ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย นำเสนอ 2 กองทุนสำหรับลูกค้าซิตี้โกลด์ที่สนใจการลงทุนในกลุ่ม ESG ได้แก่ กองทุน “บีจีเอฟ ซัสเตนนะเบิล เอนเนอจี้ ฟันด์”(BGF Sustainable Energy Fund) และ กองทุน “เคแทม โกลบอล ไครเมท เชนจ์ อิควิตี้ ฟันด์” (KTAM Global Climate Change Equity Fund) ที่เน้นการลงทุนในบริษัทอุตสาหกรรม และธุรกิจพลังงานสะอาดทั่วโลก หลังปัจจุบันแนวโน้มการลงทุนในกลุ่ม ESG มีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมาก และได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องด้วยคนหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืนกันมากขึ้น โดยซิตี้แบงก์มอบข้อเสมอสุดพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจซื้อและขายกองทุนผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน รับเครดิตเงินคืนค่าธรรมเนียมการซื้อ 10% หรือสูงสุด 100,000 บาท เมื่อมียอดซื้อกองทุนรวมที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิตี้โกลด์ กรุณาติดต่อธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย โทร. 0-2081-0999 หรือ www.citibank.co.th/th/citigold รวมถึงเพิ่ม Citi Thailand เป็นเพื่อนทาง Line
นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มการลงทุนในกลุ่ม ESG ที่ประกอบไปด้วย E = Environment สิ่งแวดล้อม S = Social สังคม G = Governance ธรรมาภิบาล มีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์ที่ค่อนข้างมาก และได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนทั่วโลก เนื่องด้วยคนหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนที่มุ่งเน้นด้านการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาลเพื่อความยั่งยืนกันมากขึ้น เพราะอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาด้านธรรมชาติของโลกที่กำลังเผชิญ ดังนั้นการคว้าผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงนี้จึงมีนัยยะสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม ทั้งนี้การลงทุน ESG เป็นหนึ่งในรูปแบบการลงทุนที่ซิตี้ให้ความสำคัญในปี 2021 โดยซิตี้คาดว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกจะส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานต่าง ๆ ในอนาคต ตลอดจนนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าและประสิทธิภาพของพลังงานทางเลือกมีแนวโน้มเติบโตเป็นอย่างมากในไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ซิตี้พร้อมนำเสนอ 2 กองทุน ได้แก่ “บีจีเอฟ ซัสเตนนะเบิล เอนเนอจี้ ฟันด์” (BGF Sustainable Energy Fund) และ “เคแทม โกลบอล ไครเมท เชนจ์ อิควิตี้ ฟันด์” (KTAM Global Climate Change Equity Fund) ที่จะมาตอบโจทย์ลูกค้าซิตี้โกลด์ที่มีความสนใจการลงทุนแบบยั่งยืนในกลุ่ม ESG
สำหรับกองทุน BGF Sustainable Energy Fund ชนิดหน่วยลงทุน (share class) “D2” ในสกุลเงินเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ กับ บลจ. ชั้นนำระดับโลก แบล็คร็อค โกลบอล ฟันด์ (BlackRock Global Funds) ที่เน้นการลงทุนในหุ้นของบริษัทอุตสาหกรรมและธุรกิจพลังงานยั่งยืน ที่มีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก ภายใต้ 3 ธีมหลัก ได้แก่ พลังงานสะอาด (Clean Power) กลุ่มธุรกิจที่มีการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ช่วยลดโลกร้อน (Energy Efficiency) และการขนส่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้า (Clean Transportation) โดยจากข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี พบว่ากองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงกว่าดัชนีอ้างอิงอย่าง MSCI ACWI อีกทั้งสิ่งที่น่าสนใจอยู่ที่ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี ที่กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิงได้อย่างโดดเด่น (ที่มา BGF ข้อมูลไตรมาสที่ 1 ปี 2564)
ในขณะที่กองทุน “KTAM Global Climate Change Equity Fund ซึ่งลงทุนในกองทุนหลัก Schroder ISF Global Climate Change Equity Fund เน้นกระจายการลงทุนรวมในบริษัทอุตสาหกรรม และธุรกิจพลังงานสะอาดทั่วโลก หรือกลุ่มที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงจากภูมิอากาศ ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากความพยายามในการรองรับหรือจำกัด ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มพลังงานสะอาด (Clean Energy) 2.กลุ่มที่เกี่ยวกับการก่อสร้างหรือผลิตชิ้นส่วนที่ช่วยลดโลกร้อน (Energy Efficiency) 3.กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างประสิทธิภาพ (Environmental Resources) 4.กลุ่มบริษัทที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุสำคัญของปัญหาโลกร้อน (Low-Carbon Leader) และ 5.กลุ่มธุรกิจการขนส่งแบบยั่งยืนที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้า (Sustainable Transport) โดยจากข้อมูลพิจารณาผลตอบแทนมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งชโรเดอร์มีทีมนักวิเคราะห์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืนคอยดูแลโดยเฉพาะจำนวน 22 คน จากนักวิเคราะห์กว่า 100 คน
อย่างไรก็ตามซิตี้โกลด์ยังนำเสนอการบริการความมั่งคั่งในการกระจายการลงทุนได้ทั่วโลกกว่า 200 กองทุน จากพาร์ทเนอร์ทางการเงินที่หลากหลายกับ 5 บลจ.ในประเทศและ 13 บลจ.ต่างประเทศ โดยมีความหลากหลายของกองทุนทั้งประเภทของสินทรัพย์ และภูมิภาคของการลงทุน ซึ่งเป็นการกระจายความเสี่ยงของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี ตลอดจนการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าซิตี้โกลด์ โดยมีบริการผู้ดูแลบัญชีที่พร้อมให้บริการคำแนะนำและอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ การลงทุนให้กับลูกค้าผ่านทางโทรศัพท์รวมถึงการจัดประชุมทางวิดิโอ คอลล์ พร้อมทั้งให้การบริหารความมั่งคั่งสะดวกในทุกโอกาสผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน ให้ลูกค้าซิตี้โกลดสามารถทำการซื้อ-ขายกองทุนได้ด้วยตัวเอง การตรวจสอบความเคลื่อนไหวของพอร์ทการลงทุน การโอนเงินผ่านทางพร้อมเพย์ไปยังต่างธนาคาร หรือโอนเงินไปยังบัญชีต่างประเทศได้ง่าย ๆ รวมถึงสามารถเปิดบัญชีสกุลเงินต่างประเทศได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง โดยมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจซื้อและขายกองทุนผ่านซิตี้ โมบายล์ แอปพลิเคชัน รับเครดิตเงินคืนค่าธรรมเนียมการซื้อ 10% หรือสูงสุด 100,000 บาท เมื่อมียอดซื้อกองทุนรวมที่ร่วมรายการขั้นต่ำรวม 100,000 บาท ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 นายดอน กล่าวทิ้งท้าย
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับซิตี้โกลด์ กรุณาติดต่อธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย โทร. 0-2081-0999 หรือ www.citibank.co.th/th/citigold หรือ เพิ่ม Citi Thailand เป็นเพื่อนทาง LINE