“ป้องกันดีกว่ารักษา” โอกาสท่ามกลางโควิดหนุนไอเดียอิชิตันเร่งเครื่องผลิตกลุ่มเครื่องดื่มวิตามิน ส่ง “อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามินดี และกิงโกะ” เสริมทัพ

“นี่เราติดรึยัง?” ประโยคยอดฮิตที่วนกลับมาทุกครั้งเมื่อเกิดการระบาดระลอกใหม่ สะท้อนความกังวลที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด การดูแลป้องกันตัวเองพร้อมเสริมภูมิคุ้มกันจึงเป็นทางเลือกที่ผู้บริโภคต้องการในปัจจุบันอิชิตัน กรุ๊ป จึงส่ง “อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามิน D และกิงโกะ” เสริมทัพสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มสุขภาพผสมวิตามินช่วยดูแลสุขภาพคนไทยตามแนวคิด “ป้องกันดีกว่ารักษา” ดึงจุดเด่นเครื่องดื่มวิตามิน D สูง มีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน และกิงโกะ ช่วยบำรุงสมองและกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต มาพร้อมจุดแข็ง “น้ำด่าง 8.5” จากเทคโนโลยีการผลิตระดับโลกมาตรฐานญี่ปุ่นที่แตกต่างมากกว่าสินค้าอื่นๆ ในตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามิน

 

ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องดูแลสุขภาพมากเป็นพิเศษ อิชิตันเร่งพัฒนาเครื่องดื่มกลุ่มวิตามินเพื่อเป็นทางเลือกในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นของผู้บริโภคที่สามารถดื่มได้ทุกเวลาเป็นการ “ป้องกันดีกว่ารักษา” ในช่วงเวลาที่การเข้าถึงการรักษามีจำกัด อิชิตันตั้งความหวังว่ากลุ่มเครื่องดื่มวิตามินเพื่อสุขภาพจะตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในเวลานี้ได้เป็นอย่างดี”

อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามินดี และกิงโกะ นำเสนอจุดเด่นความเป็นน้ำด่าง 8.5 จากนวัตกรรมสมาร์ทเทคโนโลยีจากญี่ปุ่น ผสานคุณประโยชน์ของวิตามิน D คุณภาพสูง กับคุณค่าของสารสกัดจากกิงโกะหรือใบแปะก๊วยคุณภาพ ดื่มได้บ่อยอย่างสบายใจด้วย0 แคลอรี่ 0 โซเดียม และไม่เติมน้ำตาลเป็นเครื่องดื่มล่าสุดในพอร์ทวิตามิน วอเตอร์ เสริมทัพสินค้ากลุ่มตระกูลวิตามินที่วางตลาดไปก่อนหน้าในแนวคิดมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ได้แก่ อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามินบีรวม, อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อีและอิชิตัน วิตซีซี; วิตามิน C 200% ดื่มขวดไหนก็ได้วิตามิน ด้วยเทคโนโลยีการผลิตแบบ Cold Aseptic Filling Technology ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันที่ใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อเพียง 4 วินาที จากนั้นผลิตภัณฑ์จะถูกลดอุณหภูมิลงเหลือ 25-30⸰ C บรรจุภายในห้องปลอดเชื้อแล้วปิดผนึกฝาทันทีสามารถคงคุณค่าวิตามินและลดการสูญสลายของวิตามินไปกับความร้อนได้ดีกว่าการผลิตแบบดั้งเดิมเข้าทำตลาดจนอยู่ในระดับ Top5 ของอุตสาหกรรม ตั้งเป้ายอดขายกลุ่มน้ำด่างและเครื่องดื่มวิตามินไว้ที่ 1,000 ล้านบาท สอดรับเทรนด์ตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามิน ณ สิ้นปี 2563 ที่มีอัตราการเติบโต 106%คิดเป็นมูลค่าตลาด 2,195 ล้านบาทเติบโตสูงสุดในตลาดเครื่องดื่มทั้งหมด

ดร.กฤษฎา คงนมนาม จากโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้ข้อมูลว่า “ปกติการวัดความเป็นกรดหรือความเป็นด่าง แทนค่าด้วยpH สารที่มีคุณสมบัติเป็นกลางเช่นน้ำบริสุทธิ์ จะมีค่า pH 7 ถ้าน้อยกว่าจะเป็นกรด ถ้ามากกว่าจะเป็นเบส หรือภาษาไทยเรียกว่าเป็นด่าง เครื่องดื่มน้ำด่างจึงเป็นน้ำที่มีค่า pH มากกว่า 7จากผลการวิจัยหลายประเทศพบคุณสมบัติของน้ำด่างที่พิสูจน์ทราบแน่ชัด เช่น สหรัฐอเมริกา : งานวิจัยการดื่มน้ำด่างที่มีส่วนช่วยต่อโรคกรดไหลย้อน, จีน : งานวิจัยเรื่องน้ำด่างกับประสิทธิภาพการทำงานของกระเพาะอาหาร เป็นต้น

สอดคล้องกับข้อมูลจากเพจอย่าฝากชีวิตไว้กับหมอ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพในช่วงนี้ว่า “ดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้ร่างกายเราเป็นด่างได้ยิ่งดี อย่าปล่อยให้ร่างกายมีภาวะเป็นกรด เพราะเชื้อไวรัสชอบภาวะที่เป็นกรด จะสามารถติดเชื้อเข้าไปในเซลล์ได้ง่าย  และควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น วิ่ง แอโรบิค ปั่นจักยาน พร้อมเสริมวิตามินที่สำคัญ คือวิตามิน D ที่เราได้จากการตากแดด หรือรับประทานเสริมเข้าไป ถ้าอยากมีภูมิคุ้มกันที่ดี ควรมีระดับวิตามิน D ที่เพียงพอ”

ปัจจุบันคนไทยจำนวนมากเข้าใจว่าได้รับวิตามิน D ที่สามารถสร้างขึ้นได้เองในร่างกาย ผ่านการกระตุ้นจากรังสี UVB ในแสงแดด แต่ในความเป็นจริงคนไทยส่วนมากกลับมีภาวะขาดวิตามิน D โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน เนื่องจากมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตในห้องแอร์ ทำให้ร่างกายได้รับแสงแดดไม่เพียงพอ จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ “อิชิตัน น้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามิน D และกิงโกะ” จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ที่มั่นใจได้เรื่องคุณภาพและสุขภาพ มีจำหน่ายในปริมาณบรรจุ 550ml. ราคา 20 บาท และ 350 ML ราคา 10 บาท เจาะตลาดทั้ง Modern Trade และ Traditional Trade วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ 7-Eleven และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือสามารถสั่งสินค้าแบบยกลังบริการส่งฟรีแบบไม่ต้องเสี่ยงออกจากบ้านที่ https://ichitanoneshop.com/home พร้อมติดตามข้อมูลอัพเดตในการดูแลสุขภาพ ได้ทาง https://www.facebook.com/ichitanhealthydrink