กลุ่มบริษัท “เฮเฟเล่” ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ อุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ ระบบล็อคอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงระบบไฟแอลอีดีสำหรับเฟอร์นิเจอร์และอาคาร กวาดรายได้รวม 1.39 พันล้านยูโร ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก
เฮเฟเล่ หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่จากเมืองนาโกลด์ ประเทศเยอรมนี ดำเนินงานในธุรกิจอุปกรณ์เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำหรับงานบ้านและอาคาร ระบบล็อคอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมการเข้าออกและอุปกรณ์ไฟแสงสว่างแอลอีดี มาตั้งแต่ปี 2466 รวมระยะเวลากว่า 1 ศตวรรษ ที่เฮเฟเล่เติบโตจนเป็นที่เชื่อมั่นในกลุ่มอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ สถาปนิก นักวางแผน นักสร้างสรรค์เฟอร์นิเจอร์-ช่างไม้ และยังสร้างเครือข่ายธุรกิจผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มั่นคง รวมกว่า 150 ประเทศทั่วโลก
นางซิบิลี เธียเรอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) กลุ่ม บริษัท เฮเฟเล่ เผยว่า หัวใจหลักของเฮเฟเล่คือการดำเนินงานด้วยระบบครอบครัวพร้อมการปรับตัวปรับตัวให้เข้ากับการแพร่ระบาดจากสถานการณ์โควิด-19 ที่เราได้สอดแทรกแนวคิดนี้ไปยังบุคลากรและพนักงานที่ปฏิบัติงานทั่วโลกกว่า 8,000 คน จากกลุ่มบริษัทในเครือ 38 แห่ง ซึ่งแนวทางการทำงานนี้คือสิ่งที่ช่วยให้ เฮเฟเล่ สามารถสร้างสรรค์ผลลัพธ์ของงานที่มีคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
“อีกทั้งแนวคิดนี้ ยังมีส่วนสำคัญให้ เฮเฟเล่ สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้เสมอ รวมถึงการก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ทั่วโลกต้องเผชิญเมื่อปีก่อน อย่างโรคระบาด COVID-19 ด้วย”
นอกเหนือไปจากการคงมาตรฐานการทำงานที่ยอดเยี่ยมในช่วงวิกฤตแล้ว เฮเฟเล่ ยังได้มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพด้านโลจิสติกส์ ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์กระจายสินค้าที่สำนักงานใหญ่ในเมืองนาโกลด์ ที่เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าระหว่างประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์ของเฮเฟเล่ ได้มีการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจที่เริ่มฟื้นตัวในปัจจุบัน และยังได้มีการลงทุนกับคลังสินค้านานาชาติจำนวนมากที่บริษัทในเครือ 38 แห่งทั่วโลก ทำให้เฮเฟเล่ได้รับการยอมรับ ในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ทันสมัยร่วมกับพันธมิตร ที่สามารถจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าทั่วโลกได้อย่างรวดเร็วและตรงเวลา และไม่หยุดนิ่งต่อความลำบากและความท้าทายที่เกิดจากการแพร่ระบาด กระบวนการทำงานทั้งหมดในทุกส่วนของธุรกิจได้รับการปรับให้เข้ากับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดภายในเวลาอันสั้นและด้วยความพยายามอย่างมากจากทีมงาน มีกฎระเบียบที่ครอบคลุมที่ใช้ภายในแผนกธุรการสำหรับการทำงานที่บ้าน ในโลจิสติกส์ และการขายทำให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินงานจะดำเนินต่อไปโดยไม่หยุดชะงัก
นอกจากนี้ “เฮเฟเล่ มีฐานการผลิตรวม 5 แห่ง ที่ได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001 ทั้งในประเทศเยอรมนี, ฮังการี และในเอเชีย ซึ่งเมื่อรวมกับคุณภาพด้านโลจิสติกส์ และความทุ่มเทของครอบครัวเฮเฟเล่ จึงทำให้บริษัทมีศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเฟอร์นิเจอร์ทั่วโลกได้ดีเรายังมีสัดส่วนการส่งออกที่สูงถึง 79% พร้อมสร้างรายได้รวมกว่า 1.39 พันล้านยูโร แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม” นางซิบิลี กล่าวทิ้งท้าย