการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่มากกว่าค่าเฉลี่ยกลางที่กำหนดไว้ที่ 70%

เซ็นทรัล รีเทล

ทางด้านเซ็นทรัล รีเทล ร่วมกับสภาหอการค้าไทย ได้ผนึกธุรกิจในเครือในการเสนอต้นแบบ และพื้นที่ในเครือในการให้บริการฉีดวัคซีนเช่นกัน

รวมพื้นที่ธุรกิจในเครือ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์, ไทวัสดุ และท็อปส์ พลาซ่า ทั้งหมด 109 แห่งทั่วประเทศไทย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับภาครัฐในการกระจายวัคซีนเข้าไปหาคนไทยอย่างทั่วถึง และเป็นต้นแบบสำหรับต่อยอดไปทั่วประเทศ

พร้อมจัดหาบุคลากร จิตอาสา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์สำนักงาน รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และทีมจิตอาสาที่ทำงานอย่างหนักทุกคน โดยคาดว่าในแต่ละพื้นที่ จะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้ประมาณ 1,500 – 2,000 คนต่อวัน

บิ๊กซี

กลุ่มของไฮเปอร์มาร์เก็ตก็ขอร่วมด้วย “กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี” สนับสนุนพื้นที่ฉีดวัคซีนในบิ๊กซีทั่วประเทศ จำนวน 54 สาขา และสนับสนุนการจัดเก็บวัคซีนและกระจายวัคซีนไปยังพื้นที่ที่กำหนด

โดยบีเจซีร่วมสนับสนุน แบ่งเป็น TEAM A: Distribution and Logistics ทีมสนับสนุนการกระจาย และฉีดวัคซีน และ TEAM D: Extra Vaccine procurement ทีมจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม

Photo : Shutterstock

Team A: Distribution and Logistics  :  บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)

  1. สนับสนุนพื้นที่ฉีดวัคซีนในบิ๊กซีทั่วประเทศ จำนวน 54 สาขา
  2. สนับสนุนพื้นที่ฉีดวัคซีนในศูนย์กระจายสินค้า (ธัญบุรี)
  3. รวบรวมและจำหน่ายวัคซีนหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ไปยังสถานที่ฉีดวัคซีน
  4. ตรวจสอบและดูแลการเคลื่อนไหวของวัคซีนและบุคลากร
  5. สนับสนุนชุดอาหารสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลในพื้นที่โครงการ
  6. อำนวยความสะดวกในการกำจัดขยะ
  7. สนับสนุนเต็นท์สำหรับประชาชนที่เข้าคิว
  8. สนับสนุนเจ้าหน้าที่บริษัทอำนวยความสะดวก
  9. สื่อประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งเรื่องของโครงการ

Team D: Extra Vaccine Procurement  :  บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน)

  1. สนับสนุนการจัดเก็บวัคซีนในคลังสินค้าที่ได้รับการรับรองจาก GSDP
  2. สนับสนุนการกระจายวัคซีน สำหรับการฉีดวัคซีนไปยังสถานที่ที่กำหนด
  3. เป็นตัวแทนในการนำเข้าวัคซีนที่เป็นตัวเลือกจากหลายบริษัท
  4. อาสาสมัคร เภสัชกร 20-30 คน เพื่อให้ข้อมูล วัคซีน แก่ประชาชน ทางโทรศัพท์ และ สถานที่ฉีดวัคซีน
  5. ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข และองค์การเภสัชกรรม ในการจัดหา วัคซีน ทางเลือกที่ดี และมีคุณภาพ
  6. ติดต่อโรงงานผลิตวัคซีน และ ขอความช่วยเหลือตัวแทนในประเทศต่าง ๆ ในการจัดหาวัคซีนทางเลือกมาใช้ในประเทศ

โลตัส

ทาง “โลตัส” ของเจ้าสัวธนินท์ แห่ง CP ผนึกความร่วมมือภาคเอกชน ร่วมคณะทำงาน “ทีมไทยแลนด์” สนับสนุนการกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วประเทศ โดย “โลตัส สาขามีนบุรี” นำร่องเป็น 1 ใน 14 สถานที่ในกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นจุดฉีดวัคซีน สามารถรองรับประชาชนได้ 1,000 คนต่อวัน

พร้อมเสนอสาขาใหญ่อีก 50 สาขาทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการฉีดวัคซีนได้อย่างสะดวก นอกเหนือจากคณะทำงานทีม A สนับสนุนการกระจายและฉีดวัคซีนแล้ว ยังมีคณะทำงานทีม B เพื่อใช้สื่อ และช่องทางทั้งออนไลน์ และในสาขาทั่วประเทศช่วยสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับวัคซีนให้กับลูกค้าและประชาชนอีกด้วย