กลุ่มเซ็นทรัล ปูพรมช่วยเหลือทั่วไทย สนับสนุนงบกว่า 30 ล้านบาท ชูศักยภาพเครือข่าย พร้อมเคียงข้างคนไทยสู้วิกฤตโควิด-19

ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ที่สร้างความบอบช้ำให้กับสังคม เศรษฐกิจ และชุมชน การจับมือร่วมกันฟันฝ่าของคนไทยทุกภาคส่วน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในนาทีนี้ กลุ่มเซ็นทรัล นำศักยภาพความแข็งแกร่งของธุรกิจในเครือทั่วประเทศ ผสานพลังแบบบูรณาการ สนับสนุนภาครัฐ ในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดด้วยการเสนอพื้นที่ฉีดวัคซีน 144 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายวัคซีนและเป็นต้นแบบการจัดระบบการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ พร้อมส่งต่อความห่วงใยเคียงข้างคนไทย ด้วยการ สนับสนุนงบประมาณ, อุปกรณ์ทางการแพทย์, ยารักษา, สิ่งของจำเป็น, อาหาร-เครื่องดื่ม และอื่นๆ ให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล ลูกค้า คู่ค้า ชุมชน พนักงาน และผู้ได้รับผลกระทบทั่วประเทศจับมือผ่านพ้นวิกกฤตนี้ไปพร้อมกัน

พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล เผยว่า นับตั้งแต่การกลับมาระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลุ่มเซ็นทรัลและธุรกิจในเครือไม่ได้นิ่งนอนใจ ผนึกกำลังทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมมาอย่างต่อเนื่อง รวมงบประมาณการช่วยเหลือจนถึงปัจจุบันมากกว่า 30 ล้านบาท โดยผ่านการทำงานร่วมกันของธุรกิจในเครือทั่วทุกภาคของประเทศ ล่าสุด กลุ่มเซ็นทรัล ได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน อาทิ หอการค้าไทย, สมาคมผู้ค้าปลีกไทย ในการสนับสนุนพื้นที่ฉีดวัคซีนและการกระจายวัคซีน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าคนไทยทุกคนจะปลอดภัยจากโรคระบาดและผ่านสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้โดยเร็ว

สำหรับการสนับสนุนพื้นที่ฉีดวัคซีนและกระจายวัคซีน กลุ่มเซ็นทรัล นำโดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และ บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำเสนอพื้นที่ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าในเครือรวมกว่า 144 แห่ง ทั่วประเทศ ผ่านความร่วมมือกับหอการค้าไทยและการประสานงานโดยตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับรัฐบาลในการกระจายการฉีดวัคซีนให้รวดเร็วและทั่วถึง สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนไทย โดยได้รับการอนุมัติแล้ว กว่า 20 แห่งทั่วประเทศ ( ข้อมูล ณ วันที่ 19 พ.ค.) ซึ่งได้เริ่มทดลองฉีดในส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครแล้วที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว และจะดำเนินการเบื้องต้นอีก 4 แห่ง คือ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า , โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง, เซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ โดยกลุ่มเซ็นทรัล สนับสนุนพื้นที่ฉีดวัคซีน, พนักงานอาสาสมัคร, คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์-สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ , ที่พักบุคลากรทางการแพทย์ ,  อาหาร-เครื่องดื่ม รวมงบประมาณสนับสนุนกว่า 11.6 ล้านบาท (เดือน พ.ค.-ก.ค.) นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรอย่าง เอไอเอส มาดูแลเรื่องระบบ LAN และอินเทอร์เน็ตสำหรับการลงทะเบียนและเช็คประวัติผู้มาฉีดวัคซีน และ ฟรี WiFi ทุกสาขาของจุดฉีดวัคซีนอีกด้วย  ขณะเดียวกัน กลุ่มเซ็นทรัลยังได้ร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ในการฉีดวัคซีนคู่ขนานกับไปกับกรุงเทพฯ โดยเริ่มดำเนินการฉีดแล้ว ได้แก่ เซ็นทรัล สมุย, เซ็นทรัล ระยอง รวมทั้งการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานในร้านค้าที่เซ็นทรัล ภูเก็ต

รวมใจธุรกิจในเครือและพันธมิตรสู้โควิด

จากสถานการณ์การระบาดระลอก 3 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น กลุ่มเซ็นทรัล   ขอยืนเคียงข้างคนไทย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมพลังความร่วมมือจากหลากภาคส่วน เสมือน “ศูนย์กลางธารน้ำใจ” ดังนี้

  • กลุ่มเซ็นทรัล เดินหน้า โครงการ ทำด้วยใจ ไฟท์โควิด-19 (Help Thai Fight Covid-19) เชิญชวนระดมทุน สนับสนุนงานวิจัยกระบวนการยับยั้งและป้องกันโรคโควิด-19 โดยแพทย์ไทย เพื่อคนไทย ผ่านช่องทางการบริจาคของธุรกิจในเครือ โดยกลุ่มเซ็นทรัลได้สมทบทุนเพิ่มเติม กว่า 8 ล้านบาท รวมกับยอดบริจาคของประชาชน ภาคีเครือข่าย และคู่ค้า จำนวนกว่า 2 ล้านบาท ระหว่างเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10 ล้านบาท ส่งมอบให้กับโรงพยายบาลศิริราช, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ผ่านแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ
  • กลุ่มเซ็นทรัล สนับสนุนค่า เครื่องช่วยหายใจ 2 ล้านบาท และ ค่ายา Favipiravir 1 ล้านบาท ให้แก่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ
  • กลุ่มเซ็นทรัล สนับสนุน ห้องความดันลบ 5 แสนบาท ให้แก่ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
  • กลุ่มเซ็นทรัลและธุรกิจในเครือ ร่วมกันส่ง มอบอาหาร, สิ่งของจำเป็น ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ใน 14 โรงพยาบาล รวมกว่า 4 ล้านบาท
  • สนับสนุน กองทุนชัยพัฒนาสู้ภัยโควิด-19 (และโรคระบาดต่างๆ) มูลค่า 1 ล้านบาท
  • สนับสนุน อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องอุปโภคบริโภค และของใช้ที่จำเป็นแก่โรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลจังหวัด และหน่วยงานสาธารณสุขใน 7 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาท
  • กลุ่มเซ็นทรัล มอบ เครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 15 เครื่อง เพื่อสนับสนุนการตรวจรักษาทางไกล Chula Teleclinic ให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ประเมินการรักษาและนัดหมายผ่านทางออนไลน์ ลดความเสี่ยงจากการเดินทางมาโรงพยาบาล รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท
  • ห้างเซ็นทรัล และ ห้างโรบินสัน มอบ เตียงกระดาษ จำนวน 500 เตียง แก่กระทรวงสาธารณสุข รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท
  • เซ็นทรัล เรส ตอรองส์ กรุ๊ป หรือ ซีอาร์จี สนับสนุนอาหารแก่บุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล 7 แห่ง จาก 7 แบรนด์อาหารในเครือ และบุคลากรทางการแพทย์ที่ดำเนินงานฉีดวัคซีนในพื้นที่ฉีดวัคซีนของ กลุ่มเซ็นทรัล รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท
  • ท็อปส์ และ แฟมิลี่มาร์ท สนับสนุนอาหาร สิ่งของจำเป็นและเวชภัณฑ์ ให้กับโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ รังสิต และชุมชนคลองเตย รวมมูลค่ากว่า 4 แสนบาท
  • ไทวัสดุ มอบ เจลแอลกอฮอลล์ ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ 3 ล้านมิลลิลิตรให้แก่กระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาล สถานีอนามัย ในพื้นที่ควบคุม และ พัดลมสนาม 15 เครื่อง พร้อมสิ่งจำเป็นอื่นๆ ในพื้นที่ฉีดวัคซีนของกลุ่มเซ็นทรัล รวมมูลค่ากว่า 5 แสนบาท
  • เจดีเซ็นทรัล ส่งมอบหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ กระดาษชำระ และถุงผ้าสำหรับจัดส่งเสบียงช่วยเหลือชุมชนคลองเตย รวมมูลค่ากว่า  1 แสนบาท
  • โรงแรมเซ็นทารา ลาดพร้าว สนับสนุนห้องพักให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ที่มาฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
  • ออฟฟิศเมท สนับสนุนอุปกรณ์จำเป็นในสถานที่ฉีดวัคซีน นอกโรงพยาบาลของกลุ่มเซ็นทรัล มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
  • โครงการ จริงใจมาร์เก็ต เชียงใหม่ ของกลุ่มเซ็นทรัล สนับสนุนเตียงเหล็กขนาด 5 ฟุต พร้อมฟูกจำนวน 76 ชุด รวมมูลค่ากว่า 54,000 บาท เพื่อใช้รองรับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่
  • เซ็นทรัลพัฒนา และเซ็นทรัล รีเทล ผนึกกำลังกับ เอสซีจีพี ตั้งจุดรับบริจาคกล่องลูกฟูก ในศูนย์การค้าและร้านค้าทั่วประเทศรวมกว่า 149 จุด เพื่อนำไปผลิตเตียงสนามให้กับผู้ป่วยโควิด และ เซ็นทรัล รีเทล สมทบการบริจาคกล่องกระดาษลูกฟูกเพื่อนำไปรีไซเคิลเป็นเตียงสนาม อีกจำนวน 6,000 เตียง
  • เซ็นทรัลพัฒนา สนับสนุน พื้นที่ในการบริจาคโลหิต โดยร่วมมือกับ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย รวมทั้งเซ็นทรัลพัฒนา จับมือ พันธมิตรภาคเอกชนกว่า 24 องค์กร ร่วมสนับสนุน อุปกรณ์การแพทย์ อาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของที่จำเป็น ให้ 7 โรงพยาบาลหลัก และโรงพยาบาลสนามที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19

กลุ่มเซ็นทรัลและบริษัทในเครือยังยึดมั่นในจุดยืนการเป็นต้นแบบของการรักษามาตรการความสะอาดและความปลอดภัยขั้นสูงสุด ที่สร้างความมั่นใจให้ผู้มาใช้บริการ ทั้งในห้างร้านและออนไลน์ และขอเป็นกำลังใจให้คนไทย ผ่านวิกฤตครั้งนี้ด้วยความอดทน เข้มแข็ง และร่วมแรงร่วมใจกัน รอวันที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง